ประชาไท

เริ่มที่เศรษฐศาสตร์ มธ. ชูธงลงนามแล้ว 19 คน

เมื่อวันที่ 1 ก.พ. มีคณาจารย์จากคณะเศรษฐศาสตร์ ได้ลงนามเข้าชื่อจำนวน 19 คน เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้นายกฯลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบทางจริยธรรม เพราะหมดความชอบธรรมที่จะปกครองประเทศแล้ว โดยเห็นแก่ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ก่อนที่จะฉุดลากประเทศให้ถึงซึ่งความพินาศยิ่งไปกว่านี้

คณาจารย์ธรรมศาสตร์ที่ร่วมลงนามในครั้งนี้ ประกอบด้วย ศ.รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์, รศ.ดร. สมบูรณ์ ศิริประชัย , ดร.วันรักษ์ มิ่งมณีนาคิน, รศ.ดร.นิรมล สุธรรมกิจ, วัชรียา โตสงวน, ศ.ดร.ปราณี ทินกร, ดร. ดวงมณีเลาวกุล, ดร.วิไลวรรณ วรรณนิธิกุล, ดร. ดาว มงคลสมัย, รศ.ดร.เพลินพิศ สัตย์สงวน, ผศ.ดร.อภิชาติ สถิตนิรมัย, รศ.ภราดร ปรีดาศักดิ์, .รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย, รศ.ดร.เยาวเรศ ทับพันธุ์, รศ.ดร.สมนึก ทับพันธุ์, รศ.ดร.ชวินทร์ ลีนะบรรจง, ดร.เณศรา สุพานิช, รศ.ดร.สมชาย สุขสิริเสรีกุล, ผศ.ดร.อรวรรณ รัตนภากร

จุฬาฯก็เห็นพ้อง "แม้ว" ถึงเวลายุติบทบาท

ด้านคณาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ลงนามหนังสือเพื่อขอให้นายกฯลาออกประกอบด้วย ศ.ดร.จรัส สุวรรณมาลา, รศ.ดร. ไชยันต์ ไชยพร, ผศ.ตระกูล มีชัย, รศ. สุชาย ตรีรัตน์, ผศ.เอก ตั้งทรัพย์วัฒนา, ดร.ประภาส ปิ่นตบแต่ง, ศ.ดร.อนุสรณ์ ลิ่มมณี, อ.พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์, อ.กนกรัตน์ เลิศชูสกุล, อ.นฤมล ทับจุมพล จากภาควิชาปกครอง คณะรัฐศาสตร์ และ รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ คณะเศรษฐศาสตร์

ทั้งนี้ ดร.ประภาส ปิ่นตบแต่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในวันที่2 ก.พ. อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ จะประชุมร่วมกันอีกครั้ง ซึ่งอาจจะมีผู้ร่วมลงรายชื่อเพิ่มมากขึ้น

ม.อุบลหนุนอีก 8 มช.อีก 2

นอกจากคณาจารย์มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯแล้ว มหาวิทยาลัยในต่างจังหวัดก็เริ่มลงชื่อไม่ยอมรับความชอบธรรมในการบริหารประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ เช่นกัน คือ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ประกอบด้วย อ.พฤกษ์ เถาถวิล, ดร.กนกวรรณ มะโนรมย์, อ.เสนาะ เจริญพร, อ.พลวิเชียร ภูกองไชย, อ.ปิ่นวดี ศรีสุพรรณ, อ.ธีระพล อันมัย อ.สุระสม กฤษณะจูฑะ, อ. ธวัช มณีผ่อง จากคณะศิลปะศาสตร์

ส่วนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ผู้ร่วมลงนามได้แก่ รศ.ดร อรรถจักร สัตยานุรักษ์, ผศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล จากคณะสังคมศาสตร์

นอกเหนือจากกลุ่มนักวิชาการข้างต้น การเคลื่อนไหวล่ารายชื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งครั้งนี้ ได้กระจายไปตามสายต่างๆ ทั้งในส่วนของราษฎรอาวุโส เช่น นพ.ประเวศ วะสี นพ.เสม พริ้งพวงแก้ว นายอานันท์ ปันยารชุน, นายณรงค์ โชควัฒนา เป็นต้น

"ชัยอนันต์" ขอนำล่ารายชื่อนักวิชาการทั่วประเทศ

ศ.ดร ชัยอนันต์ สมุทรวาณิช ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายศึกษา เปิดเผยว่าระบุว่า ขณะนี้ได้รวบรวมรายชื่อนักวิชาการ 100 คนแล้วและในวันที่ 2 ก.พ.จะเริ่มล่ารายชื่อนักวิชาการจากทั่วประเทศ เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออก โดยให้เหตุผลว่า การบริหารประเทศของรัฐบาลทักษิณ หมดความชอบธรรม นายกฯได้ทำลายหลักการสำคัญของรัฐธรรมนูญจนหมดสิ้นด้วยการใช้อำนาจเสียงข้างมากและการแทรกแซง ครอบงำวุฒิสภา บั่นทอน ล้มล้างความเป็นอิสระขององค์กรตามกฏหมายรัฐธรรมนูญ ทำให้องค์กรต่างๆ ไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายบริหารได้ ถือเป็นการทำลายกระบวนการปฏิรูปการเมืองที่ประชาชนได้สละชีวิตร่วมกันสร้างมา ปล่อยให้เกิดการคอร์รัปชันภายใต้กลุ่มคนใกล้ชิดของรัฐบาล และญาติตระกูล จากโครงการสัมปทานของรัฐ

สมาพันธ์ประชาธิปไตยและพันธมิตรก็เคลื่อนกล่าวโทษนายกฯต่อดีเอสไอ

ด้าน นพ.เหวง โตจิราการ ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตย พร้อมด้วยนายดนัย อนันติโย ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น และนายศิริชัย ไม้งาม เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เดินทางเข้ากล่าวโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต่อพ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อตรวจสอบการซื้อขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผ่านบริษัทแอมเพิล ริช อินเวสเมนท์ และดำเนินการตามกฎหมายสอบสวนคดีพิเศษ

 นพ.เหวง ยังได้อ่านแถลงการณ์ของสมานพันธ์ประชาธิปไตยระบุว่า ขอให้นายกฯลาออก เพราะนโยบายที่สำคัญที่สุด 3 ประการคือ สงครามต่อต้านคอรัปชั่น สงครามต่อต้านความยากจน และสงครามปราบปรามยาเสพติด ล้วนไม่ประสบความสำเร็จ

นอกจากนี้ นายกฯยังทรยศหักหลังประชาชน ในการแก้ไขกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ เพราะนายกฯเคยลงชื่อให้แก้ไขกฎหมาย 11 ฉบับ แต่กลับดันทุรังเอาการไฟฟ้าฝ่ายผลิตไปขายในตลาดหลักทรัพย์ทำให้ประเทศต้องเสียหายทางอธิปไตย ล่าสุดการขายหุ้นชินคอร์ป ใน 5ด้าน ได้แก่ ดาวเทียม โครงข่ายโทรศัพท์มือถือ ไอทีวี สายการบินไทยแอร์เอเชีย และเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง เป็นการขายสัมปทานของรัฐ ไม่ใช่สมบัติส่วนตัว   

วันนี้ ดีเดย์นักวิชาการรวมตัวที่รัฐสภา

ด้านนายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ เปิดเผยว่าวันนี้ จะมีนักวิชาการบางส่วนไปรวมตัวกันที่รัฐสภาเพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง เพราะขาดความชอบธรรมในการบริหารบ้านเมืองแม้ทำถูกกฎหมายแต่ก็มีเจตนาใช้กฎหมายเพื่อหาประโยชน์ให้ตัวเอง

ทั้งนี้นายปราโมทย์ยังได้แสดงความเป็นห่วงการเคลื่อนไหวในวันที่ 4 ก.พ. ที่จะถึงว่าน่าเป็นห่วงสถานการณ์ลุกลามถึงขึ้นนองเลือดเนื่องจากผู้คนมากจาต่างสายเหมือนแม่น้ำหลายสายมารวมกัน หากไม่สามารถประคับประคองสถานการณ์ให้ดีเหตุการณ์อาจลุกลามบานปลายได้