Skip to main content
sharethis


ประชาไท - 2 ก.พ. 49      กลุ่ม นักวิชาการ สว. อดีตนักการเมือง นักธุรกิจ 128 คน ลงชื่อ ขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง เปิดแถลงข่าว เวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา วันนี้ (2 ก.พ.)


 


หลังจากเมื่อวันที่ 1 ก.พ.  ที่ ศ.ดร. ชัยอนันต์ สมุทรวาณิช นักวิชาการอาวุโส เป็นแกนนำในการล่ารายชื่อแนบท้ายหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ยุติบทบาทในการบริหารประเทศ ในวันนี้ นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายสุเทพ อัตถากร นายพิเชฐ พัฒนโชติ นายวิทยา วิเศษรัตน์ และนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ได้เข้าไปที่รัฐสภา เพื่อแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ และถือว่าเป็นการยื่นหนังสือต่อผู้มีอำนาจผ่านสื่อมวลชน


 


ทั้งนี้มีการยืนยันจะไม่มีการยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีโดยตรงเพราะที่ผ่านมานายกฯไม่เคยแสดงออกในการให้เกียรติในการเรียกร้องของประชาชนอยู่แล้ว


 


นายสุเทพ อัตถากร อดีตนักการเมือง ได้อ่านหนังสือดังกล่าวต่อสื่อมวลชน สรุปความได้ว่า นายกฯทำลายหลักการสำคัญของรัฐธรรมนูญ ใช้เลียงข้างมากแทรกแซง ครอบงำวุฒิสภา บั่นทอนล้มล้างองค์กรอิสระ ปิดกั้นเสรีภาพสื่อมวลชนและการชุมนุมโดยสันติของประชาชน สร้างหนี้โดยนโยบายหว่านเงินจนเกิดความเคยชินในการบริโภคจนสังคมวิบัติอย่างไม่เคยเป็น และก่อให้เกิดความแตกแยกในภาคใต้


 


นอกจากนี้ยังปล่อยให้มีการคอรัปชั่น เปิดโอกาสให้ญาติพี่น้องหาผลประโยชน์จากโครงการของรัฐ ดังเหตุผลข้างต้นจึงขอให้นายกฯลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบทางจริยธรรม เพราะตอนนี้หมดความชอบธรรมทางการเมืองแล้ว ขอให้ยุติบทบาทในฐานะนายกฯตั้งแต่บัดนี้


 


นายประสาร มฤคพิทักษ์ นักธุรกิจ กล่าวเสริมว่า นายกมีบาป 4 ประการ ที่ทำให้หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ


 


บาปแรก คือโกงบูรณาการ ในกรณีการขายหุ้นชินคอร์ปอเรชั่น โดยไม่ต้องเสียภาษี การลดภาษีหุ้น ไอพีสตาร์ การลดค่าสัมปทานไอทีวี หรือการใช้แอมเพิล ริช ในการฟอกเงิน ในขณะที่คนชั้นกลาง ชาวไร่ ชาวนา หาบเร่ แผงลอยถูกรีดภาษีทุกเม็ดเงิน


 


บาปที่สอง คือการทำลายระบบตรวจสอบโดยใช้ช่องว่างทางกฎหมายจนทำให้องค์กรอิสระ ทั้ง ปปง. ปปช. ศาลรัฐธรรมนูญ คตง. ไม่สามารถตรวจสอบได้ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ


 


บาปที่สาม คือครอบงำสื่อ และปิดกั้นการชุมนุมโดยสงบของประชาชนที่เลวร้ายยิ่งกว่ายุคเผด็จการ  ส่วนบาปประการสุดท้ายคือสร้างหนี้และความยากจนให้คนไทยจนมีหนี้ครัวเรือนละ 40,000 บาท ทั้งนี้ อาจสามารถโมเดล เป็นเครื่องหมายที่ทำให้เห็นว่า รัฐแก้ปัญหาไม่ได้จึงต้องทำให้เป็นการแสดง


 


นายวิทยา วิเศษ รัตน์ ตัวแทนไทยมุสลิม ระบุว่า ปัญหาภาคใต้แก้ไขได้โดยเอาพันตำรวจโทคนหนึ่งออกไป การส่งชุดสมานฉันท์แก้ไม่ได้ เพราะมีการส่งทหารตามลงไปอีกมากมาย จนขณะนี้คนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เวลาออกไปข้างนอกไม่รู้จะถูกลูกหลงเมื่อไร


 


ส่วนนาย ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตหัวหน้าพรรคพลังธรรม เรียกร้องให้ประชาชนออกมาแสดงเจตนารมณ์ว่า ต้องการให้นายกฯลาออกผ่านประชามติในทุกๆเวที เพราะผู้นำขาดคุณธรรม ปัญหาต่างๆที่มีตอนนี้ล้วนมาจากเรื่องจริยธรรมของนายกฯ


 


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากยื่นหนังสือแล้วมีความคาดหวังแค่ไหน และจะทำอย่างไรต่อไป นาย สุเทพ กล่าวว่า ต่อไปจะให้เป็นไปตามกระบวนการที่ควรเป็น เพียงแต่ตอนนี้ขอเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยประชาชน ส่วนใครจะมาบริหารประเทศแทนนั้นประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง


 


นอกจากนี้ยังเชื่อว่าทุกฝ่ายจะเคลื่อนไหวต่อไป แม้แต่ในวันที่ 4 ก.พ. ใครจะไปร่วมชุมนุมก็สามารถทำได้โดยอิสระ ทุกอย่างต้องเป็นไปโดยอิสระเหมือนสายน้ำหลายสายไหลมารวมกันอย่างรวดเร็วในทิศทางเดียวกันโดยธรรมชาติ


 


นายประสารกล่าวเสริมในประเด็นดังกล่าวว่า การชุมนุมในวันที่ 4 ก.พ. เป็นการชุมนุมโดยสันติ หากความรุนแรงจะเกิดขึ้นก็เป็นเพราะเจ้าหน้าที่อย่างเดียว จึงอยากให้รัฐทบทวนบทเรียน ของ 14 ตุลา 6 ตุลา และพฤษภาทมิฬ อย่าทำให้ประชาชนบาดเจ็บล้มตายจนเป็นรอยด่างของประวัติศาสตร์อีกครั้ง


 


นอกจากนี้ หากนายกฯ จะมองว่าการรวมตัวที่เกิดขึ้นเป็นการพูดของขาประจำนั้น คงต้องมองใหม่ เพราะตอนนี้คนที่ไม่เคยเป็นขาประจำก็มาร่วมด้วย ยิ่งมีกรณีการซุกหุ้น 2 ยิ่งทำให้คนทนไม่ได้


 


"บ่ายนี้ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ก็จะมีแถลงข่าว เมื่อวานนี้ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็มีแถลงไปแล้ว นำโดย ศ. รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ และจะมีแบบนี้ต่อไปอีกหลายองค์กร ทางวุฒิสภาก็มีข่าวว่าจะล่ารายชื่อ แปลว่าไม่ใช่ขาประจำเดิมๆ แต่จะขยายไปอีกนับแสนนับล้าน" นายประสารกล่าว


 


ก่อนจะปิดการแถลงข่าว นายสุเทพ วงษ์กำแหง ศิลปินอาวุโส เข้ามาร่วมการแถลงข่าวด้วย โดยได้ส่งแฟกซ์มาบอกล่วงหน้า พร้อมนำรายชื่อศิลปินมาเพิ่มเติมอีก 4 คน


 


นายสุเทพ ขอบตาแดงก่ำและกล่าวด้วยน้ำตาปริ่ม ว่า "อัดอั้นตันใจในสิ่งที่ได้รับจากรัฐบาล รัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะทำประโยชน์ แต่รัฐบาลกลับได้ประโยชน์ฝ่ายเดียว ประเทศต้องการคนดีกว่านี้ คือคนที่มีหิริ โอตัปปะ"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net