Skip to main content
sharethis


 

ประชาไท—3 ก.พ. 2549 ภาคีคนฮักเจียงใหม่ เตรียมบุกกรุงสมทบม็อบสนธิ เป้าหมายดึงทักษิณลงจากเก้าอี้ เพื่อหยุดเมกะโปรเจ็กต์กว่าหมื่นล้านที่จะสร้างผลเสียต่อเมืองเชียงใหม่ ย้ำจำต้องร่วมเคลื่อนไหวเพราะหลายโครงการของรัฐไม่โปร่งใส ไม่ผ่านกระบวนการสภา


 


ศ.เฉลิม แซมเพชร ตัวแทนภาคีคนฮักเจียงใหม่ ได้กล่าวในรายการร่วมด้วยช่วยกัน สถานีวิทยุเสียงสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในช่วงฟันธงตรงประเด็นว่า ทางกลุ่มภาคีคนฮักเจียงใหม่พร้อมที่จะลงไปร่วมชุมนุมฯ ในวันที่ 4 ก.พ.นี้ ที่กรุงเทพฯ เนื่องจากว่า เชียงใหม่กำลังได้รับผลกระทบจากเมกะโปรเจกที่รัฐบาลนำมา ซึ่งเห็นว่ามันมีข้อเสียมากกว่าข้อดี อีกทั้งหลายๆ โครงการก็มีการปกปิดข้อมูล ไม่โปร่งใส ไม่ชัดเจน


 


"ถึงแม้ว่างานชุมนุมของคุณสนธิ อาจจะไม่ได้สนองตอบกับวัตถุประสงค์ของเราโดยตรง แต่มันก็เป็นผลทางอ้อม ซึ่งเราเห็นด้วยกับข้อมูลของความไม่ชอบมาพากลของรัฐบาลที่มาจากคุณสนธิ หรือจากข้อมูลของสื่อต่างๆ ที่นำเสนอออกมา เห็นได้ว่า ทุกคนรู้สึกอึดอัดกับภาวการณ์เช่นนี้ ดังนั้น เราจึงขอสนับสนุนการชุมนุมในครั้งนี้"


 


ศ.เฉลิมพล กล่าวอีกว่า เพราะฉะนั้นภาคีคนฮักเจียงใหม่จึงสนับสนุนให้สมาชิกภาคีฯ เข้าร่วมชุมนุมในครั้งนี้ได้อย่างอิสระ แต่จะไม่มีการจัดรถทัวร์เป็นหมู่คณะ เพราะไม่อยากให้ถูกกล่าวหาว่าเป็นการจัดม็อบ แต่จะให้แต่ละคนที่ต้องการเข้าร่วม ไปกันเองด้วยความสมัครใจโดยใช้เงินส่วนตัว ซึ่งทุกวันนี้ ภาคีคนฮักเจียงใหม่อยู่ได้โดยไม่ได้มีงบประมาณสนับสนุนอะไร ต่างคนต่างควักจ่ายกันเองอยู่แล้ว


 


"ความไม่โปร่งใส ทุจริต คอรัปชั่น เมกะโปรเจ็กต์ที่กำลังเข้ามาในเชียงใหม่นี้ มันจะหยุดลงได้ ก็ต่อเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งตรงนี้ คุณสนธิมีพลังที่พอจะต่อรอง และเราก็เชื่อข้อมูลเหล่านั้นค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้น ที่ออกมาเสนอให้มีการถวายพระราชอำนาจ เราก็เห็นด้วย และคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องดำเนินการอะไรบางอย่างที่จะยุติตรงนี้ให้ได้"


 


ในขณะที่ ศ.เฉลิมพล กำลังพูดในรายการร่วมด้วยช่วยกัน อยู่นั้น ได้มีผู้ฟังรายการโทรศัพท์เข้ามา แสดงความคิดเห็นโดยเสนอให้ ศ. เฉลิมพลพยายามวางตัวเป็นกลาง และไม่อยากให้มีการเคลื่อนไหวไปร่วมชุมนุมกันที่กรุงเทพฯ เพราะจะส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป อีกทั้งตั้งคำถามว่าทำไมไม่ใช้กระบวนการทางกฎหมาย ทางศาล หรือทางรัฐสภา


 


ตัวแทนภาคีคนฮักเจียงใหม่ กล่าวว่า การใช้กระบวนการตามขั้นตอนนั้น ก็ถือเป็นเรื่องหลักการที่ถูกต้อง แต่ถ้าติดตามดูให้ดี ก็จะเห็นว่า มีหลายสิ่งหลายอย่างที่รัฐบาลที่นำโดยนายกฯ ทักษิณกระทำโดยไม่ได้ผ่านทางสภาโดยตรง เช่น กรณีการเปิดเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ หรือเมกะโปรเจ็กต์ต่างๆ ที่จะเข้ามาเชียงใหม่ ซึ่งมีวงเงินงบประมาณเป็นหมื่นๆ ล้าน ก็ไม่ได้ผ่านสภา ซึ่ง ศ.เฉลิมพลกล่าวว่าสิ่งเหล่านี้คือเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน และถึงแม้ว่าจะมีบางเรื่องที่ผ่านสภา แต่สุดท้ายก็สู้เสียงข้างมากไม่ได้


 


"กรณีที่การเคลื่อนไหวที่เชียงใหม่ค่อนข้างเงียบนั้น ก็อยากจะบอกกับประชาชนทั่วไปว่า ถ้าเรายึดหลักความถูกต้องมากกว่าความถูกใจ เราไม่ต้องกลัวอะไรหรอก เพราะถ้ามันเป็นเรื่องถูกต้อง เมื่อมันต้องเสียเราก็ต้องเสีย ซึ่งเราไม่ได้หลีกเลี่ยงภาษีเหมือนบางคน เพราะฉะนั้น ถ้าเราทำในเรื่องที่ถูกต้อง ทำเพื่อประเทศชาติ ก็ต้องออกมาเรียกร้อง แต่ก็เห็นใจชาวบ้าน เพราะว่า ระบบการปกครองท้องถิ่นไม่ว่า อบต.ต่างๆ ในขณะนี้ยังเป็นเรื่องของการเมืองอยู่ ยังไม่มีความเป็นอิสระ นักการเมืองเข้ามาควบคุมได้ ทำให้ประชาชนไม่ได้รับอำนาจการตัดสินใจโดยตรง นี่คือจุดอ่อนของการปกครองท้องถิ่นในขณะนี้ ซึ่งถือว่า เป็นเรื่องที่รุนแรงมากที่สุดภายใต้รัฐบาลชุดนี้" ตัวแทนภาคีคนฮีกเจียงใหม่ กล่าวทิ้งท้าย


 


ทั้งนี้ ภาคีคนฮักเจียงใหม่ เป็นองค์กรภาคประชาชน ที่ก่อตั้งขึ้นโดยมีประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งนักวิชาการ นักคิดนักเขียน ศิลปิน พ่อค้า นักธุรกิจ รวมทั้งพระสงฆ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น และปกป้องฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมของเมืองเชียงใหม่ และทำการตรวจสอบโครงการพัฒนาต่างๆ ที่อาจจะก่อเกิดผลกระทบต่อวิถีชีวิต สังคม ประเพณีวัฒนธรรมของเมืองเชียงใหม่ในอนาคต


 


สำหรับการเคลื่อนไหวในวันที่ 4 ก.พ.ที่จะถึงนี้ แสงดาว ศรัทธามั่น,ชิ สุวิชาน ศิลปินล้านนา-ปวาเก่อญอ จากกลุ่มศิลปินภาคเหนือ จะเข้าร่วมกิจกรรมบนเวทีโดยอ่านบทกวีและแสดงดนตรีในเวทีด้วย


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net