ในช่วงที่นายกทักษิณของเราลงพื้นที่ที่อาจสามารถ เพื่อแก้ไขปัญหาความ ยากจน โดยมีการถ่ายทอดออกทีวีในลักษณะเรียลลิตีโชว์หรือการถ่ายทอดสดต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลาถึง 5 วัน นั้น ขณะที่สื่อมวลชนทั้งหลายกำลังตื่นเต้นฮือฮากับการโชว์ของนายกทักษิณ ปรากฏว่าในระหว่างนั้นมีข่าวต่างประเทศเล็กๆเกี่ยวกับเรียลลิตีโชว์ในหนังสือพิมพ์ข่าวสดว่า ที่สวนสัตว์กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก ได้มีการจัดรายการถ่ายทอดสดชีวิตจริงกอริลลาแบบ "เรียลลิตี" เพื่อให้ผู้ชมโหวตเลือกลิงตัวโปรด ผลปรากฎว่าเจ้าจ๋อ "ริชาร์ด"  ลิงกอริลลาเพศผู้สีดำ อายุ 14 ปี เป็นผู้ชนะ

ริชาร์ด ซึ่งเป็นลิงจ่าฝูงในกลุ่มกอริลลา 4 ตัว ได้รับคะแนนโหวตจากผู้ชมมาก ที่สุด ในรายการเรียลลิตีโชว์แฉชีวิตกอริลลาดังกล่าวที่ใช้ชื่อว่า "Odhaleni" ซึ่งสวนสัตว์   กรุงปรากจัดขึ้นตามกระแสความนิยมรายการแบบเรียลลิตีโชว์ของชาวเช็ก โดยใช้กล้อง 15 ตัว ถ่ายทอดสดชีวิตกอริลลาเพศผู้ 1 ตัว เพศเมีย 3 ตัว ผ่านเว็บไซต์ทางอินเตอร์เน็ตตั้งแต่เมื่อ   7 พ.ย.ปีก่อน พร้อมกับเปิดให้ผู้ชมโหวตเลือกกอริลลาตัวโปรดที่สุดผ่านเอสเอ็มเอส

เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ปราก กล่าวว่า ริชาร์ดได้คะแนนนำในหลายสัปดาห์ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมาก เพราะดูพฤติกรรมของมันแล้วบางครั้งมันไม่ค่อยน่ารัก ชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่ นายมิโรสลาฟ โบเบ็ค ผู้ผลิตเรียลลิตีโชว์กอริลลา กล่าวว่า รูปแบบของรายการมีลักษณะกึ่งเสียดสีประชดประชันชีวิตจริงของคน ในขณะเดียวกันก็แฝงการศึกษาเรื่องชีวิตสัตว์ไว้ด้วย ส่วนของรางวัลที่ริชาร์ดได้รับคือ แตงโม 12 ลูก ส่วนรายได้จากการโหวตผ่าน   เอสเอ็มเอสจะนำไปบริจาคกองทุนอนุรักษ์กอริลลาในแอฟริกาต่อไป

ในรอบปีที่ผ่านมาสังคมเช็กเห่อรายการแบบเรียลลิตีโชว์ถ่ายทดสดชีวิตคนมาก     โดยเผยแพร่ตามสถานีโทรทัศน์ใหญ่ๆ ของประเทศ แม้กระทั่งสวนสัตว์เองก็หยิบเอารายการ  เรียลลิตีโชว์ของสัตว์ขึ้นมาโดยได้รับไฟเขียวจากนายกรัฐมนตรี จีรี ปารูเบค ให้ผลิตรายการได้ เพราะด้วยเหตุผลที่ว่ารายการเรียลลิตีโชว์ชีวิตสัตว์มีรสนิยมดีกว่าเรียลลิตีโชว์ของคนที่เกิดปัญหาบ่อยเพราะผู้ร่วมรายการมักจะพูดจาหยาบคายและมีพฤติกรรมล่อแหลมเรื่องชู้สาวและเรื่องเพศ จนรายการถูกสั่งปรับฐานอนาจารไปหลายครั้ง

จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ได้ข้อคิดต่างๆ มากมายเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับ รายการเรียลลิตีโชว์อื่นๆ ของบ้านเรา อย่างน้อยที่สุดก็เห็นได้ว่า "ลิง" นั้น แสดงได้เป็นธรรมชาติกว่าคน ที่สำคัญคือผู้ชมได้ความรู้ในเรื่องชีวิตของ "สัตว์" มากกว่าความรู้ในเรื่องชีวิตของ "คน" ที่มีแต่การเสแสร้งตลอดเวลา ถึงแม้ว่าจะเป็นการแสดงตามความเป็นจริงที่เรียกกันว่าเรียลลิตี ก็ตาม

การจัดเรียลลิตีโชว์แก้จนที่อาจสามารถของนายกทักษิณนั้น มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ที่ไม่เห็นด้วยก็บอกว่าเป็นการแสดงถึงให้เห็นถึงความอับจนทางปัญญาเพราะเชื่อว่าสาเหตุของความยากจนของประชาชนเป็นโครงสร้างอันเกิดมาจากนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจที่ผิดพลาด และการผูกขาดของกลุ่มทุนรายใหญ่ เช่นปัญหาของการถือครองที่ดิน การเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติ ฯลฯ โดยมองว่าการแก้ปัญหาเช่นนี้เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ  ไร้สาระและสิ้นเปลืองงบประมาณ

แต่ที่เห็นด้วยกับเรียลลิตีโชว์ที่อาจสามารถก็บอกว่าอย่างน้อยที่สุดก็ทำให้นายกทักษิณเองได้รู้ว่ายังมีคนจนแบบที่พบเจอที่อาจสามารถอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ที่สำคัญก็คือทำให้กระทรวง ทบวง กรม ต่างๆหันกลับมาให้ความสนใจในการแก้ไขปัญหาความยากจนกันอีกครั้งหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาแบบไฟไหม้ฟางก็ตาม

แต่เดิมเห็นว่าก่อนที่นายกทักษิณจะไปอาจสามารถนั้นได้มีโครงการที่จะไปออกเรียลลิตีโชว์แก้ปัญหาความยากจนครั้งที่ 2 ที่อมก๋อยพร้อมกับประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่  ไนท์ซาฟารี จ.เชียงใหม่อีก แต่ภายหลังจากการจัดเรียลลิตีโชว์ที่อาจสามารถแล้วคงจะเหนื่อยมาก จึงจะเหลือแต่เพียงการประชุม ครม.สัญจรที่สวนสัตว์ไนท์ซาฟารีในระหว่าง วันที่ 6-7 ก.พ. ศกนี้เท่านั้น

แน่นอนครับในสังคมประชาธิปไตยย่อมมีทั้งคนที่เห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยกับการประชุม ครม.สัญจรในครั้งนี้ ที่เห็นด้วยก็บอกว่าดีแล้วคงจะมีการอนุมัติเงินหรือโครงการอีกมากมาย ประชาชนก็จะได้อานิสงส์ผลบุญจากการประชุมครั้งนี้กันถ้วนทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียงอีกแล้ว

ที่ไม่เห็นด้วยก็บอกว่าการไปประชุม ครม.สัญจรที่สวนสัตว์ไนท์ซาฟารีนั้นไม่ สมควรเพระปัญหาสวนสัตว์ไนท์ซาฟารียังเป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างการถกเถียงถึงความถูกต้องชอบธรรมและความจำเป็นของสังคม การจัดให้มีการประชุม ครม.ที่นี่ก็เสมือนเป็นการเลือกขั้วของความขัดแย้งทั้งๆ ที่กรณีดังกล่าวยังไม่มีข้อยุติ และรัฐบาลสามารถเลือกสถานที่อื่นในจังหวัดเชียงใหม่ได้อีกทั้งยังเชื่อว่านานาชาติก็คงจะจับตาการประชุมครั้งนี้ว่าตลกและแปลกประหลาดยิ่งที่เมืองไทยจะมีการประชุม ครม.ในสวนสัตว์

หากเรามองย้อนกลับไปดูการจัดเรียลลิตีโชว์ จนถึงกระประชุมครม.ในสวนสัตว์สำหรับผมแล้วเห็นว่าไม่น่าแปลกใจเท่าไรนัก เพราะเป็นกลยุทธ์การสร้างกระแสข่าวธรรมดา ๆ นี่เองและหากจะมองโลกในแง่ดีก็อาจมองได้ว่า ก็ในเมื่อ ครม.ทั้งหลายประกอบขึ้นจากบรรดานักการเมืองที่มีประสบการณ์ที่ช่ำชองหรือพูดง่ายๆ ว่า "เขี้ยว" ในระดับเสือ สิงห์ กระทิง แรด กันทั้งนั้น

ฉะนั้น จึงไม่น่าที่จะเป็นการแปลกประหลาดอันใดที่จะจัดประชุม ครม. ขึ้นในสวนสัตว์ที่แวดล้อมไปด้วยบรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลาย ถ้าจะให้ดีหากจะมีการถ่ายทอดสดหรือ จัดเรียลลิตีโชว์ให้บรรดาเสือ สิงห์ กระทิง แรด ทั้งหลายและชาวบ้านชาวช่องได้ชมการถ่ายทอดสดแล้วเปิดโอกาสให้โหวตออกบ้างก็คงสนุกดีพิลึก

และก็ไม่แน่นักหรอกว่าคนที่เหลืออยู่คนสุดท้ายอาจจะไม่ใช่นายกทักษิณก็ได้นะครับ เพราะอาจจะมีคนใน ครม.ที่เขี้ยวกว่า เหลืออยู่ ซึ่งก็จะเป็นการตอบปัญหาของคนที่ชอบถามว่า

"ถ้าไม่เอาทักษิณเป็นนายกฯแล้วจะเอาใคร"