ฝ่ายค้านบุกสิงคโปร์ ไร้ร่องรอยแอมเพิลริช

นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงในรายการ "นายกฯทักษิณพบประชาชน" ว่า มีบริษัทแอมเพิลริชเพียงบริษัทเดียว และการที่ฝ่ายค้านระบุว่ามีแอมเพิลริช 2 บริษัทเป็นการบิดเบือนข้อมูลนั้น ตนได้ดูเอกสารรายชื่อบัญชีผู้ถือหุ้นจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า มีการแจ้งไว้ 2 บริษัทจริง โดยบริษัทแอมเพิลริช 1 ได้ระบุที่อยู่เลขที่ 57 UBI AVENUE 1 ประเทศสิงคโปร์ ส่วนแอมเพิลริช 2 อยู่ที่เลขที่ 185 A อาคาร GOLDHILL CENTRE ประเทศสิงคโปร์ และตนได้รับมอบหมายจากทางพรรคประชาธิปัตย์ให้เดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์เพื่อตรวจสอบสถานที่ดังกล่าวเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมาพบว่า ที่อยู่ที่แจ้งไว้นั้นมีอยู่จริง แต่ปรากฏว่าไม่ใช่บริษัทแอมเพิลริช


 

นายศิริโชค กล่าวว่า จากการตรวจสอบอาคาร UBI ซึ่งเป็นที่อยู่ของแอมเพิลริช 1 พบว่าเป็นตึกเก่าๆ ในนิคมอุตสาหกรรมชานเมือง แต่ไม่สามารถเข้าไปข้างในได้เพราะเป็นวันหยุด แต่จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นยืนยันว่าไม่มีบริษัทแอมเพิลริชเช่าอยู่ในอาคาร ส่วนที่อยู่ของแอมเพิลริช 2 พบว่าเป็นบริษัท IMBERLEY GLOBAL และเมื่อเข้าไปตรวจสอบและซักถามเจ้าหน้าที่ในบริษัท ก็ได้รับข้อมูลว่าบริษัทนี้ตั้งมานานแล้ว และไม่รู้จักบริษัทแอมเพิลริชแต่อย่างใด

 

"ดังนั้นสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์ต้องทำคือในทะเบียนของผู้ถือหุ้นทำไมถึงแจ้งที่อยู่นี้ ทั้งที่ไม่มีบริษัทจริง และปล่อยให้ใช้ที่อยู่นี้ได้อย่างไร มีการตรวจสอบก่อนหรือไม่ ทั้งยังต้องถามนายกฯ ว่าทำอะไรอยู่ สรุปแล้วบริษัทนี้มีที่อยู่ที่สิงค์โปร์จริงหรือไม่ หรือทำขึ้นเพื่อไปยื่นให้กระทรวงพาณิชย์เฉยๆ เหมือนอยู่ดีๆ หยิบที่อยู่ใครก็ได้มาใส่ ถ้ากระทรวงพาณิชย์เป็นอย่างนี้ก็น่าเป็นห่วง นอกจากนี้ กลต.เองก็ต้องตอบคำถามเช่นกัน เพราะการซื้อขายหุ้นของบริษัทนี้มีเป็นหมื่นๆ ล้าน แต่ปรากฏว่าบริษัทไม่มีตัวตน เหมือนเป็นการอุปโลกย์บริษัทขึ้นมาเพื่อถือหุ้น มันผิดปกติอย่างชัดเจน เพราะดูสภาพแล้วบริษัทนี้ไม่มีศักยภาพพอที่จะไปถือหุ้นมากมายขนาดนั้นได้ ซึ่งนายกฯต้องเอาหลักฐานมาชี้แจง" นายศิริโชค กล่าว

 

นายศิริโชค กล่าวว่า ในเรื่องนี้ทางพรรคจะมีการแกะรอยต่อไป โดยในสัปดาห์นี้จะเดินทางไปดูข้อเท็จจริงที่ตึก UBI ว่ามีบริษัทแอมเพิลริชอยู่จริงหรือไม่ และจะเดินทางไปตรวจสอบที่เกาะบริติช เวอร์จิ้น ด้วย เพราะยิ่งตรวจสอบยิ่งพบสิ่งผิดปกติ ทั้งเรื่องไม่จ่ายภาษี รวมถึงการเข้าข่ายซุกหุ้นหรือไม่ และล่าสุดน่าจะเข้าข่ายแจ้งข้อความเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานด้วย ซึ่งจะมีการนำเรื่องนี้เข้าหารือกับที่ประชุมพรรคด้วย

 

อย่างไรก็ตามตนได้เรียนเรื่องนี้ต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคแล้ว เนื่องจากได้เดินทางไปสิงคโปร์พร้อมกัน โดยนายอภิสิทธิ์ได้เข้าพบผู้บริหารบริษัทธุรกิจโทรคมนาคม และผู้บริหาร บริษัทสิงเทล คือนายลี เชียน ยัง น้องชายของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ และได้มีการพูดคุยถึงปัญหาความรู้สึกในเรื่องที่เกิดขึ้น แม้จะนำรายละเอียดมาเปิดเผยไม่ได้ แต่ยอมรับว่านักธุรกิจทั่วไปรู้สึกไม่สบายใจในสิ่งที่เกิดขึ้น

 

.................................................................

คัดสรรจาก : เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ 13 กุมภาพันธ์ 2549

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท