Skip to main content
sharethis


 


"ปัญหาที่เห็นชัดเจนหลังได้สัญชาติคืน คือทางอำเภอไม่ยอมรับคำร้อง กรณีเด็กเกิดใหม่ กับคนที่อายุ 15 ปี ไปขอทำบัตรประชาชนแล้วแต่ทางอำเภอไม่รับคำร้อง ผมว่ามันต้องมีอะไรสักอย่าง ว่าทำไมไม่รับคำร้อง..." นิกร เจนหงษ์ ชาวบ้านแม่อาย กล่าวกับ "ประชาไท"


 


นับจากวันที่ 5 ก.พ.2545 ที่มีคำสั่งอำเภอแม่อาย ให้จำหน่ายชื่อชาวแม่อายจำนวน 1,234 คน ออกจากทะเบียนราษฎร์ จนชาวบ้านต้องออกมาฟ้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่และศาลปกครองสูงสุด ยืดเยื้อยาวนานมาเกือบ 4 ปี จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 ก.ย.2548 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งชี้ขาดว่า คำสั่งปกครองดังกล่าวนั้นออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และให้มีเพิกถอนประกาศอำเภอทั้งฉบับและให้มีผลต่อผู้กระทบจากประกาศดังกล่าวทุกคนนั้น


 


ล่าสุด นายนิกร เจนหงส์ ชาวบ้านบ้านวังไฮ ต.แม่นาวาง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ หนึ่งในผู้เคยถูกถอดสัญชาติได้เปิดเผยต่อ "ประชาไท" ว่า ถึงแม้ว่าชาวบ้านที่ฟ้องร้องต่อศาลปกครอง จะได้สัญชาติคืนกันหมดแล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาตามมาอยู่ คือกรณีที่มีเด็กเกิดใหม่ เมื่อผู้ปกครองไปยื่นคำร้องขอให้ทางอำเภอให้สัญชาติและนำเข้าในทะเบียนบ้าน ซึ่งในหมู่บ้านวังไฮมีทั้งหมด 3 คน ซึ่งทางอำเภอไม่รับคำร้อง และยังมีกรณีผู้ที่มีอายุครบ 15 ปีแล้ว เมื่อไปยื่นคำร้องที่อำเภอเพื่อขอทำบัตรประชาชน แต่ทางอำเภอไม่ยอมรับคำร้อง แต่ให้หาหลักฐานมาเพิ่มเติม ซึ่งตนไม่เข้าใจเหมือนกัน


 


"ทั้งที่พ่อแม่ก็ได้สัญชาติไทยกันหมดแล้ว และทางจังหวัดก็แจ้งมาแล้วว่า กรณีเด็กเกิดใหม่ที่มีสูติบัตร ให้ดำเนินการให้สัญชาติทันที หรือในกรณีเด็กหญิงที่อายุครบ 15 ปี ซึ่งเตรียมตัวจะไปเรียนหนังสือต่อข้างนอก ก็ไม่สามารถไปเรียนต่อได้ จึงอยากให้ทางอำเภอได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหานี้โดยเร็ว" นายนิกร กล่าว


 


ในขณะที่ นายคำ โพธิ ชาวบ้านใหม่หมอกจ๋าม ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ตอนนี้กลุ่มชาวบ้านใหม่หมอกจ๋าม ได้รับคืนสัญชาติทั้งหมดแล้ว และกรณีเด็กเกิดใหม่ และผู้ที่มีอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์ ตนได้พาไปยื่นคำร้องที่อำเภอและทางฝ่ายทะเบียนได้รับคำร้องและดำเนินการให้แล้วเสร็จ ซึ่งตนไม่ทราบเหตุผลว่า เหตุใดหมู่บ้านอื่นที่ไปยื่นคำร้อง แล้วทำไมอำเภอไม่รับคำร้อง ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะในช่วงที่ตนพาชาวบ้านไปยื่นคำร้องกรณีเด็กเกิดใหม่และขอทำบัตรประชาชนนั้น ตนได้พาสื่อมวลชนเข้าไปถ่ายรูปและสังเกตการณ์ด้วย


 


"อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่า เรื่องนี้ยังไม่จบ และคิดว่าทางกรมการปกครองจะต้องดำเนินการถอดถอนสัญชาติต่อ เพราะยังออกมาอ้างว่ามีการทุจริตหรือหลักฐานไม่ครบ ซึ่งตนคิดว่าชาวบ้านจะลำบาก ถ้าไม่รวมตัวกัน" นายคำ กล่าวทิ้งท้าย


 


ด้านนายพรหมมินทร์ อินทวิชัย แกนนำชาวบ้านแม่อายที่ต่อสู้เรื่องสัญชาติ กล่าวว่า นับตั้งแต่ชาวบ้านได้ออกมาเคลื่อนไหวต่อสู้เรื่องสัญชาติมาตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมาจนถึงวันนี้ ทำให้หลายคนต้องสูยเสียหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะปัญหาทางด้านจิตใจ ที่ถูกกล่าวหาและถูกตัดสิทธิ์ บางคนที่เป็นสมาชิกฌาปนกิจของ ธกส.แล้วเสียชีวิตลงในช่วงกำลังเรียกร้อง ก็ทำให้หมดสิทธิ์ได้รับเงินก้อนนั้นไป


 


"ล่าสุด นายอำเภอแม่อาย มาบอกกับตนว่า ทางกรมการปกครองได้สั่งการมาว่า อาจมีบางรายที่จะถูกถอดถอน ซึ่งตนก็ขอให้มีการเรียกไปตรวจสอบเป็นรายบุคคล แต่อย่ามาเหมารวมเหมือนที่ผ่านมา และขอให้ฟังเหตุผลของชาวบ้าน ไม่ใช่ว่าจะเอาอำนาจมาข่มขู่ชาวบ้านเหมือนแต่ก่อน ถ้าคิดจะถอดถอนอีกครั้ง โดยคิดว่ามีหลักฐานว่าเป็นคนต่างด้าว ก็ลองดู" นายพรหมมินทร์ กล่าวทิ้งท้าย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net