Skip to main content
sharethis

ประชาไท—17 ก.พ. 2549 แนวร่วมวาระคนจน จัดประชุมครั้งที่ 1 รองรับกระแสปฏิรูปการเมือง ระบุไม่ไว้ใจ "แม้ว" เป็นแกนทำขอให้ลาออกไปก่อน ส่วนการปฏิรูปต้องมีวาระคนจนและตัวแทนจากภาคประชาชน


 


ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันนี้(16 ..) รศ.ใจ อึ๊งภากรณ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นผู้ดำเนินการประชุมแนวร่วมภาคประชาชน เพื่อผลักดันวาระคนจนให้ไปสู่การปฏิรูปการเมือง


 


จากนั้นที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า การปฏิรูปการเมืองเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ซึ่งเป็นกรรมาชีพ เกษตรกร และนิสิตนักศึกษา เป็นเรื่องเร่งด่วน เพราะบทสรุปจากประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ 14 ตุลา หรือ พฤษภาทมิฬ หรือการร่างรัฐธรรมนูญ 2540 ชี้ให้เห็นว่าถ้าภาคประชาชนไม่ออกมาผลักดันจุดยืนอิสระ ที่แตกต่างจากนักการเมืองกลุ่มทุน หรือชนชั้นปกครอง การต่อสู้ของประชาชนจะถูกช่วงชิงโดยชนชั้นนำเสมอ นำไปสู่การผูกขาดความคิดโดยนักวิชาการสาย "โครงสร้างหน้าที่" ที่เน้นผลประโยชน์ของกลุ่มทุนภายใต้ทฤษฎีเสรีนิยม


 


อย่างไรก็ตาม แนวร่วมวาระคนจนเห็นตรงกันว่าไม่ไว้วางใจในการปฏิรูปการเมืองใหม่ที่มี พ...ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี จึงเรียกร้องให้ลาออกไปก่อน


 


ส่วนรัฐบาลที่เหมาะจะเข้ามาบริหารประเทศแทนนั้นไม่ควรเป็นรัฐบาลที่สะท้อนอำนาจเผด็จการของชนชั้นนำ แต่น่าจะเป็นรัฐบาลที่มีผู้แทนแท้จริงจากส่วนต่างๆ ของสังคมไทย เช่น เกษตรกร นักสหภาพแรงงาน นักเคลื่อนไหวทางสังคม ผู้แทนชาวบ้าน และกลุ่มอื่นๆ ที่เป็นคนส่วนใหญ่ของสังคม แต่ในส่วนการปฏิรูปจะไม่หวังว่ารัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่งจะมาทำโดยเฉพาะในวาระคนจนจึงเห็นว่าควรมีการจัดวงคุย เพื่อประชุมแลกเปลี่ยนประเด็นรายละเอียดของการปฏิรูปการเมืองในวาระคนจน ตามส่วนต่างๆของภาคประชาชน และอาจตั้ง "สมัชชาประชาชน" เพื่อเสนอวาระของคนจนอย่างชัดเจน


 


ในช่วงท้าย รศ.ใจ ได้สรุปข้อเสนอเบื้องจากการประชุมครั้งนี้ว่า ควรเพิ่มเสียงของขบวนการภาคประชาชนในกระบวนการทางการเมือง เพื่อตรวจสอบรัฐบาลเพราะหลังการใช้รัฐธรรมนูญใหม่ เป็นที่ประจักษ์ว่าความคิดเรื่อง องค์กรอิสระ พรรคการเมืองฝ่ายค้าน วุฒิสภาที่เป็นกลาง และสื่ออิสระ ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ซึ่งการเพิ่มเพิ่มเสียงดังกล่าวทำได้โดยการขยายสิทธิในการรวมตัวกันของภาคประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม การลดข้อจำกัดในการก่อตั้งสหภาพแรงงานในสถานที่ทำงาน การลดการจำกัดสิทธิในการตั้งพรรคการเมืองของภาคประชาชน ไม่ควรจะมีการจดทะเบียนสหภาพหรือพรรคการเมือง และต้องมีสิทธิที่จะประท้วงอย่างเสรี รวมทั้งควรแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งโดยยกเลิกการลงคะแนนเสียงตามทะเบียนบ้านเปลี่ยนไปลงคะแนนเสียงในเขตที่ทำงานแทนเพราะสะท้อนลักษณะความเป็นจริงของการอยู่อาศัยของคนเมือง และแก้ไขในส่วนที่ สส. ต้องจบปริญญาตรีและ สส.ต้องสังกัดพรรคการเมืองด้วย


 


ส่วนองค์กรอิสระอาจจะยกเลิกไป หรือคงไว้โดยต้องประกอบด้วยผู้แทนของสาขาอาชีพต่างๆตามความเป็นจริงในสังคมไทย และต้องมีการเพิ่มกลไกการลงประชามติในการเลือกคณะกรรมการเข่าไปดำรงตำแหน่งกรรมการขององค์กรอิสระต่าง ๆ


 


อีกทั้งควรมีการตั้งองค์กรสื่อสาธารณะ ที่บริหารโดยคณะกรรมการที่ประกอบไปด้วยผู้แทนของวิชาชีพต่างๆในสังคม ตามสัดส่วนแท้จริงของวิชาชีพที่มีอยู่ในประชากร และมีส่วนในการพัฒนามาตรฐานของสื่อและการสนับสนุนสื่อชุมชนที่อิสระจากการควบคุมโดยรัฐ


 


ข้อเสนอจากที่ประชุมประการต่อมาคือการแก้ปัญหาความรุนแรงของรัฐ และการมีแนวคิดชาตินิยมสุดขั้ว การปฏิรูปการเมืองต้องเปิดพื้นที่สาธารณะเพื่อพัฒนาสิทธิของคนชายขอบ  หรือคนที่มีมุมมองต่างจากกระแสหลัก เพื่อสร้างเสรีภาพในสังคม นอกจากนี้ควรลดงบประมาณกะลาโหมและสร้างความโปร่งใสในการใช้งบประมาณเพื่อลดความสามารถในการใช้ความรุนแรงและควรมีกระบวนการสร้างจริยธรรม ในหมู่คนถืออาวุธและผู้ใช้อำนาจของฝ่ายรัฐ


 


อีกประเด็นหนึ่งคือกลไกตลาดเสรี ในรูปแบบ FTA การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ การนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ และการเคารพสิทธิผูกขาดในการผลิตยาของบริษัทข้ามชาติ เป็นปัญหาแก่สังคมไทยมากเพราะสร้างความเหลื่อมล้ำและกีดกันคนจนจากการเข้าถึงบริการพื้นฐาน แต่กลับสร้างผลประโยชน์มหาศาลให้คนกลุ่มน้อยที่เป็นนายทุน ประเด็นดังกล่าวต้นเหตุปัญหาอยู่ที่ปัญหาปรัชญาเสรีนิยมแบบ "มือใครยาวสาวได้สาวเอา"


 


ข้อสรุปแนวร่วมวาระคนจน จึงมองว่าต้องมีการแยกสาธารณูปโภค สวัสดิการสังคม การศึกษา และระบบสาธารณสุข ออกจากกลไกตลาดและอำนาจเงิน ต้องมีการเก็บภาษีก้าวหน้าจากคนรวยในอัตราสูงเป็นพิเศษ เพื่อพัฒนาการบริการสังคมอย่างทั่วถึง ต้องมีการเก็บภาษีทางตรงจากคนรวยเช่น ภาษีรายได้ ภาษีทรัพย์สิน ภาษีมรดก และภาษีที่ดินและต้องมีการยกเลิกภาษีทางอ้อม ที่เป็นภาระกับคนจนเช่น ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีน้ำ


 


รวมทั้ง ส่งเสริมพลังงานทางเลือก ระบบเกษตรทางเลือก และระบบขนส่งมวลชนที่มีคุณภาพ คือเร่งพัฒนาระบบรถไฟระหว่างเมืองแทนการใช้ถนนหรือเครื่องบิน และต้องมีการพัฒนาการขนส่งสาธารณะเพื่อลดการใช้ยายยนต์ส่วนตัว เพื่อประหยัดพลังงานและพัฒนาสภาพแวดล้อม


 


อย่างไรก็ตาม การประชุมแนวร่วมวาระคนจน นี้เป็นการหารือกันในวงเล็กๆ เพื่อนำไปสู่การหารือในวงกว้างขึ้น โดยข้อมูลดังกล่าวจะนำเสนอในงานสมัชชาสังคมโลก World Social Forum ที่กรุงเทพฯ ในเดือนตุลาคม ที่จะถึงนี้


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net