นายประพันธ์ อัศวอารีประธานกรรมการบริหารบริษัทเอเซียแปซิฟิกโปแตช คอปอร์เรชั่น

ประชาไท—18 ก.พ. 2549 ชาวอุดรจับตาความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารบริษัทเอเซียแปซิฟิกโปแตช คอปอร์เรชั่นเจ้าของโครงการเหมืองแร่โปแตชอุดรธานี กับนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล เข้านอกออกในเป็นว่าเล่นพร้อมระบุเจ้าหน้าที่ไม่เข้าใจกระบวนการประชาชน เตรียมรับมือชาวบ้านโดยศึกษาจากวีดีโอกรณีตากใบ

นายสุวิทย์กุหลาบวงษ์ผู้ประสานงานโครงศึกษาปัญหาดินเค็มและการจัดการทรัพยากรแร่ภาคอีสานเปิดเผยว่าวานนี้(17 ก.พ.) เวลาประมาณ11.00 น.นายประพันธ์ อัศวอารีประธานกรรมการบริหารบริษัทเอเซียแปซิฟิกโปแตช คอปอร์เรชั่นเจ้าของโครงการเหมืองแร่โปแตชอุดรธานีเข้าพบกับที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพื่อหารือเรื่องการเดินทางมาจังหวัดอุดรธานี หลังจากที่กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีขอเลื่อนการนัดพบในวันที่ 24ก.พ. นี้ไปก่อน เพื่อขอให้นายกฯ ยืนยันการเดินทางมาพบกับกลุ่มสนับสนุนโครงการเหมืองแร่โปแตชและมีการส่งสัญญาณว่านายกฯ ยันยันจะมา ที่โรงแรมเจริญศรีแกรนด์ในวันที่ 24 ก.พ. นี้

นายสุวิทย์ให้ความเห็นว่าการที่ซีอีโอคนใหม่ของบริษัทเอพีพีซีเข้านอกออกในทำเนียบรัฐบาลเป็นว่าเล่นนี้ชี้ให้เห็นว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกลุ่มนักการเมืองภายในรัฐบาลจึงต้องจับตามองถึงความสัมพันธ์เหล่านี้และระวังให้ดีว่าหากกลุ่มทุนกลุ่มนักการเมืองร่วมมือกันได้มากกว่าที่ผ่านโครงการนี้จะถูกเร่งรัดให้เร็วขึ้นและละเลยข้อเรียกร้องของชาวบ้านเงื่อนไขในการออกประทานบัตรก็จะง่ายขึ้น

"การยื่นหนังสือขอเลื่อนการเจรจากับนายกรัฐมนตรีในวันที่ 24 นี้ไปก่อนของเครือข่ายประชาชนฯ เป็นเพราะเห็นว่านายกคงไม่มีสมาธิจะคุยหรือแก้ไขปัญหาในเมื่อสถานการณ์ทางการเมืองกำลังวุ่นวาย แต่หากนายกยังยืนยันจะเดินทางมาอุดรธานีเพื่อพบฝ่ายบริษัทหรือกลุ่มที่อ้างตัวสนับสนุนโครงการเหมืองแร่โปแตชตามที่ซีอีโอคนใหม่ไปเจราที่ทำเนียบรัฐบาลวันนี้ก็จะตัดสินได้ชัดว่านายกมีท่าทีสนับสนุนเหมืองแร่ "

นายสุวิทย์กล่าวเพิ่มเติมว่า การนัดพบชาวบ้านที่อุดรของนายกฯ นั้นทำให้เห็นท่าทีของฝ่ายราชการในจังหวัดอุดรธานีมากขึ้นเพราะได้มีการเคลื่อนไหวเตรียมการโดยการจัดประชุม อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน(อป.พร.) ในเขตต.โนนสูงต.ห้วยสามพาด โดยทางจังหวัดอุดรธานี เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ โดยการประชุมนี้ได้มีการป้อนข้อเรื่องขบวนการชาวบ้านโดยการเปิดซีดีกรณีการเคลื่อนไหวของชาวมุสลิมที่ อ.ตากใบให้ผู้เข้าร่วมประชุมดูโดยวิเคราะห์เชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการเหมืองแร่โปแตชอุดรธานีของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานีเปรียบเทียบว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่สร้างเงื่อนไขที่ไร้เหตุผลนำมาสู่ความรุนแรง การฝึกอบรมอป.พร.เตรียมรับสถานการณ์วันที่ 24 ของทางจังหวัดอุดรธานีเป็นหน้าที่ที่ควรทำแต่เนื้อหาที่ใส่เข้าไปควรจะเป็นเรื่องการไกล่เกลี่ยปัญหาภายใต้แนวทางสันติวิธีไม่ใช่การให้ทัศนะที่สร้างภาพความเกลียดชังและไม่เข้าใจขบวนการประชาชนอย่างที่เรียกว่าการเสี่ยมเขาให้ชนกันจะเห็นได้ว่าทัศนะของฝ่ายราชการในอุดรธานีต่อการเคลื่อนไหวของชาวบ้านเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงมากและยิ่งน่าตกใจที่เขายกเรื่องตากใบมาเป็นตัวอย่าง