Skip to main content
sharethis


 


นักวิชาการเชียงใหม่ออกมาย้ำ ทักษิณหมดความชอบธรรม ปล่อยทุนต่างชาติกระทำชำเรา เหมือนขายชีวิตคนไทยทั้งประเทศ เปรียบ"ทักษิณ"เหมือน"ยันตระ"สร้างความคลั่งไคล้เพื่อหลอกลวง หลีกเลี่ยง เบี่ยงประเด็น 


 


เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุม คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะการสื่อสารมวลชนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้จัดประชุมเสวนาเรื่อง "จากขายหุ้น 7 หมื่นล้าน ถึงความชอบธรรมของทักษิณ" โดยมีนักวิชาการจากหลายสาขาร่วมวิพากษ์วิจารณ์ ย้ำให้ลงอย่างสง่างามหรือลงแบบเน่าไม่มีชิ้นดี


 


ย้ำรัฐบาลทักษิณ หมดความชอบธรรม


ผศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล หัวหน้าโครงการภาควิชานิติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กล่าวว่า จริงๆ แล้ว รัฐบาลทักษิณนั้นได้ทำอะไรแย่ๆ มามาก ไม่ว่ากรณีตากใบ หรือนโยบายปราบปรามยาเสพติด ซึ่งถือว่ารัฐบาลทักษิณนั้นหมดความชอบธรรมไปตั้งแต่ครั้งนั้นแล้ว  และยิ่งมาเจอกรณีขายหุ้นชินคอร์ป ให้กับสิงคโปร์ ยิ่งทำให้ชี้ชัดเลยว่า รัฐบาลทักษิณ และตัวคุณทักษิณเองนั้นหมดความชอบธรรม ต้องออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี


 


ผศ.สมชาย กล่าวอีกว่า ส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นกลาง เพราะว่าคนกลุ่มนี้ต้องถูกหักภาษี หลบเลี่ยงภาษีไม่ได้ เพราะฉะนั้นจึงรับไม่ได้ที่นายกรัฐมนตรีขายหุ้นชินคอร์ป และหลีกเลี่ยงภาษี ดังนั้น สิ่งที่ทุกคนออกมาเรียกร้องทักษิณในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรี  จึงต้องลุกมาทวงถามความเป็นธรรม


 


 


ชี้ทักษิณปล่อยทุนต่างชาติกระทำชำเรา เหมือนขายชีวิตคนไทยทั้งประเทศ


รศ.ดร.อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลทักษิณนั้นยึดเอาระบบเสรีนิยมใหม่เข้ามาโดยเปิดโอกาสให้ทุนต่างชาติเข้ามากระทำชำเราประเทศไทย แล้วตัวเองก็ฉกฉวยโอกาส หักหลังคนไทยอย่างหน้าด้านๆ โดยพยายามออกมาพูดในรายการนายกฯ พบประชาชน ซึ่งตนถือว่า เป็นรายการโกหกคนเดียว ว่าดาวเทียมไทยคมเป็นของรัฐ โทรคมนาคมเป็นของรัฐ แต่จริงๆ แล้วก็ดูดผลประโยชน์ไปคนเดียว


 


"ดังนั้น ความชั่วของทักษิณ ไม่ใช่แค่การขายหุ้น  แต่มันจะขายชีวิตคนไทยทั้งประเทศ โดยดูได้จากการเปิดเขตการค้าเสรีไทย-จีน ที่เอาสินค้าทางเกษตรของเกษตรกรไปขายเพื่อแลกกับการทำสัญญาดาวเทียมกับจีน ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า ทักษิณนั้นทำเพื่อตัวเขา แต่ทำร้ายประเทศไทย อีกทั้งยังพยายามทำให้คนไทยตีกันเอง  ทำให้คนในชาติในแต่ละกลุ่มมองกันเป็นศัตรู  แม้กระทั่งพยายามเอานักศึกษาหรืออาจารย์มหาวิทยาลัยมาเป็นศัตรูกับพี่น้องคนไทยด้วยกันเอง นี่คือจุดเปลี่ยนของประเทศไทย ฉะนั้น ไม่ใช่แค่ถอดถอนทักษิณ  แต่เราจะต้องเอาระบอบทักษิณให้ออกไปจากสังคมไทยด้วย" รศ.ดร.อรรถจักร์ กล่าว 


 


เปรียบ "ทักษิณ" เหมือน "ยันตระ" หลอกลวง หลีกเลี่ยง เบี่ยงประเด็น


ในขณะที่ นายชัชวาล บุญปัน อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในขณะนี้ถ้ามองดูจะเหมือนกรณีของยันตระ ที่พยายามสร้างความคลั่งไคล้  แต่พยายามหลีกเลี่ยงและเบี่ยงประเด็น หลังจากที่สังคมเข้าตรวจสอบว่าหลอกลวงคนทั้งประเทศ


 


นายชัชวาล กล่าวอีกว่า ถ้าย้อนกลับไปดูกรณียันตระ ที่หลอกประชาชนมาโดยตลอด มีทั้งคนศรัทธาทั่วประเทศ เมื่อถูกตรวจสอบ ก็จะมีหลายฝ่ายออกมาปกป้อง และบอกว่าหลักฐานไม่เพียงพอ  เมื่อนายสมเกียรติ อ่อนวิมล ออกมาพูดในรายการของตน ก็ถูกทางผังโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท. ถอดถอนออกจากผังรายการ ซึ่งก็เหมือนกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่พยายามบีบให้มีการถอดถอนบางรายการและพยายามหลีกเลี่ยงเบี่ยงประเด็น อีกทั้งยังมีคนส่วนใหญ่ที่ไม่เข้าใจและยังคลั่งไคล้ในตัวนายกฯ ทักษิณ เชื่อว่าคืออัศวินควายดำที่จะมากู้ชาติ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกรณียันตระ กับทักษิณ นั้นไม่แตกต่างกัน


 


"คุณไม่สามารถจะอยู่รอดจากการตรวจสอบได้เลย เพราะในที่สุด ความจริงจะปรากฏ และคนในหรือคนที่ใกล้ชิดคุณนั่นแหละที่จะออกมาแฉพฤติกรรมทั้งหมด เพราะฉะนั้น คนในสังคมไทยน่าจะร่วมกันตรวจสอบกันตรงนี้" นายชัชวาล กล่าวทิ้งท้าย


อ.นิเทศศาสตร์ ม.พายัพ ประณามทักษิณขายหุ้นสื่อ คือขายชาติ


นายศรีธรณ์  โรจสุพจน์  หัวหน้าภาควิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ จ.เชียงใหม่ กล่าว


ถึงกรณีชินคอร์ป ขายหุ้นให้กับบริษัทเทมาเสก ของสิงคโปร์ ว่า ดูเหมือนว่าเป็นการซื้อขายระหว่างรัฐต่อรัฐ หรืออาจถือได้ว่าเป็นขายชาติ ที่จะต้องสูญเสียอธิปไตยในอนาคต


 


"และเมื่อมองดูสื่อส่วนใหญ่ในปัจจุบัน จะตกไปอยู่ในคนกลุ่มเดียว ซึ่งถือว่าเป็นการผูกขาด และที่ผ่านมา ทักษิณจะมองสื่อเป็นธุรกิจอย่างเดียว ซึ่งในจรรยาบรรณของสื่อถือว่า เป็นความคิดที่น่าชิงชังอย่างยิ่ง โดยไม่ได้มองว่า สื่อนั้นมันมีมิติทางวัฒนธรรมและสังคมมากกว่านั้น" นายศรีธรณ์ กล่าว


 


คณบดีสื่อสารมวลชน มช.แสดงจุดยืน ทักษิณขาดจริยธรรมทางการเมือง


ในขณะที่ รศ.สศดรี เผ่าอินจันทร์ หัวหน้าภาควิชาการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ในนามของคณะการสื่อสารมวลชน ได้มีการประชุมกันและได้แสดงจุดยืนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่มีจริยธรรมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกต่อไปแล้ว เพราะเราไม่สบายใจ หลังจากที่การขายหุ้นชินคอร์ป รวมทั้งกระบวนการที่เปลี่ยนกฎหมายให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้นถึง 49% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มุ่งแต่ผลประโยชน์ แต่ไม่ได้สนใจผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ


 


ชี้เป็นยุคที่สังคมไทยทะเลาะแตกแยกมากที่สุด


รศ.สดศรี กล่าวอีกว่า ไม่มียุคไหน ที่คนไทยจะทะเลาะแตกแยกกันมากที่สุดเท่ายุคนี้ ทุกหัวระแหงต่างมีความแตกแยกกันมาก แม้กระทั่งมีข่าว เชิญอธิการบดีเข้าพบนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ข่าวว่ามีอธิการบดีบางมหาวิทยาลัยไม่ยอมไป เพราะไม่อยากตกเป็นเครื่องมือ เมื่อมาถึงตอนนี้ ตนไม่มั่นใจว่า หลังวันที่ 26 ก.พ.นี้ จะเกิดอะไรขึ้น มันจะเป็นไปทางดีหรือเลวร้ายก็ไมรู้


 


ผิดหวังกับสื่อไทย เร่งปรับหลักสูตรใหม่ 


"นอกจากนั้น ตนรู้สึกผิดหวังกับสื่อของไทยในขณะนี้ ที่ยอมศิโรราบกับอำนาจรัฐ โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์ ซึ่งตนถือว่าเป็นยุคแห่งความมืดมนของสื่อไทย เพราะที่ผ่านมาจะเห็นว่าสื่อมวลชนของไทยกำลังยึดหลัก นิ่งเสียตำลึงทอง โดยเฉพาะสื่อที่อยู่ในอำนาจรัฐอย่างเช่น กรมประชาสัมพันธ์ ช่อง 9 ช่อง 5 เป็นต้น ซึ่งตนไม่ได้โทษคนทำงานสื่อ เพราะที่สุดแล้วทุกคนต้องห่วงเรื่องครอบครัวเรื่องตัวเอง แต่จะโทษระบบสื่อมวลชน เพราะฉะนั้น เราจะต้องรวมกลุ่มกัน  และคิดว่า คงจะมาปรับหลักสูตรเรื่องสื่อกันใหม่" รศ.สดศรี กล่าวทิ้งท้าย


 


กลุ่มนักศึกษา มช.จัดเวทีสาธารณะวิพากษ์ทักษิณ


ในช่วงค่ำ ทางสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับสโมสรนักศึกษา 17 คณะ รวมทั้งชมรมนักศึกษากับการเมืองเพื่อการพัฒนา สโมสรนักศึกษาคณะสังคมศาสตร์ มช.และกลุ่มนักศึกษาอิสระกลุ่มงืด ได้ร่วมกันจัดเวทีสาธารณะขึ้นที่บริเวณสนามวอลเลย์บอล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


 


ภายในงานได้มีการแสดงดนตรีของพรรคนักศึกษายุวธิปัตย์ และอ่านแถลงการณ์โดยนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หลังจากนั้น ได้จัดเวทีสาธารณะเล่าสู่กันฟัง สถานการณ์บ้านเมือง โดยมีพระมหาสง่า ธีรสังวโร วัดสวนดอกและภาคีคนฮักเจียงใหม่ รศ.ดร.ธเนศวร์ เจริญเมือง ภาควิชารัฐศาสตร์ มช. รศ.ดร.อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ ภาควิชาประวัติศาสตร์ มช. แสงดาว ศรัทธามั่น ศิลปินอิสระและอดีตนักกิจกรรมสมัย 14 ตุลา รวมทั้งตัวแทนนักวิทยุชุมชน และนักธุรกิจเชียงใหม่ เข้าร่วมเสวนา


 


โดยกิจกรรมการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ ได้ย้ำว่า เป็นการเปิดเวทีขึ้นเพื่อสร้างพื้นที่การเรียนรู้ทางสังคม  และนำเสนอข้อมูลสถานการณ์ทางการเมืองที่นำเสนออย่างรอบด้านให้กับนักศึกษาและประชาชนทั่วไปได้รับรู้ โดยย้ำว่า เป็นอิสระจากอำนาจทางการเมือง แต่อยู่ข้างเป็นธรรม


 


ร่วมตั้ง "ศูนย์ประสานงานสร้างจริยธรรมทางการเมือง"


ทั้งนี้ ทางกลุ่มนักศึกษา มช.ยังแจ้งอีกว่า ขณะนี้ได้ตั้ง "ศูนย์ประสานงานสร้างจริยธรรมทางการเมือง" ขึ้นมา และได้เชิญชวนองค์กรภาคประชาชน อาจารย์ นักศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่างๆ เข้าร่วมประชุมปรึกษาหารือ กรณีจริยธรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขึ้นที่ ห้องประชุมชั้น 4 อาคารปฏิบัติการ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันที่ 21 ก.พ.นี้ เวลา 10.00 เป็นต้นไป โดยสามารถติดต่อรายละเอียดได้ที่ นายเอกกมล สายจันทร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053-224050,053-943548

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net