ประชาไท - 20 ก.พ. 49 เปิดตัว "สมุดปกขาว" จี้ทุกองค์กรทำหน้าที่เพื่อตรวจสอบและเอาผิดการทำธุรกรรมหุ้นชินคอร์ป - เทมาเส็ก เพราะเข้าข่ายกระทบความมั่นคงของชาติ
วันที่ 20 ก.พ. ที่สมาคมนักข่าว นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นาย
นางพงษ์ศักดิ์ ให้เหตุผลว่า การซื้อขายดังกล่าว เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 124 ในการเปิดเผยความลับให้กับหน่วยงานของรัฐบาลต่างประเทศ
ทั้งนี้ ครอบครัวของพ.ต.ท.
นอกจากนี้ สมุดปกขาวยังวิเคราะห์และแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการซุกหุ้นเพื่อเลี่ยงภาษีผ่านการจดทะเบียนแอมเพิลริช ที่เกาะบริติชเวอจิ้น การออกกฎหมายขยายการถือหุ้นของชาวต่างชาติ
"นายกฯ ในฐานะเป็นหัวหน้าครอบครัวและหัวหน้ารัฐบาลย่อมไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามีส่วนกำหนดวางแผนโดยใช้ประโยชน์ทางอ้อมจากการดำรงตำแหน่ง สร้างความถดถอยให้กับรัฐวิสาหกิจตามขั้นตอนคือการแปรสภาพรัฐวิสาหกิจให้เป็นเอกชน การออกพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติพิกัดอัตราภาษีอากรสรรพสามิต
พ.ศ.2527 (ฉบับที่ 4)พ.ศ.2546 และการออกพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(ฉบับที่ 2)
พ.ศ.2549 ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าหุ้นของบริษัทในเครือครอบครัวของตนให้สูงขึ้น ทำให้สามารถขายได้ราคาสูงเป็นประวัติการณ์ 73,000 ล้านบาท ตามขั้นตอนที่วิเคราะห์ไว้ในสมุดปกขาวนี้ จึงเห็นได้ชัดว่า กรณีเป็นผลประโยชน์และไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามคอรัปชั่น" นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
นายพงษ์ศักดิ์ ระบุด้วยว่าทุกองค์กรมีหน้าที่แตกต่างกันไป สภาการหนังสือพิมพ์ ฯเป็นสถาบันที่มีหน้าที่ในฐานะสื่อมวลชน สภาทนายความมีหน้าที่ในฐานะผู้ผดุงความยุติธรรมด้านกฎหมาย การทำสมุดปกขาวนี้เป็นการรวบรวมหลักฐานในทางการวิเคราะห์วิจัยที่ใครจะเอาไปใช้ก็ได้ ตอนนี้ทั้งสององค์กรทำหน้าที่แล้ว องค์กรอื่นๆ ที่มาหน้าที่ตรวจสอบหาหลักฐานก็ต้องทำหน้าที่ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระ หน่วยงานราชการ บุคคลที่ทำหน้าที่ของรัฐโดยตรงอย่างอัยการแผ่นดิน เพราะถ้าไม่ทำตามหน้าที่ ประชาชนก็มีคำตอบเอาไว้ให้แล้ว
ด้านนาย
คโปร์สามารถได้ตรงนี้ไปโดยอ้อม และสามารถใช้สิทธ์ตรงนี้ตรวจสอบข้อมูลของประเทศได้
นายเดชอุดมยังกล่าวอีกว่า สมุดปกขาวฉบับนี้เป็นเรื่องกระบวนการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องนำไปตรวจสอบต่อไปว่าเข้าข่ายการการแปลความกฎหมายที่ผิด และเป็นการกระทำที่ขัดต่อความมั่นคงหรือไม่ ที่น่าสนใจคือ น่าสงสัยว่ามีพฤติกรรมการคอรัปชั่นไม่ว่าจะทางตรงและทางนโยบายในการร่วมมือกับต่างชาติ ซึ่งประเด็นเหล่านี้จะต้องทำออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรม เป็นสิทธิ์ของคนไทยที่จะต้องดำเนินการ และเรียกร้องสิ่งที่เสียไปกลับมา
ทั้งนี้ สมุดปกขาวจะจัดพิมพ์ทั้งหมด 60,000 เล่ม ใช้งบประมาณขององค์กรทั้งสอง จะเสร็จทั้งหมดในวันที่ 24 ก.พ. และแจกจ่ายไปตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทำหน้าที่ในการพิจารณาตามข้อเท็จจริงทั้งในส่วนการกระทำผิดกฎหมายและการกระทำที่ทำผิดทำนองคลองธรรมของผู้ที่เป็นนายกฯ
...........................................................................
หมายเหตุ : ประชาไท จะนำสมุดปกขาวฉบับเต็มมานำเสนอในคราวต่อไป