ทวงถามความคืบหน้าสิทธิบัตรยาฉาว

 

ประชาไท—22 ก.พ. 2549 นายกมล อุปแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย และตัวแทนเครือข่ายฯ ประมาณ 30 คน เข้าพบนายการุณ กิตติสถาพร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนายคณิสสร นาวานุเคราะห์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อสอบถามความคืบหน้าของกรณีดังกล่าว ณ กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

 

นายกมล กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า ในคณะอนุกรรมการพิจารณาการคัดค้านการขอสิทธิบัตรยา COMBID ของบริษัท Glaxo Smith Kline Ltd. (GSK) มีผู้เชี่ยวชาญทางเภสัชเพียงคนเดียวซึ่งอาจไม่เพียงพอ อยากให้เพิ่มสัดส่วนจากกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อ.ย.) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านยา และนักวิชาการอิสระเข้าไปด้วย

 

นอกจากนี้ อยากทราบว่ากรณีที่พบว่าภรรยาของประธานคณะอนุกรรมการฯทำงานอยู่ในบริษัทดังกล่าว จะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะอาจเกิดคำถามเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน

 

นายบริพัตร ดอนมอญ ตัวแทนจากเครือข่ายผู้ติดเชื้อ ภาคตะวันออก กล่าวว่า หากยา COMBID ได้จดทะเบียนสิทธิบัตรเท่ากับเป็นการฆ่าผู้ติดเชื้อฯ ทั่วประเทศ เพราะยาจะแพงขึ้น จากเดิมซื้อยาจากองค์การเภสัช 1500 บาทต่อเดือน จะต้องซื้อจากบริษัท 8600 บาทต่อเดือน

 

หากแค่เพิ่มสารทำให้ลื่นมาเชื่อมยาสองตัวเข้าด้วยกันก็สามารถจดสิทธิบัตรยาได้ง่ายๆ บริษัทยาอื่นๆ ก็จะเข้ามาจดสิทธิบัตรในไทย ต่อไปยาต่างๆ ก็จะแพงขึ้น  

 

นายการุณ กิตติสถาพร กล่าวว่า นอกจากการออกหรือไม่ออกสิทธิบัตรแล้ว อยากให้มองว่า ยังมีช่องทางอื่นที่รัฐบาลจะช่วยเหลือผู้ติดเชื้อได้อีก เช่น หากมีการจดสิทธิบัตรก็เจรจากับเจ้าของสิทธิบัตร หรือดูว่ารัฐบาลกับกระทรวงสาธารณสุขจะช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายได้อย่างไรบ้าง

 

เรื่องการเพิ่มสัดส่วนคณะอนุกรรมการฯ อาจทำได้ยาก เพราะต้องมีความหลากหลาย คณะอนุกรรมการฯชุดนี้ไม่ได้แค่ดูเรื่องยาอย่างเดียว ต้องดูเรื่องอื่นด้วย อย่างไรก็ตาม หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถเรียกผู้เชี่ยวชาญจากข้างนอกมาให้ข้อมูลได้      

 

นายคณิสสร นาวานุเคราะห์ กล่าวว่า คณะกรรมการกำลังพิจารณาเรื่องที่คณะอนุกรรมการฯ อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนอยู่ อย่างไรก็ตาม แม้จะพบว่าคนในคณะอนุกรรมการฯมีความเกี่ยวข้องกับผู้บริหารบริษัทดังกล่าวจริง  อยู่ดีๆ ก็ไม่สามารถปลดเขาออกได้ ไม่ยุติธรรมสำหรับเขา เพราะเขาก็เป็นคนมีความรู้ความสามารถช่วยเหลืองานของคณะอนุกรรมการฯได้ ถ้าจะให้ออกต้องหาเหตุผลให้ได้ว่าทุจริตจริง เพราะคณะอนุกรรมการฯ ชุดนี้ก็มีหน้าที่พิจารณาหลายเรื่องไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียว   

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท