ภาพจาก www.cbsnews.com
Agencies22 ก.พ. 2549 ดูจะเป็นเรื่องง่ายที่จะโทษว่า "ฝนตกหนัก" เป็นสาเหตุของโคลนถล่มที่ฟิลิปปินส์ที่คร่าชีวิตผู้คนไปนับพันตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่มา ทว่า ในบรรดาคนที่รอดชีวิตมาได้นั้นต่างชี้ว่า สาเหตุหลักนั้นมาจากการลักลอบตัดไม้ต่างหาก
การเกิดโคลนถล่มในครั้งนี้ ทางพันโท ราอูล ฟาร์นาซิโอ ผู้บัญชาการในการออกช่วยเหลือและค้นหาชีวิตที่เข้าไปปฎิบัติงานในพื้นที่เกิดโคนถล่มในหมู่บ้าน กินเซากอน บนเกาะเลย์เต้ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากมนิลาไป 400 ไมล์ ประมาณการว่า จะมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นถึง 1,800 คน หรือแทบจะยกหมู่บ้าน เนื่องจากหมู่บ้านนี้มีคนอาศัยอยู่ทั้งสิ้น 1,857 คนเท่านั้น ซึ่งถึงวันนี้ก็พบผู้รอดชีวิตมาเพียง 57 คน
แน่นอนว่าหากฝนไม่ตกลงมาอย่างหนักเป็นเวลานานถึง 2 สัปดาห์ก็คงจะไม่ทำให้พื้นดินอ่อนตัวลงจนกระทั่งต้นไม้ไหลลงไปตามรอยยุบตัวของดินโคลน ทว่า ผู้ที่อาศัยอยู่บนเกาะเลย์เต้ พื้นที่เกิดเหตุนั้นต่างรู้ดีว่าควรที่จะตำหนิการลักลอบตัดไม่ซุงที่มีมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970 แล้วมากกว่า
โรเจอร์ เมอร์คาโด สมาชิกสภาตัวแทนของเขตนี้กล่าวว่า การตัดไม้นั้นยุติไปสิบกว่าปีแล้ว "แต่นี่คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำในอดีต"
ในขณะเดียวกัน แพท เว็นเด็ตติ เจ้าหน้าที่ฝ่ายรณรงค์ของกรีนพีซ องค์กรเพื่อพิทักษ์สิ่งแวดล้อมจากอังกฤษก็ย้ำในเรื่องนี้ว่า "การลักลอบตัดไม้ซุงนั้นได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นตัวการที่ทำให้เกิดโคลนถล่ม"
"เคยมีโคลนถล่มมาแล้วในปี 2004 ปี 2003 ทั้งสองครั้งดังกล่าวนี้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการลักลอบตัดไม้บนพื้นดินเหนือหมู่บ้านสองแห่งที่อยู่ในฟิลิปินส์เช่นกัน" เวนเด็ ตติ กล่าว
นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า ฟิลิปปินส์ได้สูญเสียพื้นที่ป่าไปถึงประมาณ 8.5 ล้านเอเคอร์ ( 21.25ล้านไร่) หรือเท่ากับพื้นที่ประเทศเบลเยี่ยมทั้งประเทศไปในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าการทำไม้ซุงเป็นเรื่องผิดกฎหมายในฟิลิปปินส์ แต่ว่าเนื่องจากการผสมผสานกันระหว่างระบบการจัดการที่อ่อนแอของรัฐกับการคอร์รัปชั่นก็ทำให้เกิดการละเลยที่จะบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว
สถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนั้นคือ ในปี 1991 มีประชาชนประมาณ 6,000 พัน ในเกาะเลย์เต้ที่ต้องสียชีวิตไปเนื่องจากน้ำท่วมและแผ่นดินถล่มหลังจากที่เกิดพายุโซนร้อนพัดผ่านเข้ามา และ อีกครั้งในปี 2003 มีคนอีก 133 คน ต้องเสียชีวิตไปเพราะโคลนถล่มที่นั่นอีก
------------------------------
ประชาไท เรียบเรียง
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)