Skip to main content
sharethis


04.30 น. ของวันนี้ (23 ก.พ.) กลุ่มสมัชชาคนจนประมาณกว่า 1 พันคนบุกเข้ายึดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บริเวณชั้น 1 และชั้น 2 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมทันที และขอให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี และมติคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร เนื่องจากปัญหาได้เรื้อรังมานานตั้งแต่ ปี 2544


 


กลุ่มสมัชชาคนจน ได้เดินทางมาปักหลักหน้ารัฐสภา ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการอ่านแถลงการณ์ระหว่างพิธีเปิด "หมู่บ้านคนจน" ที่หน้ารัฐสภา เรียกร้อง ผลักดันให้รัฐทบทวนนโยบายการพัฒนาต่างๆ ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชาชนในระดับรากหญ้า ดังกรณีการแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติ ที่ชาวบ้านเคยใช้ประโยชน์อย่างพอเพียงโดยโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐที่นายกฯเคยรับปากเมื่อเดือน ก.พ.2544 ครั้งเข้ารับตำแหน่งสมัยแรก และหลังจากที่สมัชชาคนจนที่ชุมนุมยืดเยื้อยาวนานกว่า 9 เดือน


 


โดยข้อเรียกร้องครั้งนี้ได้เสนอแนวทางและวิธีแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนเสนอร่างกฎหมายฉบับต่างๆ ที่ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ นักวิชาการ นักสิทธิมนุษยชน นักสิ่งแวดล้อม ช่วยกันกลั่นกรองขึ้นมา เช่น พ.ร.บ.ป่าชุมชน พ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืช พ.ร.บ.คุ้มครองสุขภาพความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมในสถานประกอบการ และ พ.ร.บ.ชุมชนแออัด เป็นต้น


 


ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเข้ายึดกระทรวงเกษตรฯ โดยสันติ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดประตูเข้าออกทุกทางของกระทรวงเกษตรฯ ไม่ให้ใครเข้าออกอีก ทำให้ข้าราชการไม่สามารถเข้าไปทำงานในกระทรวงได้ อย่างไรก็ตามเวลาประมาณ 12.30 น.ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างตัวแทนสมัชชาคนจน ประมาณ 10 คน นำโดย นางวนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ และนายบรรพต หงษ์ทอง ปลัดกระทรวงเกษตรฯ นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย ร่วมกับรัฐมนตรี 4 กระทรวงที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหา คือ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย เพื่อร่วมเจรจากับตัวแทนกลุ่มสมัชชาฯ ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มฯ


 ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มปัญหาใหญ่ๆ คือ ที่ดิน, ป่าไม้, เขื่อน และผู้ป่วยจากการทำงาน


 


ด้านผู้ชุมนุม ตำรวจปราบจราจลประมาณ 70 นายตรึงกำลังรอบนอกอาคารกระทรวงเกษตรฯ รอคำสั่งเคลียร์ม็อบสมัชชาคนจน ผบ.ตร. กร้าวระบุตำรวจมีหน้าที่ดูแลสถานที่ราชการขอให้ชาวบ้านออกจากตัวอาคาร ตัวแทนสมัชชาฯ ยืนกรานต้องเจรจาจนได้คำตอบน่าพอใจก่อนถึงจะถอย  ต่อมาเกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อกลุ่มตำรวจได้เคลื่อนเข้าไปจะยึดรถที่ติดเครื่องกระจายเสียง แต่กลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามากันไว้จนเกือบมีการปะทะของสองฝ่าย สุดท้ายตำรวจไม่สามารถยึดรถเครื่องเสียงไปได้


 


อย่างไรก็ตาม หลังจากการเจรจากว่าชั่วโมงผ่านไปโดยไม่สามารถหาข้อตกลงกันได้ ทั้งสองฝ่ายจึงหยุดการเจรจาไว้ชั่วคราว ขณะที่รอบนอกมีการเสริมกำลังตำรวจจากนครบาล 1 อีกประมาณ 150 นายเข้ามาเพิ่มเติมอีก


 


ในขณะเดียวกัน สมัชชาคนจน ได้ออกแถลงการณ์ "ถามหาสำนึกของความเป็นนายกรัฐมนตรี" มีเนื้อความว่า หลังจากที่สมัชชาคนจน มาชุมนุมตากแดดตากฝนและฝุ่นควันพิษในกรุงเทพฯ เพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาคนจนอยู่บริเวณหน้ารัฐสภา ตลอด 2 วัน 3 คืนที่ผ่านมา ปรากฏว่า นายกฯทักษิณ และรัฐบาลนี้ยังคงเพิกเฉยไม่เหลียวแล และไม่มีทีท่าว่าจะแสดงความรับผิดชอบต่อคนจนแต่อย่างใด ล่าสุด วานนี้ (22 ก.พ.) นายกฯ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการแก้ปัญหาของสมัชชาคนจนโดยตอบอย่างปัดรำคาญว่า "มาถามผมทำไม ไม่ทราบ ให้ไปถามกระทรวงเกษตรฯ"


 


สมัชชาคนไม่อาจรู้ได้หรอกว่า โดยโครงสร้างการบริหารราชการของบ้านนี้เมืองนี้ ลำพังกระทรวงเกษตรฯ จะมาแก้ไขปัญหาจากทั้งหมด 7 เครือข่าย ได้อย่างไร แต่ในเมื่อนายกฯ ไม่มีความอดทนพอที่จะคิดแก้ไขปัญหาอย่างเป็นเรื่องเป็นราวกว่านี้ เราก็หมดความอดทนแล้วเหมือนกันที่จะนั่งรอเฉยๆ อยู่ที่หน้ารัฐสภาอย่างเดิม และตัดสินใจมาดำเนินการไล่เบี้ยให้เกิดการแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ตามที่แนวทางที่นายกฯ เป็นฝ่ายชี้ช่องมา


ตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศ เมื่อปี 2544 รัฐบาลนี้ภายใต้การนำของนายกฯทักษิณ ประกาศนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจนเป็นนโยบายสำคัญ และสมัชชาคนจนคือกรณีปัญหาที่รัฐบาลเคยรับปากว่าจะแก้ไข ทั้งยังได้เคยสร้างภาพติดตาติดใจทุกวันนี้ด้วยการมาพูดคุยเพื่อจัดกระบวนการแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง


 


ถึงวันนี้ ภาพที่นายกฯ สร้างไว้หมดมนต์ขลังไปแล้ว หากมองในเชิงปริมาณ ลำพังข้อเท็จจริงที่ว่าตลอดระยะเวลา 5 ปี รัฐบาลแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจนได้แค่ 3 ปัญหา ก็เป็นตัวชี้วัดแล้วว่า รัฐบาลมีความตั้งใจเพียงใด


 


กรณีต่างๆ ที่มีมติครม.ออกมา ก็เป็นแค่กระบวนการแหกตาเพื่อลดกระแสกดดันเฉพาะหน้า


 


กรณีเขื่อนสิรินธร ก็เป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจนหากมองในแง่เชิงคุณภาพว่า เป็นกรณีปัญหาเดียว ภายในรัฐบาลเดียวที่มีมติครม.ถึง 3 ครั้งแต่กลับไม่ทำอะไรเลย


 


หรือการแก้ไขปัญหาแบบพูดอย่างทำอย่างในกรณีเขื่อนราษีไศล ที่มีมติให้เปิดประตูน้ำ เพื่อลดผลกระทบและตรวจสอบพิสูจน์สิทธิ์แต่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิ์ กำลังดำเนินไป กลับปิดประตูเขื่อนเก็บกักน้ำ จนท่วมที่ดินของชาวบ้านโดยไม่มีการชดใช้ค่าเสียหายให้


 


นอกจากนี้ ยังมีการแก้ไขปัญหาอย่างเอาดีเข้าตัวแบบมักง่าย เช่นในกรณีที่ชาวบ้านมีข้อพิพาทในที่ดินกับรัฐ ก็จะถูกรัฐบาลกวาดต้อนเข้าไปสู่นโยบายประชานิยม ด้วยการผลักให้ชาวบ้านไปลงทะเบียนคนจน เพื่อจะเช่าที่สาธาณณะแทนการเรียกร้องสิทธิในที่ดินของตนเอง


 


เช่นเดียวกัน ขณะที่รัฐบาลเน้นส่งเสริมการลงทุน แต่ไม่สนใจสวัสดิภาพความปลอดภัยของคนงาน ไม่สนใจร่างพ.ร.บ.คุ้มครองสุขภาพและความปลอดภัยในสถานประกอบการที่พี่น้องผู้ป่วยจากการทำงานพยายามผลักดัน ฯลฯ


 


"จะต้องให้เรากลับมาชุมนุมอีกกี่ครั้ง ปัญหาจึงจะได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่เราได้รับแต่คำสัญญาที่ปลอมขึ้นอย่างเป็นทางการด้วยการประทับตรามติครม. รัฐบาลไม่คิดบ้างหรือว่า ยิ่งเราถูกหลอกมากขึ้นเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเรียนรู้มากขึ้น และฉลาดรู้ทันขึ้น ที่ผ่านมา เราไม่ได้เป็นคนโง่ แต่เรายอมเพราะเราเป็นคนดี แล้วเราก็พบว่าความดีของเราถูกใช้เป็นเครื่องมือ จนถึงวันนี้ เราได้เรียนรู้ว่า สำหรับนายกฯ และรัฐบาลแบบนี้ เราไม่สามารถใช้เหตุผลด้วยได้ มีแต่ต้องใช้สิทธิทางการเมืองเข้าจัดการเท่านั้น


 


ไม่ว่ามรสุมที่นายกฯ กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ จะหนักหนาเพียงใด ก็ไม่ใช่เหตุอ้างที่จะทำให้รัฐบาลไม่แก้ไขปัญหาของคนจน ตราบใดที่ยังไม่ลาออกจากตำแหน่ง ก็ถือว่า นายกฯ และรัฐบาลนี้ยังต้องรับผิดชอบทำงานตามหน้าที่ที่ยังรับเงินเดือนจากประชาชนอยู่ทุกสิ้นเดือน ไม่มีสิทธิเพิกเฉย ไม่มีสิทธิรำคาญ ไม่มีสิทธิปัดความรับผิดชอบ


 


ขณะที่นายกฯ ทักษิณ กำลังพยายามทำทุกทุกทางเพื่อรักษาตำแหน่งไว้ แต่สิ่งที่พวกเรากำลังถามหาคือ สำนึกของความเป็นนายกรัฐมนตรีที่ต้องรับผิดชอบต่อเรา แถลงการณ์ระบุ


 


อย่างไรก็ตาม เวลาประมาณ 17.00น. ผู้ชุมนุมกว่าพันคนได้เคลื่อนขบวนออกจากกระทรวงเกษตรมาอยู่บริเวณด้านหน้ากระทรวงเพื่อรอผลการเจรจาระหว่างแกนนำและรัฐมนตรี


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net