โดยในจดหมายเปิดผนึกถึง นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ กรณี ป้ายผ้าติดตั้งที่คันคูเมือง ที่สาธารณะ และป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ของเทศบาลฯ ว่า ประชาชนชาวเชียงใหม่กลุ่มหนึ่ง ขอให้เทศบาลนครเชียงใหม่พิจารณาปลดป้ายผ้าแสดงทัศนะทางการเมือง สนับสนุนนายกรัฐมนตรีในที่สาธารณะที่อยู่ในการดูแลของเทศบาล แม้ว่าการแสดงความคิดเห็นเป็นเสรีภาพพื้นฐาน แต่การปล่อยให้ป้ายผ้าเหล่านั้นอยู่ในที่สาธารณะ ย่อมแสดงอภิสิทธิ์ของคนกลุ่มหนึ่ง และการที่ป้ายผ้าเหล่านั้น ไม่ระบุผู้ดำเนินการและติดตามที่สาธารณะทั่วไปและคันคูเมือง ซึ่งปกติไม่มีเอากชนรายใดได้รับอนุญาตให้ใช้เว้นแต่เป็นกิจการของราชการ

ทำให้คิดได้ว่าเป็นป้ายของเทศบาลที่ใช้ภาษีอากรของราษฎรเพื่อประโยชน์ของกลุ่มผลประโยชน์ของกลุ่มผลประโยชน์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งท่านย่อมไม่ประสงค์ให้เกิดความเข้าใจว่า ท่านสนับสนุนและเอื้อประโยชน์แก่คนกลุ่มนั้น ประกอบเข้ากับภาษาที่ใช้บนป้ายบางผืนแสดงอำนาจบาตรใหญ่ของผู้จัดทำอย่างโจ่งแจ้งในที่สาธารณะ ส่อความหยากกระด้างของผู้จัดทำ ซึ่งไม่ใช่ตัวแทนของประชาชนชาวเชียงใหม่ที่สุภาพและอ่อนน้อม ดังเช่นใช้คำว่า "คิง" ที่อาจเทียบเท่ากับคำว่า "มึง" ในภาษาไทยกลาง ทัศนะบนป้ายเหล่านั้น รังแต่จะสร้างความขัดแย้ง ความตึงเครียดในเมืองเพราะไม่ได้เป็นทัศนะของประชาชนชาวเชียงใหม่ทั้งหมด

ในจดหมายเปิดผนึก ยังระบุอีกว่า ขอให้พิจารณาปลดป้ายในที่สาธารณะเหล่านั้น ตามฐานะและตำแหน่งนายกเทศมนตรีซึ่งมีพันธะต่อประชาชนผู้อาศัยในการที่ดำเนินการรักษาเมืองให้เป็นเมืองน่าอยู่น่าอาศัย ดำรงรักษาวัฒนธรรมอันดีของล้านนาและรักษามาตรการการจัดระเบียบป้ายที่ทางเทศบาลได้เคยประกาศเอาไว้

ทั้งนี้ เนื่องจากในปัจจุบัน ได้มีการติดป้ายผ้าและป้ายคัตเอ้าท์ขนาดใหญ่ที่สนับสนุน พ.ต.ทักษิณ ชินวัตร ให้เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมกับมีป้ายเขียนถ้อยคำกล่าวหาโจมตีนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำเคลื่อนไหวขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งติดเต็มรอบๆ คูเมือง หลังมีการชุมนุมเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่กรุงเทพฯ เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา