เมื่อเวลา 16.00น. วันที่ 3 มีนาคม 49 ที่สนามฟุตบอลโรงเรียนเทศบาล 1 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์เปิดเวทีปราศรัย "ทำลายระบอบทักษิณ ทวงคืนประเทศไทย" เพื่อชี้แจงเหตุผลการคว่ำบาตรการเลือกตั้ง 2 เมษายน 49 โดยไม่ส่งสมาชิกลงสมัครรับเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 21.00 น. มีประชาชนเข้าร่วมฟังการปราศรัยประมาณ 20,000 คน  ส่วนบนเวที ได้มีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หลายคนสลับกันขึ้นปราศรัย แต่ไม่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาด้วย เนื่องจากต้องติดตามสถานการณ์ทางการเมือง ณ ที่ทำการพรรคฯ ที่กรุงเทพมหานคร

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในการปราศรัยตอนหนึ่งว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้คัดค้านการเลือกตั้ง แต่พรรคได้วิเคราะห์แล้วว่า ถ้าจะต่อสู้ด้วยวิธีการนี้จะไม่สามารถต่อสู้กับระบอบทักษิณได้ จากประสบการณ์ 5 ปี ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์พบว่า ต้องต่อสู้ด้วยอุดมการณ์เท่านั้น ตนจึงขอเรียกร้องให้ประชาชนลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อทำลายระบอบทักษิณ และปกป้องระบอบประชาธิปไตยเอาไว้

"ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมขึ้นเวทีปราศรัย โดยที่ไม่ได้ขอคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชน แต่ขอเรียกร้องให้ต่อสู้เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตย หากการเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายน 2549 เกิดขึ้นจริง ก็ขอให้พี่น้องกากบาทในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนเสียงให้ใคร เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกแล้วว่า ถ้ามีคนไม่ลงคะแนนให้พรรคไทยรักไทยมากกว่า ก็จะไม่ทำหน้าที่รับใช้ประชาชนอีกต่อไป"

นายสุเทพกล่าวอีกว่า แม้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคจะไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง แต่สมาชิกก็ยังคงทำหน้าที่พบปะประชาชนอยู่เช่นเดิม แต่จะมีภารกิจเพิ่มขึ้น นั่นคือมุ่งหน้าทำลายระบอบทักษิณ โดยหลังจากนี้ พรรคจะจัดตั้งสมัชชาประชาชนทุกจังหวัด เพราะพรรคเชื่อในเรื่องการเมืองภาคประชาชน

นายสุเทพ ชี้แจงว่า เหตุที่นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้เดินทางมาร่วมปราศรัยครั้งนี้ด้วย เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สมาชิกพรรคจึงขอให้นายอภิสิทธิ์ อยู่เฝ้าติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอยู่ ณ ที่ทำการพรรค โดยให้พวกตนออกมาปราศรัยในต่างจังหวัดแทน

นายวิทยา แก้วภารดัย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ชี้แจงในระหว่างการปราศรัยว่า เหตุผลที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ส่งสมาชิกลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้เนื่องจากพรรคเห็นว่า ระบอบทักษิณเป็นระบอบที่อันตรายต่อประเทศชาติ ถ้าส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งก็จะเท่ากับเป็นการสนับสนุนระบอบทักษิณให้คงอยู่ต่อไป ทางพรรคจึงมีมติไม่ส่งลงสมัครดีกว่า

นายวิทยากล่าวอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์จะต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจต่อไป โดยในวันที่ 4 มีนาคม 49 จะจัดเวทีปราศรัยชี้แจงให้ประชาชนทราบ ที่ จ.นครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานี วันที่ 5 มีนาคม ที่ จ.พังงา และภูเก็ต

นายแพทย์เกรียงศักดิ์ หลิวจันทร์พัฒนา สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ก่อตั้งมา 60 ปี มีอุดมการณ์ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำหน้าที่นี้มาตลอด เพราะฉะนั้น ประชาชนต้องร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ทำลายระบอบทักษิณ

น.พ.เกรียงศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ระบอบทักษิณเปรียบเสมือนเชื้อโรคร้ายเมื่อผู้ใดเข้าไปร่วมในระบอบทักษิณก็จะติดเชื้อร้ายเหล่านี้เข้าไปด้วย ใน จ.สงขลา มีนักวิชาการที่มีชื่อเสียง 2 คนคือ นายวิษณุ เครืองาม และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รวมทั้งคนเดือนตุลาคนอื่นๆ เมื่อเข้าไปในระบอบทักษิณแล้ว อุดมการณ์ต่างๆ ก็ถูกทำลายไป

น.พ.เกรียงศักดิ์ เปิดเผยหลังการปราศรัยว่า เหตุที่ตนมาร่วมปราศรับในครั้งนี้เนื่องจากตนเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มา 20 ปีแล้ว ในขณะที่ตนเป็นสมาชิกของเครือข่ายพันธมิตรกู้ชาติกู้ประชาธิปไตยสงขลาด้วยนั้น ตนเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์มีอุดมการณ์เดียวกับเครือข่ายพันธมิตรกู้ชาติฯ นั่นคือ ต้องการทำลายระบอบทักษิณและขับไล่ทรราช แต่ในการเคลื่อนไหวของเครือข่ายพันธมิตรกู้ชาติฯ ในลักษณะแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง เพราะฉะนั้น การที่ตนขึ้นปราศรัยในครั้งนี้ไม่ได้มาในนามตัวแทนเครือข่ายพันธมิตรกู้ชาติฯ แต่เป็นการแสดงความเห็นส่วนตัวและตนก็ไม่ได้หารือกับสมาชิกเครือข่ายพันธมิตรกู้ชาติฯ มาก่อน

น.พ.เกรียงศักดิ์ ยังได้ยกตัวอย่างด้วยว่า ครั้งนี้มองที่เป้าหมายเป็นหลัก เช่น กรณีที่ประเทศจีนในสมัยการปกครองของเหมา เจ๋อ ตุงได้ต่อสู้กับเจียง ไค เชคอยู่ตลอด แต่เมื่อกองทัพญี่ปุ่นบุกประเทศจีน ทั้งสองฝ่ายก็หันมาจับมือขับไล่ญี่ปุ่นออกไป เพราะถือว่าญี่ปุ่นเป็นศัตรูร่วมกัน เช่นเดียวกับการเคลื่อนไหวขับไล่ทักษิณในครั้งนี้