Skip to main content
sharethis

วันวานเมื่อนึกถึง "ร.ต.ฉลาด วรฉัตร" มักจะมีภาพโลงศพ โต๊ะหมู่บูชา พระพุทธรูป และพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมราชินีนาถตามมา รายล้อมด้วยผู้คนที่เข้ามาให้กำลังใจ บ้างก็ร่วมอดข้าวประท้วงกับเขาด้วย


 


วันนี้ เขามากับเชือก พร้อมทั้งประกาศจะแขวนคอตัวเองหากนายกรัฐมนตรีไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง


 


ประชาธิปไตย "เข็ดฟัน"


ด้วยความเป็นส.ส.ใหม่ไฟแรง ต้องการแก้ปัญหาน้ำมันแพงในสมัยรัฐบาล พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ เขาพบว่า มีการกักตุนน้ำมันทำให้น้ำมันขาดตลาดและมีราคาแพงจนประชาชนเดือดร้อนไปทั่ว ร.ต.ฉลาดประกาศลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดตราด พร้อมทั้งอดอาหารและน้ำประท้วง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดประชุมสภาวิสามัญ เพื่อชี้แจงเหตุผล อดข้าวอดน้ำอยู่ 2 วันก็เป็นลมหมดสติ ถูกส่งไปโรงพยาบาล แต่สิ่งที่เขาทำ ก็มีผลสั่นสะเทือน ทำให้ พล.อ.เกรียงศักดิ์ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี


 


3 ปีต่อมา เพราะเชื่อว่านายกฯ ต้องมาจากการเลือกตั้ง ฉลาดจึงออกมาอดข้าวอีกครั้ง เพื่อคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมที่ให้ข้าราชการประจำมาเป็นนายกฯ ได้ คราวนี้เขาอดข้าวอยู่ถึง 9 วัน ผลคือ ร่างกฎหมายดังกล่าวไม่ผ่านสภา และนายกฯเปรมประกาศยุบสภา


 


แม้ว่าต่อมา เขาจะได้รับเลือกเป็น ส.ส.อีกครั้งในเขตพญาไท แต่เป็นได้เพียง 6 เดือนก็ลาออก เพราะไม่เห็นด้วยที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้ ส.ส.มา 100 เสียง (จากจำนวน ส.ส. 347 คน) ไม่ยอมจัดตั้งรัฐบาลเอง แต่กลับหนุนให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกฯ แทน ร.ต.ฉลาด เคลื่อนไหวร่วมกับสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) โดยมีประชาชนมารวมตัวกันที่สนามหลวงนับหมื่นคน ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปเจรจาที่บ้านของ พล.อ.เปรม สุดท้าย พล.อ.เปรมประกาศไม่รับตำแหน่ง พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง


 


ประชาธิปไตย "เผ็ดร้อน"


ทันทีที่ พล.อ.สุจินดา "เสียสัตย์เพื่อชาติ" เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทั้งที่เคยบอกว่าจะไม่รับตำแหน่งใดๆ ทางการเมือง ประชาชนก็ออกมาคัดค้านกันในวงกว้าง เพราะเห็นได้ชัดว่า การเข้ารับตำแหน่งนายกฯ ของ พล.อ.สุจินดา เป็นการสืบทอดอำนาจเผด็จการจากคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ที่พล.อ.สุจินดามีส่วนร่วมอยู่ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับ รสช. ไม่ได้ระบุไว้ว่า ตัวนายกฯ มาจาก ส.ส. หรือคนนอก


"จะอดอาหารจนกว่าจะตาย หรือ พล.อ.สุจินดาฯ ลาออกไป"


ฉลาดออกมาอดข้าวประท้วงเป็นคนแรก ที่บริเวณหน้ารัฐสภา พร้อมป้ายสีดำข้อความว่า "ข้าขอพลีชีพเพื่อประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง" เขารณรงค์เรียกร้องให้นายกฯ ต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม รัฐธรรมนูญต้องมาจากผู้แทนของปวงชน ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านต้องมาจากการเลือกตั้ง ให้ยกเลิก พ.ร.บ.พรรคการเมืองและ พ.ร.บ.และกฎหมายรัฐธรรมนูญที่เป็นเผด็จการทั้งหมด


แต่ไม่ค่อยเป็นที่สนใจนักจน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หัวหน้าพรรคพลังธรรมในขณะนั้น โดดเข้าร่วมอดอาหารด้วย จึงได้รับความสนใจจากประชาชน เข้าร่วมสนับสนุนจำนวนมาก เนื่องจากขณะนั้นตัว พล.ต.จำลองเองกำลังได้รับความนิยมใน กทม.


เหตุการณ์ครั้งนี้พัฒนาไปสู่ "พฤษภาทมิฬ" สุดท้ายเป็นผลให้ พล.อ.สุจินดา ประกาศลาออก รวมแล้ว ร.ต.ฉลาดอดข้าวไปทั้งสิ้น 47 วัน หลังจากนั้น คนไทยก็ได้นายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง


ประชาธิปไตย "หอมหวาน"


"คุณฉลาดที่รักและนับถือ...ถ้าหากคุณไม่เป็นคนเริ่มลงมือ แล้วจะเป็นใครเล่าที่ริเริ่มกระทำการ ขอบคุณเป็นอย่างยิ่งสำหรับความมุ่งมาดของคุณ"


 


"ผมจำไม่ได้เสียแล้วว่ามาเยี่ยมคุณด้วยความเป็นห่วงกี่ครั้งแล้ว ช่างเป็นการสูญเปล่าเสียนี่กระไรหากเอาชีวิตของคุณมาเสี่ยงแลกกับพวกคนขี้ฉ้อตอแหลเหล่านั้น คุณยังสามารถทำคุณประโยชน์ได้อีกมากมายนัก หากจะยังดำรงรักษาชีวิตไว้เพื่อการต่อสู้ให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย"


 


12 ปีมาแล้วที่ข้อความเหล่านั้นได้ถูกเขียนลงบนหน้ากระดาษของสมุดลงนามปกแข็งสีเขียวแดงสะท้อนความคิดของผู้คนที่มีต่อการอดข้าวประท้วงของ ร.ต.ฉลาด วรฉัตร เพื่อเรียกร้องการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน


 


ในปี 2537 แม้จะผ่าน "พฤษภาทมิฬ" มา 2 ปีแล้ว แต่รัฐบาลกลับไม่พัฒนาระบอบประชาธิปไตยตามที่ได้สัญญาไว้กับประชาชน โดยยังใช้รัฐธรรมนูญฉบับที่ร่างโดย รสช.ต่อไป


 


บางคนมองว่า ข้อเรียกร้องของเขาเป็นสิ่งที่ปฏิบัติไม่ได้จริง บ้างก็บอกว่า "นี่ก็เป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว จะเอาอะไรกันนักกันหนา" การอดข้าวในครั้งนี้จึงดูโดดเดี่ยวกว่าครั้งที่ผ่านๆ มา


 


"ข้าฯ ขอตายที่นี่ ห้ามนำส่งโรงพยาบาลเด็ดขาด ใครนำส่งโรงพยาบาลถือว่าเป็นคนทรยศ"


 


คืนวันที่ 8 ของการอดอาหาร ฉลาดอาเจียนอย่างรุนแรง แต่ยืนกรานไม่ไปโรงพยาบาล คณะแพทย์ผู้ดูแลจึงเปลี่ยนมาให้กลูโคลสผสมน้ำเกลือและฉีดยาบำรุง ณ จุดนั้นแทน


 


หลังจากนั้นเริ่มมีผู้คนให้การสนับสนุนเขามากขึ้น กลุ่มศิลปินออกมาโกนหัวเพื่อร่วมเรียกร้องให้ ส.ส.ร่างรัฐธรรมนูญ มีการตั้ง "คณะกรรมการเพื่อนฉลาด" องค์กรเฉพาะกิจเพื่อผลักดันให้มีการปฏิรูปทางการเมือง นักวิชาการ 113 คนจาก 12 สถาบันก็ร่วมลงชื่อด้วยเช่นกัน


 


แม้ฉลาดจะอดอาหารอยู่ 49 วันและชวน หลีกภัย นายกฯในขณะนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่การต่อสู้ครั้งนี้ก็เป็นที่มาของคณะกรรมการพัฒนาประชาธิปไตย (คพป.) ที่ได้ทำข้อเสนอเพื่อเป็นแนวทางของการปฏิรูปการเมือง จนเป็นที่มาของสภาร่างรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนเมื่อตุลาคม 2540 ปรับความสัมพันธ์เชิงอำนาจในสังคมไทยใหม่ ด้วยการเปิด "พื้นที่" ให้แก่การเมืองภาคประชาชน เช่น รับรองสิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ตามมาตรา 46 และ 56, สิทธิรับรู้ข้อมูลข่าวสารตามมาตรา 58, และให้วุฒิสภามาจากการเลือกตั้ง


 


ประชาธิปไตย "ขมๆ"


เมื่อครั้งสมัชชาคนจน 16 กลุ่มซึ่งได้รับปัญหาเนื่องมาจากนโยบายของรัฐ อาทิ กลุ่มปากมูล กลุ่มราษีไศล กลุ่มห้วยละห้า เป็นต้น เคลื่อนขบวนมาปักหลักที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ฉลาดได้เข้าร่วมกับสมัชชาคนจนด้วย โดยแจ้งความผู้บังคับบัญชาการตำรวจแห่งชาติให้จับกุมนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ดำเนินคดีข้อหา ตั้งรัฐบาลเถื่อน กระทำการเป็นซ่องโจร ขายชาติ ทำลายความมั่นคงราชอาณาจักร และละเมิดอำนาจพระมหากษัตริย์ รวม 5 ข้อหา โดยจะอดอาหารประท้วงถ้าตำรวจยังไม่มีการจับกุมนายกฯ และครม.ตามที่แจ้งความ ทั้งประกาศยอมอดอาหารจนเสียชีวิต


 


อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 100 ของการอดอาหาร ฉลาดเป็นลมหมดสติไป โดยสาเหตุมาจากอดอาหารเป็นเวลานาน ทำให้ขาดสารอาหารขาดน้ำจนกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดซึ่งหากเป็นบ่อยๆ จะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตายในที่สุด เขาจึงต้องเลิกอดข้าวประท้วงไปโดยปริยาย


 


ประชาธิปไตย "..."


"เรามีประชาธิปไตยอยู่แล้ว เราจะอดอาหารประท้วงใคร แต่เราต้องปกป้อง (ประชาธิปไตย) ใครอย่ามาทำลายประชาธิปไตย เมื่อใครจะทำลายแล้วชนะ ผมก็จะต้องแขวนคอ มันก็ตายเร็วๆ ไม่ต้องไปเรียกร้องอีกแล้ว เพราะว่าเขาเรียกร้องประชาธิปไตยมาตั้งแต่ 2475 เป็นเวลายาวนานแล้ว จะกลับไปย่ำอยู่กับที่ จึงไม่ต้องไปนั่งอดข้าวประท้วงอีกแล้ว เลิกๆๆ"


 


2549 ประชาธิปไตย (ของคนไทยและฉลาด) จะมีรสชาติเป็นอย่างไร โปรดติดตาม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net