Skip to main content
sharethis


ประชาไท - 6 มี.ค.49        พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติขอให้ทุกฝ่ายยึดพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปี 2535 ที่ให้ทุกฝ่ายที่ขัดแย้งหันหน้าเข้าหากัน ความว่า

 


"ช่วยกันคิด คือหันหน้าเข้าหากัน ไม่ใช่เผชิญหน้ากัน แก้ปัญหา เพราะว่าอันตรายมีอยู่ เวลาคนเราเกิดความบ้าเลือด ปฏิบัติการรุนแรงต่อกันแล้วมันลืมตัว ลงท้ายไม่รู้ว่าตีกันเพราะอะไร แล้วจะแก้ปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าจะต้องเอาชนะ แล้วก็ใครจะชนะ ไม่มีทางชนะ อันตรายทั้งนั้น มีแต่แพ้ คือต่างคนต่างแพ้ แล้วที่แพ้ที่สุดก็คือประเทศชาติ ประชาชนจะเป็นประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ประชาชนเฉพาะในกรุงเทพมหานคร สมมติว่ากรุงเทพมหานครเสียหาย ประเทศก็เสียหายไปทั้งหมด แล้วจะมีประโยชน์อะไรที่จะทนงตัวว่าชนะ เวลาอยู่บนกองสิ่งปรักหักพัง"


         


พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าวว่า ขอให้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สำเหนียกไว้ด้วยว่าเคยไปเข้าเฝ้าต่อหน้าพระพักตร์ และในหลวงได้พระราชทานพระบรมราโชวาท ขณะที่รัฐบาลเองก็ควรต้องฟังด้วย ขณะที่สื่อมวลชนก็ไม่ควรพาดหัวข่าวหวือหวาเน้นการแบ่งแยกฝ่ายโดยมุ่งหวังแต่ยอดขาย


          


"ขอความกรุณาสื่อให้พาดหัวพระบรมราโชวาทข้างต้น เชื่อว่าหากใครได้อ่านก็คงต้องหยุดคิด ผมมั่นใจว่าหากไปรวมกลุ่มผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการเผชิญหน้าคงจะมีจำนวนมากกว่าทั้งสองกลุ่มที่กำลังทะเลาะอยู่ หากไม่ยอมหยุดกันจะให้ผมถอดเครื่องแบบออกมาเรียกร้องก็ได้  นายกฯทักษิณก็น้องผม รุ่นของท่านเป็นลูกศิษย์ผมสอนมาทั้งรุ่น คุณสนธิก็เพื่อน ท่านจำลองก็เป็นพี่ที่เคารพ แม้แต่คุณอภิสิทธิ์เองซึ่งจบจากอังกฤษ มีหัวประชาธิปไตย เวลานี้ขอให้เห็นบ้านเมืองก่อนการเมือง" โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าว


 


เขายังยืนยันด้วยว่า การชุมนุมที่ยืดเยื้อทำให้ตำรวจจำนวนมากที่ถูกระดมมาจากหลายหน่วยไม่มีเวลาพักผ่อน ได้นอนเพียงวันละ 3-4 ชั่วโมง เพราะตำรวจเป็นสุนัขเฝ้าบ้าน ไม่ใช่สุนัขรับใช้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ต้องทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ไม่ว่าฝ่ายไหนจะชุมนุม ซึ่งขณะนี้ดูเหมือนจะไม่มีใครยอมถอยเลย ที่ผ่านมามีคำกล่าวของทั้งสองฝ่ายว่า "ไม่ไหวแล้วโว้ย" ทางตำรวจก็อยากจะบอกเช่นกันว่า "ตำรวจไม่ไหวแล้วครับ" จึงต้องออกมาพูดแทนประชาชน 80-90 เปอร์เซ็นต์ที่ต้องการให้มีการยุติการเผชิญหน้ายืดเยื้อ


 


ทั้งนี้ ทางตำรวจระบุขอให้ผู้ที่ใช้เส้นทางการจราจรที่จะต้องสัญจรผ่านเส้นราชดำเนิน สะพานพระปิ่นเกล้า และสนามหลวง ช่วงเวลา 22.00 น.ขอให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น


 


 


 


เรียบเรียงจาก เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น, เว็บไซต์ผู้จัดการ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net