เมื่อวันจันทร์ ที่ 6 มีนาคม เวลา 11.00 น. ที่ผ่านมาเครือข่ายคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซ โรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย-มาเลเซีย และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง กว่า 200 คน บุกไปยังสำนักงานอัยการเขต 9 ประกาศ "เอาทักษิณออกไป เอาแผ่นดินไทยคืนมา" และเรียกร้องให้กระบวนยุติธรรมให้ทรงความยุติธรรมจริงๆ มิเช่นนั้นพี่น้องมุสลิมจะลุกขึ้นมาปกป้องความถูกต้องและหลักการของศาสนาอิสลามด้วยชีวิต แม้ต้องสูญเสียเลือดเนื้อก็ไม่กลัว เพื่อให้ความถูกต้องและหลักการศาสนาอิสลามให้คงอยู่ตลอดไป
สืบเนื่องจากวันนี้ทางสำนักงานอัยการเขต 9 ได้นัดกลุ่มค้านท่อก๊าซจะนะ มารับฟังว่าอัยการ "สั่งฟ้องหรือไม่" กรณีที่ตำรวจ สภ.อ.จะนะ ส่งสำนวนดำเนินคดีกับสมาชิกกลุ่มค้านท่อก๊าซจะนะ ในข้อหา "ร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น เพื่อการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นทั้งหมด หรือบางส่วนหรือเข้าไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุขในเวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน" ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2547 ตามที่นาย
วันนี้ทางกลุ่มผู้คัดค้านได้เคลื่อนขบวน โดยสวมใส่เสื้อสีแดง ถือธงสีแดงเป็นสัญลักษณ์ และมีรถกระจายเสียง เคลื่อนมายังสำนักงานอัยการเขต 9 เมื่อเดินทางมาถึงทางเครือข่ายคัดค้านฯ ทั้งหมดเรียกร้องให้อธิบดีสำนักงานอัยการเขต 9 ลงมาชี้แจงบริเวณที่กลุ่มผู้คัดค้านฯปักหลักอยู่ พร้อมกับกล่าวว่า "พวกตนไม่ได้กระทำผิดแต่ถูกรัฐบาลภายใต้การบริหารของนายกฯ
หลังจากนั้นทางสำนักงานอัยการ 9 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาเจรจาเพื่อให้กลุ่มผู้คัดค้านส่งตัวแทนขึ้นไปเจรจา แต่ถูกปฏิเสธและยืนกรานให้อธิบดีลงมาชี้แจงให้พี่น้องทั้งหมดที่รออยู่ได้ฟังพร้อมกัน พร้อมทั้งปราศรัยผ่านเครื่องกระจายเสียงต่อไปว่า "วันนี้เรามาเพื่อเรียกร้องให้สำนักงานอัยการเขต 9 อย่าได้มีพฤติกรรมเยี่ยงนายกฯ
จนกระทั่งเวลา 11:30 น. นาย
นาย
ก่อนเดินทางกลับทางตัวแทนกลุ่มได้อ่านแถลงการณ์ ระบุว่า "เอาทักษิณออกไป เอาแผ่นดินไทยคืนมา เพราะนายกฯทักษิณ ชินวัตร สนับสนุนโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลย์ อ.จะนะ จ.สงขลา โดยใช้กลไก อำนาจรัฐในฐานะที่ตนเป็นนายกฯบริหารประเทศ สนับสนุนให้บริษัท ทรานส์ ไทย-มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด หรือทีทีเอ็มดำเนินการก่อสร้าง ทั้งที่ประเทศไทยเสียเปรียบประเทศมาเลเซียอย่างเห็นได้ชัด และผลประโยชน์ส่วนใหญ่ตกอยู่กับต่างชาติจนนำไปสู่การคัดค้านของทุกภาคส่วนในสังคม แต่นายกฯฯทักษิณยังผลักดันอย่างยิ่งยวด เพราะผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นตกอยู่กับนายทุนในพรรคไทยรักไทย ดังนั้นจะเห็นได้ว่านายกฯทักษิณเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติมาเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องของตนเอง
"กรณีที่ดินสาธารณประโยชน์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่รัฐบาลใช้อำนาจจัดการโกงที่ดินสาธารณประโยชน์ให้บริษัท และปล่อยให้บริษัททีทีเอ็มฮุบที่ดินสาธารณประโยชน์เป็นของบริษัท การที่ชาวบ้านลุกขึ้นมาปกป้องแต่ถูกหมายจับ อัปยศอย่างยิ่งที่คนไทยปกป้องแผ่นดินไทย กลับถูกคนต่างชาติ ชาวเกาหลี ตัวแทนบริษัทซัมซุงฯประเทศเกาหลีแจ้งจับ ทั้งที่ตำรวจ สภ.อ.จะนะ รู้ดีว่าที่ดินแปลงนั้นเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ของชาติ แต่กลับเห็นกับผลประโยชน์ของบริษัท ทำสำนวนเท็จและจับชาวบ้านดำเนินคดี
"เครือข่ายคัดค้านฯได้นำเอกสารยืนยันว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์และถูกบริษัททรานส์ไทย-มาเลย์โกงไป เช่น มติ อบต.สะกอม ผลการตรวจสอบของคณะกรรมการสิทธิมนนุษยชนแห่งชาติ สำเนาคำพิพากษาคดีศาลสงขลากรณีที่เคยมีนายทุนแจ้งความดำเนินคดีชาวบ้านที่เข้าไปใช้ประโยชน์จากที่ดินแปลงเดียวกันนี้ ที่ทีทีเอ็มอ้างสิทธิเป็นเจ้าของ มีการต่อสู้กันจนชนะ เพราะเจ้าหน้าที่ที่ดินสงขลา เป็นพยานยืนยันว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์
"วันนี้พวกเราเครือข่ายคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซ โรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย-มาเลเซีย และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ขอยืนยันต่อสำนักงานอัยการเขต 9 ว่าจงร่วมกันปกป้องแผ่นดินไทยไม่ให้ต่างชาติฮุบไป การมีคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องในคดีนี้ เป็นการพิสูจน์กระบวนการยุติธรรมอีกครั้งหนึ่งว่า "ตัดสินบนพื้นฐานเพื่อชาติ? เพื่อนายทุน?" และเราจะสามารถเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมต่อไปได้หรือไม่?"
ด้านนาย