ประชาไท -9 มี.ค. 2549 เครือข่ายพันธมิตรฯ ภาคใต้ ประกาศระดมคนเข้ากรุงเทพฯ ร่วมขบวนล้อมทำเนียบฯ ไล่ทักษิณ "สตูล - พัทลุง" แฉถูกผู้ว่าฯ สังกัด "เนวิน" ไล่บี้ไม่ให้จัดชุมนุม ฉุนขาด "ผู้ว่าฯ สตูล" ส่งสรรพากรนับถ้วยร้านกาแฟเปิด ASTV "ผู้การฯ สงขลา" ไม่ประมาท ส่งตำรวจคุ้มกัน "เอไอเอส" หาดใหญ่

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 มีนาคม 2549 ที่สภาอาจารย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ แกนนำเครือข่ายพันธมิตรกู้ชาติ กู้ประชาธิปไตยสงขลา ได้ประชุมเตรียมรายละเอียดการเคลื่อนขบวนจากหน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ ไปยื่นหนังสือเปิดผนึกให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในวันที่ 13 มีนาคม 2549

ที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่า เพื่อป้องกันความสับสนและความเข้าใจผิดที่อาจจะทำให้เหตุการณ์บานปลาย จึงได้มอบหมายให้นายเอกชัย อิสระทะ รองโฆษกเครือข่ายพันธมิตรกู้ชาติ กู้ประชาธิปไตยสงขลา เป็นผู้ประสานงานกับทางจังหวัดสงขลา เกี่ยวกับการเคลื่อนขบวนในวันดังกล่าว โดยนายเอกชัยกับตัวแทนเครือข่ายฯ จะเดินทางไปประสานงานกับทางจังหวัดสงขลา เวลา 13.30 น. วันที่ 9 9 มีนาคม 2549

จากนั้น เวลาประมาณ 20.30 น. วันเดียวกัน ที่สหภาพแรงงานพนักงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาภาคใต้ มีตัวแทนเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคใต้ จากจังหวัดสงขลา สตูล พัทลุง ตรัง นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมประชุมประเมินสถานการณ์การเคลื่อนไหวขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ และมาตรการในการหนุนช่วยการเคลื่อนไหวของเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

ดร.เลิศชาย ศิริชัย อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ตัวแทนเครือข่ายจากจังหวัดนครศรีธรรมราช แจ้งต่อที่ประชุมว่า ทางจังหวัดนครศรีธรรมราช จะมีการปราศรัยใหญ่ที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ในวันที่ 10 มีนาคม 2549 และที่ศาลาประดู่หก ในวันที่ 12 มีนาคม 2549 พร้อมกับระดมประชาชนอย่างต่ำ 2,000 คน ขึ้นไปร่วมชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล

นายวิฑูรย์ จันทน์เทพ ตัวแทนเครือข่ายจากจังหวัดพัทลุง แจ้งว่า จังหวัดพัทลุงจะงดการชุมนุมชมการถ่ายทอดสดจาก ASTV เพื่อระดมสมาชิกเครือข่ายฯ เข้ากรุงเทพมหานครให้ได้มากที่สุด ปัญหาในการเคลื่อนไหวที่จังหวัดพัทลุง คือ ถูกขัดขวางจากนายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง และนายโกสินทร์ ไพศาลศิลป์ นายกเทศมนตรีเมืองพัทลุง ตั้งแต่ตัดไฟฟ้า ไปจนถึงส่งเทศกิจขับไล่ไม่ยอมให้มีการชุมนุม

นายสมบูรณ์ กำแหง ตัวแทนเครือข่ายจากจังหวัดสตูล แจ้งว่า เป็นอีกพื้นที่ที่การเคลื่อนไหวถูกขัดขวางจากข้าราชการ โดยนายมานิต วัฒนเสน ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้เรียกแกนนำไปพบขอให้งดการเคลื่อนไหวในพื้นที่ พร้อมกับสั่งห้ามไม่ให้ใช้สถานที่ราชการจัดชุมนุม กระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2549 ทางเครือข่ายฯ ได้เช่าร้านกาแฟเพื่อให้สมาชิกได้ใช้สถานที่นี้ ร่วมกันติดตามชมการถ่ายทอดสดจาก ASTV ทางนายมานิตซึ่งมานั่งชมอยู่ด้วย ก็ได้สั่งการให้สรรพากรจังหวัดสตูล มานั่งนับถ้วยกาแฟที่ร้าน ตลอดวันที่ 8 มีนาคม 2549

ในที่สุดที่ประชุมเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคใต้ ได้มีมติให้จัดแถลงข่าวที่สภาอาจารย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ เวลา 17.00 น. วันที่ 9 มีนาคม 2549 ใน 3 ประเด็น คือ 1. การสร้างความแตกแยกภายในชาติเพื่อรักษาอำนาจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยการนำชาวบ้านมาสนับสนุน ก่อให้เกิดภาวะเผชิญหน้ากับเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรง 2. มาตรการเคลื่อนไหวสนับสนุนการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่กรุงเทพมหานคร 3. เปิดโปงพฤติกรรมข้าราชการในภาคใต้ที่ขัดขวางการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน

จากนั้น ตัวแทนเครือข่ายจากทั้ง 6 จังหวัด ได้ขึ้นปราศรัยต่อที่ชุมนุมที่หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ประมาณ 1,000 คน

สำหรับนายประจักษ์ และนายมานิต เป็น 2 ผู้ว่าราชการจังหวัด ที่นำผู้นำท้องถิ่นในจังหวัดมาพบนายเนวิน ชิดชอบ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อต้นปี 2548 จนปรากฏเป็นข่าวอื้อฉาว เนื่องจากมีผู้สื่อข่าวท้องถิ่น นำเทปบันทึกเสียงขณะนายเนวินยื่นข้อเสนอให้ผลตอบแทนเป็นจำนวนเงิน ต่อผู้นำท้องถิ่น ที่ช่วยพรรคไทยรักไทย ในจังหวัดพัทลุง และจังหวัดสตูล ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน

พล.ต.ต.ไพฑูรย์ พัฒนโสภณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ในช่วงที่ยังมีการชุมนุมขับไล่พ.ต.ท.ทักษิณ ที่หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ ทางตำรวจจะดูแลสำนักงานบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (เอไอเอส) สาขาหาดใหญ่ เป็นพิเศษ เพราะถึงจะไม่เกี่ยวกับการชุมนุมโดยตรง แต่ตำรวจก็ต้องระวังทุกจุดที่อาจจะเกิดความรุนแรง ส่วนสถานที่ราชการ เช่น สถานีรถไฟ หรือหน่วยงานราชการต่างๆ มีตำรวจดูแลตลอดเวลาอยู่แล้ว

พล.ต.ต.ไพฑูรย์ กล่าวว่า ตำรวจให้ความสำคัญกับการดูประชาชนเป็นหลัก หากมีการชุมนุมที่ใด ตำรวจจะต้องอำนวยความสะดวกให้ผู้ชุมนุมที่ชุมนุมอย่างสงบ ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ สำหรับการชุมนุมครั้งนี้ ตนไม่เชื่อว่าคนจังหวัดสงขลาจะก่อเหตุรุนแรง แต่ตำรวจก็จะระมัดระวังเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะจากมือที่สาม เนื่องจากใกล้จะครบรอบ 1 ปี การลอบวางระเบิดที่อำเภอหาดใหญ่ และท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2548