Skip to main content
sharethis


ประชาไท - 14 มี.ค.49      สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังคงเป็นไปโดยปกติ โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมประชุมผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์จากจังหวัดอุบลราชธานี

 


ที่ประชุมครม.มีคำสั่งแต่งตั้งรัฐมนตรีรักษาการแทนนายกรัฐมนตรี โดยให้พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ขึ้นจากรองนายกฯ คนที่ 3 มาเป็นรองนายกฯ คนที่ 1 แทนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ โดยพ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า การเลื่อนพล.ต.อ.ชิดชัยเป็นรองนายกฯ คนที่ 1 นั้นเนื่องจากดูแลด้านความมั่นคงจะได้ดูแลได้อย่างเต็มที่ในขณะที่ตนเองอยู่ต่างจังหวัด ขณะที่ พล.ต.อ.ชิดชัย เปิดเผยว่า คำสั่งแต่งตั้งดังกล่าว ไม่มีนัยยะอะไร คงเป็นเพราะไม่ได้ลงรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.และไม่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคไทยรักไทย ทำให้มีเวลาปฏิบัติหน้าที่มากกว่ารัฐมนตรีคนอื่น เพราะไม่ต้องลงพื้นที่ไปช่วยพรรคหาเสียง


         


เมื่อมติ ครม.ดังกล่าวออกมา แกนนำพันธมิตรที่ขึ้นปราศรัยบริเวณหน้าทำเนียบได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าการปรับเปลี่ยนรองนายกฯ ดังกล่าวอาจเป็นการเตรียมพร้อมให้มีการใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือไม่เช่นนั้นก็เป็นการเตรียมการถอยของพ.ต.ท.ทักษิณ


 


ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ยืนยันหลังเสร็จสิ้นการประชุม ครม.ว่า  "แน่นอน พร้อมประกาศภาวะฉุกเฉิน ก็อยู่ที่ผมนี่แหละ พร้อมเซ็น ถ้ามีความจำเป็น ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ทำ ซึ่งขึ้นอยู่กับฝ่ายความมั่นคงหากเห็นว่ามีความจำเป็น เขาต้องการกฎหมายมาช่วยดูแลความเรียบร้อยผมก็ต้องเซ็น ถ้าเขาไม่ต้องการสามารถดูแลกันได้โดยไม่มีอะไรผมก็ไม่ทำ เขาให้ผมมาไว้เฉยเป็นก็อบบี้ เตรียมไว้ไม่เสียหาย เตรียมไว้เฉยๆ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ใช้ " นายกฯกล่าว


 


เมื่อถาม การเตรียมประกาศภาวะฉุกเฉินแสดงว่าประเมินแล้วจะมีเหตุการณ์รุนแรงใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นเพียงการเตรียมพร้อมไว้ เนื่องจากเคยมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นในอดีต และผู้ที่เคยอยู่ในอดีตที่มีเหตุการณ์หนักๆ ก็เข้ามาอยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วยก็ต้องระวังไว้ก่อน ส่วนกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลที่จะเข้ามาชุมนุมในกทม.ก็ต้องขอร้องไม่ให้เขาชุมนุมอยู่ใกล้กันเพื่อป้องกันการปะทะ


 


 นอกจากนี้รักษาการนายกฯ ยังประเมินสถานการณ์การชุมนุมว่าคงไม่มีอะไร  แต่เดิมทีมีรายงานว่าจะมีคนพยายามสร้างสถานการณ์หากมีคนมาชุมนุมมากเพียงพอ แต่บังเอิญว่ามีคนชุมนุมไม่มากพอ นอกจากนี้ฝ่ายรัฐยังใช้เครื่องมือ เทคโนโลยีติดตามเฝ้าดูและถ่ายภาพไว้ทั้งหมด เพื่อที่จะได้มีหลักฐานหากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น


 


ส่วนความคืบหน้าในการเปิดเวทีพูดคุย ระหว่างกลุ่มต่างๆ นายกฯ กล่าวว่าขณะนี้หลายฝ่ายที่มีความปรารถนาดีต่อบ้านเมืองเชิญแต่ละฝ่ายมาคุยกันทางฝ่ายรัฐบาล ก็ให้ตัวแทนไปพูดคุยกันก็รู้สึกว่ามีท่าทีที่ดี ซึ่งในส่วนรัฐบาล ถ้าฝ่ายไหนมีความปรารถนาดีต่อบ้านเมืองอยากพูดคุย เราก็ส่งตัวแทนไปคุย


                             


ขณะเดียวกันสำนักข่าว AFP ได้รายงานข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขู่จะประกาศภาวะฉุกเฉิน หากการชุมนุมต่อต้านตัวเขานำไปสู่เหตุการณ์รุนแรง ทั้งนี้ การประกาศภาวะฉุกเฉิน จะทำให้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 30 วัน โดยไม่ต้องมีการตั้งข้อกล่าวหา,ตรวจค้นและจับกุมโดยไม่ต้องขอหมายจากศาล รวมทั้งสามารถดักฟังโทรศัพท์ นอกจากนี้ การประกาศภาวะฉุกเฉิน ยังคุ้มครองการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้ได้รับการยกเว้นการถูกดำเนินคดีทางอาญาด้วย ทั้งนี้ AFP.ระบุว่า แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงรายหนึ่งเปิดเผยว่า หากมีการประกาศภาวะฉุกเฉินจริง สิ่งแรกที่จะทำคือการประกาศเคอร์ฟิว ในเขตกรุงเทพมหานคร

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net