ที่มา : http://www.greenpeace.org/china/en/press/releases/20060314-heinz-rice-cereal

ประชาไท - 16 มี.ค.2549              กรีนพีซ ประเทศจีนออกมาเปิดโปงเรื่องจีเอ็มโออีกครั้ง โดยระบุว่าพบอาหารทารกจำพวกข้ามผสมธัญพืชยี่ห้อ ไฮนส์ ทำจากข้าวจีเอ็มโอ หรือข้าวตัดแต่งพันธุกรรมซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะจีนยังไม่อนุมัติให้มีการปลูกพืชจีเอ็มโอ กรีนพีซจึงเรียกร้องให้เก็บผลิตภัณฑ์นี้ออกจากตลาดอย่างเร่งด่วน รวมทั้งขอให้รัฐบาลจีนคุมเข้มเรื่องนี้

ทั้งนี้ กรีนพีซได้สุ่มเก็บตัวอย่างอาหาร 19 ตัวอย่างจากซูเปอร์มาร์เก็ตในกรุงปักกิ่ง และส่งไปตรวจที่ห้องปฎิบัติการอิสระยีนสแกนของเยอรมนี ผลออกมาว่า อาหารทารกไฮนส์มีส่วนประกอบของข้าวจีเอ็มโอบีที โดยข้าวจีเอ็มโอชนิดนี้ถูกผลิตขึ้นให้มีพิษฆ่าแมลงบางชนิด เช่น หนอนกอ ได้ แต่รัฐบาลจีนยังไม่ได้อนุมัติให้ปลูกเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

สตีเฟน หม่า ผู้ประสานงานรณรงค์ กรีนพีซ จีน กล่าวว่า กรีนพีซตกใจมากเมื่อทราบผลการตรวจสอบครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่เราพบข้าวจีเอ็มโอที่ผิดกฎหมายในอาหารทารก ในความเป็นจริงแล้ว อาหารทารกควรจะได้รับการสอดส่องดูแลอย่างเข้มงวด เพราะทารกเป็นกลุ่มที่ไวต่อสิ่งต่างๆ มาก ราชสมาคมอังกฤษกำหนดให้ทารกเป็นกลุ่มที่ตกอยู่ในความเสี่ยงสูงในเรื่องปัญหาความปลอดภัยด้านอาหาร ในรายงานปี 2545 ว่าด้วยอาหารจีเอ็มโอ ราชสมาคมอังกฤษ แนะนำว่า ส่วนประกอบของจีเอ็มโอในอาหารสำหรับทารก ควรจะได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดที่สุด นอกจากนี้ จากการค้นพบของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ชาวเม็กซิกัน โปรตีนบีที (Cry1Ac) ซึ่งอยู่ในข้าวจีเอ็มโออาจทำให้หนูทดลองเกิดการตอบสนองเหมือนเป็นภูมิแพ้  

สตีฟานกล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา กรีนพีซแจ้งให้บริษัทไฮนส์ในประเทศจีนทราบผลการตรวจสอบครั้งนี้ และเรียกร้องให้บริษัทไฮนส์เรียกเก็บสินค้าทันที รวมทั้งเปลี่ยนบริษัทจัดหาวัตถุดิบ นายโดนัลด์ แกดส์เดน ประธานฝ่ายบริหารของบริษัทไฮนส์ ประเทศจีน ตอบกลับกรีนพีซในวันที่ 8 มี.ค.ว่า บริษัทไฮนส์จะถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องจัดการ และกำลังทำการตรวจสอบอยู่  

อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่กรีนพีซตรวจพบการปนเปื้อนของข้าวจีเอ็มโอในอาหาร เมื่อปี 2548 กรีนพีซพบว่า มีการปลูกข้าวจีเอ็มโอที่ไม่ได้รับอนุมัติในแปลงขนาดใหญ่ทางตอนกลางของมณฑลหูเป่ย และมีการตรวจพบการปนเปื้อนของข้าวจีเอ็มโอในตลาดค้าส่งในมณฑลกวางโจว และที่ห้างคาร์ฟูร์ ในเมืองหวูฮัน รัฐบาลท้องถิ่นในมณฑลหูเป่ยออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมกราคม 2549 ห้ามจำหน่ายเมล็ดพืชจีเอ็มโอที่ไม่ได้รับการอนุมัติ แต่จากการตรวจสอบของกรีนพีซ พบว่า แม้ว่า คำประกาศของทางการจะยับยั้งพ่อค้าขายเมล็ดพันธุ์ส่วนใหญ่ แต่ยังคงมีเมล็ดข้าวจีเอ็มโอที่ผิดกฎหมายนี้เล็ดลอดไปยังเกษตรกรที่อยู่รอบนอก

ในส่วนของผู้บริโภคชาวจีนนั้น กรีนพีซอ้างถึงผลการสำรวจล่าสุดของ IPSOS ในกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และหวูฮัน พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 79 เลือกรับประทานข้าวปกติมากกว่าข้าวจีเอ็มโอ ร้อยละ 78 เชื่อว่า ข้าวจีเอ็มโอที่ไม่ได้รับอนุมัติหมายถึงไม่ปลอดภัย และร้อยละ 62 ของผู้บริโภคชาวจีนคัดค้านการใช้ส่วนประกอบที่เป็นจีเอ็มโอในอาหารทารก

สำหรับในประเทศไทย จากการตรวจสอบอาหารทารกในท้องตลาด ไม่พบว่ามีผลิตภัณฑ์ข้าวผสมธัญพืชยี่ห้อไฮนส์อยู่ในท้องตลาด  แต่กระนั้นกรีนพีซก็เตือนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังการปนเปื้อนของข้าวจีเอ็มโอ

"การปนเปื้อนของข้าวจีเอ็มโอในประเทศไทยไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยทางชีวภาพ หรือป้องกันไม่ให้เกิดการปนเปื้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการนำเข้าอาหารที่เป็นจีเอ็มโอ  นอกจากนี้ กฎการติดฉลากอาหารจีเอ็มโอที่กำหนดขึ้นโดยกระทรวงสาธารณสุขก็ไม่ครอบคลุมถึงข้าวจีเอ็มโอ จึงไม่สามารถให้สิทธิที่แท้จริงแก่ผู้บริโภคที่ไม่ต้องการรับประทานอาหารจีเอ็มโอ หรือไม่ต้องการให้ลูกของตนเองต้องตกเป็นหนูทดลองจีเอ็มโอได้"  วรุณวาร สว่างโสภากุล ผู้ประสานงานรณรงค์เรื่องจีเอ็มโอ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำนักงานประเทศไทยกล่าว

นอกจากนี้กรีนพีซเปิดตัวคาราวานข้าวยิ้มภาคเหนือ เปิดตัวคาราวานข้าวยิ้มไปภาคเหนือ ภายใต้สโลแกน "หมู่เฮาม่วนใจ๋ ข้าวไทยบ่มีจีเอ็มโอ" ในบรรยากาศจำลองของคาราวานข้าว ที่มีกิจกรรมบันเทิงหลากหลาย อาทิละครเร่เรื่องน้ำฝนเลือกคู่ โดยกลุ่มเยาวชนมะเขือแจ้ จากพะเยา เกมให้ความรู้เกี่ยวกับแมลงดีมีประโยชน์ต่อนาข้าว นิทรรศการข้าวจีเอ็มโอ นิทรรศการภาพถ่ายวิถีชีวิตชาวนาที่ยั่งยืน และข้าวไทย

 "การป้องกันไม่ให้ข้าวจีเอ็มโอเข้ามาในประเทศไทยหรือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง ประชาชนจำต้องมีความรู้เพียงพอที่จะไม่ถูกหลอกให้ปลูกหรือบริโภคข้าวจีเอ็มโอโดยไม่รู้ตัว อย่างเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับมะละกอ เพราะหากข้าวจีเอ็มโอหลุดรอดเข้ามาในสิ่งแวดล้อมและในอาหารแล้ว จะแพร่กระจายไปอย่างควบคุมไม่ได้ ดังที่กำลังเกิดอยู่ในประเทศจีน" วรุณวารกล่าว

ทั้งนี้ คาราวานข้าวยิ้มภาคเหนือจะเริ่มออกตระเวนให้ความรู้ควบคู่กับความบันเทิงในพื้นที่ภาคเหนือ 3 จังหวัด คือ พะเยา เชียงราย และเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 20 - 28 มี.ค.49 โดยพื้นที่ที่ไปส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ที่มีกลุ่มเกษตรกรรวมตัวกันริเริ่มปลูกข้าวอินทรีย์หรือข้าวปลอดสารพิษอยู่บ้างแล้ว คาราวานจะให้ความรู้เรื่องข้าวจีเอ็มโอ พร้อมกับสนับสนุนการทำเกษตรแบบยั่งยืน และเกษตรอินทรีย์