ประชาไท—18 มี.ค.2549 นิตยสาร อีโคโนมิสต์ ตีพิมพ์บทความเสนอให้นายกรัฐมนตรีลาออกหากไม่สามารถแก้ปัญหาของประเทศได้ โดยระบุว่านายโทนี แบลร์ เน้นนโยบายต่างประเทศมากเกินไป โดยไม่สามารถดำเนินนโยบายในประเทศได้อย่างที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 9 ปีที่ผ่านมา

เว็บไซต์ศูนย์ข่าวแปซิฟิกรายงานว่า นิตยสาร อีโคโนมิสต์ ซึ่งเป็นนิตยสารเศรษฐกิจและการเงินของอังกฤษ ได้ลงบทความในฉบับประจำเดือนนี้ว่า นายกรัฐมนตรีโทนี่ แบลร์ ควรประกาศลาออกหากไม่สามารถแก้ไขปัญหาภายในประเทศได้ ได้แก่ นโยบายทางการเมือง,เศรษฐกิจ ,การศึกษา และ สาธารณูปโภคต่างๆ ที่ยังไม่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นตามที่ได้เคยให้คำมั่นไว้ ในการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 9 ปีก่อน เนื่องจาก นายกรัฐมนตรี แบลร์ เน้นนโยบายด้านต่างประเทศมากเกินไป โดยเฉพาะการทำสงครามต่อต้านการก่อการร้ายในอิรักและการปฏิรูปสหภาพยุโรป

ตอนท้ายของบทความดังกล่าว ได้แนะนำให้ผู้อ่าน จับตาดู การแถลงนโยบายและผลงานทางเศรษฐกิจรัฐบาลอังกฤษ ในสัปดาห์หน้า โดยเฉพาะ นายกอร์ดอน บราวน์ รัฐมนตรีว่าการคลัง เนื่องจากจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศและความนิยมของผู้นำประเทศ แต่ล่าสุด นายกรัฐมนตรี แบลร์ ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อบทความดังกล่าว ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีแบลร์ วัย 53 ปี เป็นนักการเมืองที่สังกัดพรรคแรงงาน ที่ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2537 ด้วยวัย 42 ปี ซึ่งนับเป็นนายกรัฐมนตรี ของอังกฤษที่มีอายุน้อยที่สุด แต่จากการดำเนินนโยบายต่างประเทศตามสหรัฐอเมริกาในการทำสงครามกับอิรักซึ่งทำให้อังกฤษตกเป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่มก่อการร้ายนั้น จึงถูกสื่อในประเทศวิจารณ์อยู่บ่อยครั้ง และยังส่งผลให้คะแนนความนิยมลดลงอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

ล่าสุดมีการคาดว่าหลังจากลงจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี อาจเข้าไปเป็นผู้บริหารระดับสูงของสหภาพยุโรป

ที่มา: เว็บไซต์ศูนย์ข่าวแปซิฟิก