0 0 0
"หยุดระบอบทักษิณ การรัฐประหารและการใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา"
"นายกฯต้องมาจากการเลือกตั้ง การปฏิรูปการเมืองต้องทำโดยประชาชน"
ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งและการต่อสู้ทางการเมืองที่ดำเนินไปอย่างตึงเครียดในปัจจุบัน ในด้านหนึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองที่น่าสนใจเนื่องจากเกิดการตื่นตัวและเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนอย่างกว้างขวาง ซึ่งนับเป็นสิ่งที่น่ายินดียิ่ง แต่อีกด้านหนึ่งจะเห็นได้ว่ามีแนวโน้มที่น่าวิตกกังวลไม่น้อยสำหรับผู้ที่ห่วงใยต่อหลักการประชาธิปไตย กล่าวคือ การเคลื่อนไหวของหลายฝ่ายที่ต้องขับไล่ พ.ต.ท.
เราในนามกลุ่มประชาธิปไตยประชาชน ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของนักศึกษา เยาวชน ผู้ใช้แรงงาน อดีตนักกิจกรรม และนักพัฒนาเอกชน เห็นว่า
1.ความขัดแย้งทางการเมืองและการมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเป็นสิ่งปกติธรรมดาอย่างยิ่งในสังคมมนุษย์ ซึ่งสามารถคลี่คลายได้ตามครรลองประชาธิปไตย จึงไม่ควรที่บุคคลหรือคณะบุคคลใดจะฉวยใช้ความขัดแย้งทางการเมืองดังกล่าวไปเป็นข้ออ้างเพื่อกระทำการอันเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือขัดต่อหลักประชาธิปไตย
2.เราขอเรียกร้องให้ พ.ต.ท.
อย่างไรก็ตาม การลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและการยุติบทบาททางการเมืองของ พ.ต.ท.
3.ภายหลัง พ.ต.ท.
4.แม้เราจะเห็นว่ารัฐบาลทักษิณจะหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ และประชาชนมีสิทธิ์ที่จะเคลื่อนไหวขับไล่นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งก็ตาม แต่การเคลื่อนไหวเพื่อขับไล่นายกรัฐมนตรีรวมทั้งเพื่อการปฏิรูปการเมืองจะต้องไม่เป็นการทำลายหลักการพื้นฐานที่สำคัญของระบอบประชาธิปไตยเช่นกัน
เราเห็นว่าภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน นายกรัฐมนตรีจะต้องมาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนเท่านั้น บุคคลหรือคณะบุคคลใดจะใช้อำนาจเพื่อแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาลตามอำเภอใจไม่ได้
เราขอยืนยันว่า การพิจารณากฎหมายจะต้องพิจารณาทั้งฉบับ การบังคับใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 7 จะกระทำได้ก็ต่อเมื่อไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญมาตราอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรา 201 วรรค 2 ซึ่งระบุไว้ชัดเจนว่านายกรัฐมนตรีต้องมาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งในปัจจุบันไม่มีบุคคลที่มีคุณสมบัติตามมาตราดังกล่าว ฉะนั้นการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีในขณะนี้จึงเท่ากับเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 201 อย่างชัดเจน และนั่นหมายถึงการล้มล้างรัฐธรรมนูญ
เราขอให้สังคมไทยพึงระลึกว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เป็นส่วนหนึ่งของเจตนารมณ์ของประชาชนที่ต่อสู้ด้วยชีวิตและเลือดเนื้อในเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 เพื่อเรียกร้องให้มี "นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง" รวมถึงเกิดจากการต่อสู้ผลักดันของประชาชนอย่างกว้างขวางเพื่อปฏิรูปการเมืองภายหลังเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 ดังนั้นบุคคลหรือคณะบุคคลใดจะใช้อำนาจเพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญตามอำเภอใจไม่ได้
5.ถึงแม้เราจะเห็นว่า การเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายน นี้ เป็นการเลือกตั้งที่มีปัญหาไม่น้อย จนหลายฝ่ายเรียกว่าเป็น "กระบวนการฟอกตัว" และประชาธิปไตยไม่ใช่แค่การเลือกตั้ง ดังที่ฝ่ายที่คัดค้านการเลือกตั้งได้ออกมารณรงค์ ก็ตาม แต่การเลือกตั้งเป็นการยืนยันซึ่งสิทธิของพลเมือง เราจะไม่สามารถแสวงหาความเป็นประชาธิปไตยได้เลยหากผู้ที่เข้ามาสู่อำนาจทางการเมืองไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ดังนั้น จึงไม่ควรแปรความไม่พอใจต่อนายกฯ เป็นไปการปฏิปักษ์กับการเลือกตั้งอย่างสิ้นเชิง เราขอเรียกร้องให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแสดงพลังไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งด้วยการไม่เลือกใคร (Vote for No Vote) เพื่อยืนยันการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย ปฏิเสธ พ.ต.ท.
6.ภายหลังการเลือกตั้ง ขอให้คณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎร เร่งปฏิรูปการเมืองในทันทีโดยให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงทุกขั้นตอน ไม่ใช่การปฏิรูปที่จำกัดอยู่ในแวดวงชนชั้นนำ, นักการเมือง หรือนักกฎหมายมหาชนเพียงไม่กี่คน แต่หมายถึงการบวนการระดมความคิดเห็น และมีส่วนร่วมของประชาชนทุกกลุ่มอย่างกว้างขวาง โดยที่การปฏิรูปครั้งใหม่ไม่ควรจำกัดอยู่แค่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากควรขยายรวมไปถึงการปฏิรูปกฎหมายและนโยบายทางเศรษฐกิจ-สังคมด้วย
7.เราขอเชิญชวนประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ร่วมใช้สัญลักษณ์ "สีเขียว" เพื่อสนับสนุนการรณรงค์ "หยุดระบอบทักษิณ การรัฐประหารและการใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา, นายกฯต้องมาจากการเลือกตั้ง การปฏิรูปการเมืองโดยประชาชน" และร่วมจุดเทียนเพื่อให้แสงสว่างแก่สังคมประชาธิปไตย ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ตั้งแต่เวลา 19.00 น. - 22.00น. ทุกวัน ตั้งแต่วันอังคาร ที่ 21 มีนาคม เป็นต้นไป
และสามารถลงชื่อเพื่อสนับสนุนการรณรงค์ได้ที่ http://thaidemocratic.awardspace.com
อธิปไตยต้องเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
กลุ่มประชาธิปไตยประชาชน
22 มีนาคม 2549
อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)