Skip to main content
sharethis

ประชาไท  - 25 มี.ค.2549              คณะบุคคลและราชนิกูลที่เข้าชื่อถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระราชทานนายกรัฐมนตรี นำโดย นายปราโมทย์ นาครทรรพ อดีตนักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ นายบรรเจิด สังคะเนติ อาจารย์คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายปรีดี หิรัญพฤกษ์ รักษาการ ส.ว.ปทุมธานี และนายวีระวัฒน์ ชลายล อดีตผู้ว่าการ กฟผ. ได้ขึ้นเวทีปราศรัย


 


โดยนายบรรเจิด ยืนยันว่า การใช้มาตรา 7 ไม่ได้เป็นการฉีกรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการพิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย และต่อมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธมิตรได้ขึ้นกล่าวขอพระราชทาน นายกรัฐมนตรี เพื่อปฏิรูปการเมือง จากนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมนับแสนได้ร่วมกันร้องเพลงสดุดีมหาราชา


         


ทั้งนี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีมติชัดเจนว่าจะไม่เคลื่อนขบวนไปยังบ้านจันทร์ส่องหล้าของนายกรัฐมนตรี และเวทีจะปิดเวลา 02.00 น. โดยนัดอีกครั้งเวลา 10.00 น.ที่สนามกีฬาแห่งชาติเพื่อเดินขบวนไปตามถนนสุขุมวิท ผ่านสยามพารากอล และสลายตัวที่ห้างดิเอ็มโพเรียม


 


ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา โฆษกพันธมิตรฯ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับกรณีนักวิชาการท้วงติงว่าการมาตรา 7 เป็นการถอยหลังเข้าคลองว่า มาตรา 7 คือทางออกของประเทศขณะนี้ ไม่ใช่การฉีกรัฐธรรมนูญ และไม่ใช่ดังที่นักวิชาการตีความว่าเราต้องการไล่ทักษิณออกเท่านั้นจึงเสนอมาตรา 7 แต่ต้องการการปฏิรูปการเมือง ต้องการให้คนกลางเข้ามาสะสางสิ่งที่คาใจในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการคอรัปชั่นในรัฐบาลชุดนี้ หรือการออกนโยบายที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนต่างๆ และที่สำคัญที่สุดแกนนำพันธมิตรเมื่ออยู่ในสนามรบไม่มีสิ่งใดสำคัญที่สุดเท่ากับการรักษาชีวิตเลือดเนื้อของผู้ชุมนุม ซึ่งการใช้มาตรา 7 จะเป็นทางออกที่จะหยุดยั้งความรุนแรงได้


 


เมื่อถามว่า มีการเสนอขอพระราชทานนายกฯ แล้ว แต่ยังมีการชุมนุมอยู่เป็นการกดดันสถาบันหรือไม่ นายสุริยะใส กล่าวว่า ขณะนี้สังคมส่วนใหญ่เห็นด้วยกับมาตรา 7 และพร้อมที่จะมีนายกฯพระราชทาน แต่พล.ต.ท.ทักษิณยังไม่ยอมลาออก ซึ่งเป็นกลับลากสังคมไปสู่จุดอับทำให้มีนายกฯพระราชทานไม่ได้ ดังนั้น คนที่กดดันสถาบันคือฝ่ายรัฐบาล ไม่ใช่พันธมิตร เพราะเราเพียงแค่เรียกร้องไม่ได้ถวายฎีกา


         


ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่ พล.อ.เปรม ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเป็นการส่งสัญญาณว่าไม่เห็นด้วยการใช้มาตรา 7 หรือไม่ นายสุริยะใส กล่าวว่า พล.อ.เปรมเป็นผู้ใหญ่ การออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งเป็นการแสดงตัวอย่างของพลเมืองที่ดี และเป็นแบบอย่างของประชาชนที่ไม่รู้ว่าจะมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างไร การเลือกตั้งมีหลายรูปแบบ มีทั้งการเลือกให้ส่งทั้งผลได้ผลเสียต่อตัวนายกฯ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าใน 3-5 วันกระแสสังคมจะนิ่งและชัดเจนขึ้นว่าจะนำไปสู่การใช้มาตรา 7 ได้ โดยการพระราชทานนายกฯ สามารถทำได้แม้ว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย.ไปแล้ว เพราะว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเกิดปัญหาอย่างมาก และจะทำให้การเมืองถึงทางตัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net