ความไม่ชอบธรรมกรณีการรังวัด ปักหมุดเขตพื้นที่เหมืองแร่ และโรงแต่งแร่โปแตชแหล่งอุดรใต้

ที่ กสอ.023/2549                                                              กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี

                                                                                      ตู้ไปรษณีย์ 14 อำเภอเมือง

  จังหวัดอุดรธานี 41000

 

29 มีนาคม 2549

 

เรื่อง ความไม่ชอบธรรมกรณีการรังวัด ปักหมุดเขตพื้นที่เหมืองแร่ และโรงแต่งแร่โปแตชแหล่งอุดรใต้

 

เรียน ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี

 

สิ่งที่ส่งมาด้วย รายชื่อราษฎรขอมอบตัวในข้อกล่าวหาฐานบุกรุกที่ดินของ บริษัท เอเชีย แปซิฟิก โปแตช

คอร์ปอเรชั่น จำกัด (เอพีพีซี) จำนวน คน

 

            ตามกระบวนการดำเนินการขออนุญาตประทานบัตรทำเหมืองใต้ดิน ซึ่งหลังจากที่บริษัท เอพีพีซี ได้ยื่นคำขอให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีในฐานะเจ้าพนักงานอุตสาหกรรมแร่ประจำท้องที่เพื่อรับลงทะเบียนไปแล้ว เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2547 นั้น ในเวลาต่อมาช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2547 ได้มีการทำการรังวัด ปักหมุด เขตพื้นที่เหมืองทั้งหมดกว่า 2 หมื่นไร่ โดยบริษัทเอพีพีซี อ้างว่าเป็นการดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อขึ้นรูปแผนที่ แต่ราษฎรในพื้นที่กลับตั้งข้อสังเกตและพบว่าการรังวัด ปักหมุดเป็นไปด้วยการซ่อนเร้น หมกเม็ด ปกปิด โดยที่ราษฎรในพื้นที่หรือแม้แต่ชาวบ้านซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินในแดนกรรมสิทธิ์ ซึ่งเป็นที่ไร่ ที่นาของตนเองไม่ทราบเรื่อง การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ราชการและบริษัทเอพีพีซี แต่อย่างใด ซ้ำร้ายการ "ลักไก่"รังวัด ปักหมุด ในครั้งนั้นเป็นการดำเนินการโดยบริษัทเอกชน คือ "บริษัท ซีบีการสำรวจ" ทั้งนี้ ตามกระบวนการที่ถูกต้องนั้นผู้ที่มานำการรังวัด ปักหมุด จะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ตำแหน่งนายช่างรังวัดจากกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) จึงนำมาซึ่งการทวงถามถึงความโปร่งใส ความชอบธรรม ของกระบวนการ ซึ่งกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมล้อมอุดรธานีถามกับทางจังหวัด และมีผลสรุปให้การรังวัด ปักหมุดดังกล่าวเป็นโมฆะไปในที่สุด พร้อมทั้งให้มีข้อตกลงว่าก่อนจะทำการรังวัดปักหมุดต้องทำประชุมการประชาคมให้ราษฎรในพื้นที่ทราบข้อมูลโดยทั่วกันเสียก่อน

            แต่แล้วความเป็นธรรมของบ้านเมืองกลับถูกท้าทาย เมื่อบริษัทเอพีพีซี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รังวัด(คราวนี้มาอย่างถูกต้อง) จาก กพร. ลงพื้นที่ดำเนินการรังวัด ปักหมุดอีกครั้งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2548 แต่ไม่มีการประชาคมทำความเข้าใจกับราษฎรในพื้นที่ดังที่ได้ตกลงกันไว้ แต่กลับใช้วิธีการเอาเงินมาหลอกหล่อให้เจ้าของที่ดินเพื่อยินยอม มอบอำนาจให้ดำเนินการรังวัด ปักหมุด พร้อมกันนี้ได้ว่าจ้างกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 100 คน มาเพื่อคุ้มกันการรังวัด ปักหมุด เป็นผลให้เกิดการปะทะ โต้เถียงกัน กับกลุ่มชาวบ้านที่มาสอบถามข้อมูล และทวงข้อตกลงเรื่องการรังวัดปักหมุดที่ทำไว้

หลังจากนั้น บริษัท เอพีพีซี จึงได้แจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับ นางละเอียด อ่อนสะอาด แกนนำกลุ่มอนุรักษ์ฯ ในข้อกล่าวหาฐานบุกรุกที่ดินของบริษัทฯ และปัจจุบันคดีอยู่ในชั้นของเจ้าพนักงานอัยการ

            เหตุการณ์ล่าสุด คือการรังวัด ปักหมุด เขตโรงแต่งแร่บนเนื้อที่ประมาณ 1,500 ไร่ (ในบริเวณพื้นที่ระหว่างหมู่บ้านหนองตะไก้กับหมู่บ้านหนองนาเจริญ ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.อุดรธานี) ในต้นเดือนมีนาคม 2549 ที่ผ่านมา กลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้เดินทางเข้ามายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดอีกครั้งหนึ่ง โดยผู้ว่าได้มีหนังสือแจ้งให้ชี้แจงทำความเข้าใจกับราษฎรในพื้นที่ แต่บริษัทฯ และเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมก็ยังเมินเฉย อีกทั้งยังดื้อดึงทำการรังวัด ปักหมุด เขตโรงแต่งแร่ต่อไป โดยครั้งนี้นอกจากการว่าจ้างกลุ่มชายฉกรรจ์แล้ว ยังพบว่ามี อปพร.ตำบลหนองไผ่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐมาคุ้มกันการรังวัด ปักหมุดที่ไม่มีความชอบธรรมให้กับบริษัทฯ ด้วย

            ขณะเดียวกัน บริษัท เอพีพีซี ยังได้แจ้งความเพื่อดำเนินคดีในข้อกล่าวหาฐานบุกรุกที่ดินของบริษัทฯ กับแกนนำกลุ่มอนุรักษ์ฯ คือ 1.นางละเอียด อ่อนสะอาด 2.นายบัณฑิต อ่อนสะอาด 3.นายบุเลิศ เหล็กเขียว 4.นางสาวเนาวรัตน์ ดาวเรือง และ5.นายปัญญา คำลาภ

            การดำเนินมาตรการทางด้านกฎหมายดังกล่าวกลุ่มอนุรักษ์ฯ เห็นว่าเป็นการกระทำที่คุกคามข่มขู่ราษฎร ที่ได้ร่วมกันลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิในการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากร รวมทั้งการอนุรักษ์หวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ ของชุมชน ท้องถิ่น อันพึงมีตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 มาตรา 46,มาตรา 56 รับรองดังนั้นกลุ่มอนุรักษ์ฯ จึงขอเรียกร้อง ดังต่อไปนี้

            1. กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ทั้งหมดได้ร่วมกันลงชื่อเพื่อขอมอบตัวให้มีการจับกุมดำเนินคดีกับสมาชิกทุกคน เนื่องจากว่าทั้งหมดคือผู้ที่ร่วมกันเข้าไปสอบถามข้อมูลในวันที่มีการดำเนินการรังวัด ปักหมุด ของบริษัทฯ กับเจ้าหน้าที่รังวัด โดยได้เข้าไปสอบถามในที่ดินของบริษัทฯ ซึ่งไม่เฉพาะแต่แกนนำเพียง 5 คน เท่านั้น หากจับแต่แกนนำ 5 คนเท่านั้นกลุ่มอนุรักษ์ฯ ถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ และเป็นการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ถ้าหากไม่ดำเนินการจับกุมดำเนินคดีกับสมาชิกทุกคน(ดังรายนามที่แนบในสิ่งที่ส่งมาด้วย)

            2. ขอให้ยกเลิกกระบวนการรังวัด ปักหมุด เขตพื้นที่เหมืองแร่ และโรงแต่งแร่โปแตชแหล่งอุดรใต้ ที่ผ่านมา เพราะเป็นกระบวนการที่ไม่ชอบธรรม ประชาชนไม่มีส่วนร่วมไปก่อนจนกว่าจะมีการดำดำเนินการอย่างโปร่งใส และเป็นธรรม โดยการจัดประชาคมให้ราษฎรในพื้นที่ได้รับทราบมีความเข้าใจในข้อมูล ข้อเท็จจริง ตามขั้นตอนการปรึกษาหารือเบื้องต้นตามที่ พรบ.แร่ พ.ศ. 2545 กำหนดเสียก่อน

            3. ขอให้มีการตรวจสอบ และควบคุมพฤติกรรมกำนันในพื้นที่เขตเหมืองแร่ 4 ตำบล (ต.หนองไผ่ , ต.โนนสูง อำเภอเมือง และต.ห้วยสามพาด,ต.นาม่วง กิ่งอ.ประจักษ์ศิลปาคม) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของท่าน แต่มีพฤติกรรม และจรรยาบรรณไม่เหมาะสม รับจ้างบริษัทเอพีพีซี ออกมายุยง ปลุกปั่นราษฎรอันนำความแตกแยกมาสู่ชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายชำนาญ ภูวิลัย กำนันตำบลโนนสูงซึ่งเป็นแกนนำคนสำคัญของกลุ่มสนับสนุนเหมืองแร่โปแตช

ทั้งนี้ ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ในหมวด 2 มาตรา 7,มาตรา 8 นั้น ได้มีบทบัญญัติในหลักการบริหารราชการเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขของประชาชน โดยถือว่าประชาชนเป็นศูนย์กลางที่จะได้รับการบริการจากรัฐด้วยความเป็นธรรม โปร่งใส มีส่วนร่วม มีกลไกการตรวจสอบ อันจะนำมาซึ่งความผาสุกและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนและสังคมส่วนรวม

ฉะนั้น กลุ่มอนุรักษ์ฯ จึงมีความคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องจะปฏิบัติหร้าที่โดยยึด หลักการ "ธรรมาภิบาล" ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขต่อราษฎร ในกรณีโครงการเหมืองแร่โปแตชจังหวัดอุดรธานี

 

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

 

ขอแสดงความนับถือ

 

 

(นายทองหล่อ ทิพย์สุวรรณ)

รองประธานกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

รายชื่อราษฎรขอมอบตัวในข้อกล่าวหาฐานบุกรุกที่ดินของ

บริษัท เอเชีย แปซิฟิก โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (เอพีพีซี)

 

































ลำดับ


ชื่อ-สกุล


ที่อยู่


ลายมือชื่อ


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 

 

หลักการปราศรัยบนเวที

 

1. แนะนำตัวเอง คือ เป็นใคร มาจากไหน พูดทักทายพี่น้อง

2. วัตถุประสงค์ที่มาในวันนี้ คือ มาทำไม มีสาเหตุ หรือความเดือดร้อนอะไร

3. เนื้อหาที่ปราศรัยจะอยู่ในเอกสาร หนังสือยื่น แถลงการณ์

4. สอดแทรกข้อมูลโครงการฯ สถานการณ์ในพื้นที่

5. เวทีเสร็จต้องมีตัวแทนปราศรัยสรุปผลที่ได้รับให้กับพี่น้องทราบโดยทั่วกัน

 

ข้อควรระวัง/ถือปฏิบัติ

 

1. ไม่ใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย

2. การพาดพิงถึงบุคคลที่สาม หรือหน่วยงานอื่น

3. เมื่อพูดเสร็จควรคืนไมค์ให้กับผู้ควบคุมเวทีเสียก่อน ไม่ควรยื่นให้คนอื่นเลยทันที

4. ไม่ควรแย่งกันพูด และก่อนขึ้นเวทีควรแจ้งประเด็นที่จะพูดให้ผู้ควบคุมเวทีได้รับทราบด้วย

5. ห้ามใช้เครื่องเสียงออกคำสั่งให้มีการเคลื่อนไหวอย่างหนึ่งอย่างใดโดยพละการ หากว่าไม่มีมติ หรือ

ความเห็นร่วมกันมาก่อน เพราะจะมีผลต่อขบวนเป็นอย่างมาก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

แถลงการณ์

ยกเลิกการรังวัดเขตเหมืองแร่โปแตชที่ฉ้อฉล ทำให้คนอุดรแตกแยก

----------------

 

โครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี บริษัทเอเซียแปซิฟิคโปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด(เอพีพีซี) ยืนของประทานบัตรไปแล้วคือแหล่งอุดรใต้ ต.โนนสูง ต.หนองไผ่ อ.เมือง ต.ห้วยสามพาด ต.นาม่วง กิ่ง อ.ประจักษ์ศิลปาคม มีพื้นที่ทำเหมือง 22,437 ไร่ใน 4 ตำบล คือ ต.ห้วยสามพาด และต.นาม่วง กิ่ง อ.ประจักษ์ศิลปาคม ต.โนนสูง ต.หนองไผ่ ใน อ.เมือง และแหล่งอุดรเหนือพื้นที่กว่า 52,000 ไร่ ในเขต อ.เมือง อ.หนองหาน และกิ่ง อ.ประจักษ์ศิลปาคมรวมพื้นที่ทำเหมืองโปแตชในจังหวัดอุดรธานีประมาณ 74,437 ไร่ ใช้เวลาทำเหมืองกว่า 50ปี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท