ประชาไท—1 เม.ย. 2549 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวานนี้ (31 มีนาคม 2549 ) กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานีกว่า 500 คนยังคงปักหลักอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดอุดรธานีเป็นวันที่ 3 เพื่อคอยให้นายจารึก ปริญญาพล ลงนามในหนังสือขอให้ยกเลิกขบวนการรังวัดปักหมุดเหมืองแร่โปแตช และเอกสารบันทึกข้อตกลงจากการประชุมเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา จนกระทั่งเย็นไม่เห็นหนังสือกลุ่มผู้ชุมนุมตัดสินใจบุกขึ้นศาลากลางนั่งเฝ้าหน้าห้องผู้ว่า จนกระทั่งมีหนังสือออกมาในที่สุด

นางสาวเนาวรัตน์ ดาวเรือง ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ฯ เปิดเผยว่าวานนี้เป็นที่ 3 ที่ชาวบ้านมาปักหลักชุมนุมอยู่หน้าศาลากลางจังหวัด โดยได้รอคอยอยู่สองวันกว่าผู้ว่าฯ จะยอมเจรจาโดยเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีข้อตกลงให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะเจ้าพนักงานอุตสาหกรรมแร่ประจำท้องที่ทำหนังสือจากจังหวัดถึงอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ให้ยกเลิกขบวนการรังวัดปักหมุดเขตคำขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ และพื้นที่โรงแต่งแร่ไปก่อนแล้วเริ่มต้นขบวนการปรึกษาหารือเบื้องต้นโดยการทำประชาคมหมู่บ้านก่อน ส่วนเรื่องขอให้ให้ความเป็นธรรมกับ 5 แกนนำกลุ่มอนุรักษ์ที่บริษัทเอพีพีซีแจ้งความดำเนินคดี ในข้อหาร่วมกันบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์นั้นผู้ว่าฯ รับปากจะเจรจากับบริษัทให้ถอนแจ้งความ และตนในฐานะผู้ถูกกล่าวหาคนหนึ่งไม่ติดใจว่าผลจะเป็นอย่างไรเพราะพร้อมที่จะสู้คดีในชั้นศาล

อย่างไรก็ตาม เรื่องหนังสือขอให้ยกเลิกขบวนการรังวัดปักหมุดที่แล้วเสร็จไปแล้วนั้นเป็นข้อตกลงในที่ประชุม วานนี้ทางจังหวัดได้ร่างหนังสือให้ผู้ว่าฯ ลงนาม แต่ไม่ตรงตามข้อตกลงคือเปลี่ยนจากเรื่องขอให้ยกเลิกผลการรังวัดปักหมุด เป็นขอให้พิจารณาข้อร้องเรียนขอให้ยกเลิกผลการรังวัดปักหมุดโครงการเหมืองแร่โปแตชอุดรธานี โดยเป็นหนังสือขอหารือกับ กพร.เท่านั้นไม่ได้เป็นการขอให้ยกเลิกตามที่ตกลงกันไว้ นับเป็นการเลี่ยงความรับผิดชอบ เพราะในการลงรังวัดนั้นผู้ว่าฯ ได้ลงนามในคำสั่ง แต่เมื่อจะยกเลิกกลับบอกว่าไม่มีอำนาจ

จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. นายกิติคุณ บุตรคุณ ปลัดป้องกันจังหวัด ได้นำหนังสือที่นายจารึก ลงนามแล้วมาแก้ไขตามความเห็นของกลุ่มอนุรักษ์โดยปรับข้อความแล้วนำมาอ่านให้กลุ่มผู้ชุมนุมฟังจนไม่ติดใจใด ๆ ก่อนจะนำไปให้นายจารึก ลงนามอีกครั้ง หลังจากนั้นกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานีจึงยอมย้ายออกจากบริเวณหน้าห้องผู้ว่าฯ ลงมารวมกันที่เต็นท์ชุมนุมหน้าศาลากลาง โดยมีการประชุมแกนนำกลุ่มเพื่อกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวต่อไป

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่ามีตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานีราว 30 คนได้เดินทางไปร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอุดรธานี เพื่อเดินรณรงค์ให้ประชาชนชาวอุดรธานีไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยกาช่องงดออกเสียง ทั้งนี้จะมีตัวแทนของกลุ่มเข้าร่วมเวทีโสเล่เพื่อประชาธิปไตยคืนนี้ก่อนที่จะสลายการชุมนุมในคืนนี้ เพื่อกลับไปรอฟังผลและไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายน 2549 นี้

นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯ มีความเข้าใจปัญหาเรื่องโครงการเหมืองแร่โปแตช เพราะมีทุนต่างชาติและกลุ่มนักการเมืองระดับรัฐมนตรี ในรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาเกี่ยวข้องร่วมในการครอบงำเรื่องโครงการเหมืองแร่โปแตช ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ทำนองเดียวกันกับการที่กองทัพสิงคโปร์เข้ามาใช้ฐานบินกองบิน 23 ซึ่งเป็นประเด็นสาธารณะที่คนอุดรธานีไม่ว่าจะเป็นคนเมือง หรือชาวบ้านในพื้นที่ต้องร่วมกันเกลื่อนไหวต่อไปข้างหน้าโดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาท้องถิ่นไว้