วานนี้ ( 1 เม.ย.) พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์หลังออกกำลังกายไดร์ฟกอล์ฟ ที่สนามเสรีกอล์ฟ ย่านตลิ่งชัน ถึงกรณีหลายฝ่ายเป็นห่วงว่า หลังการเลือกตั้งจะมีอารมณ์ระหว่างคนที่เชียร์รัฐบาล และต่อต้านรัฐบาลว่า หลังเลือกตั้งแล้ว ทุกคนควรจะหันหน้าเข้าหากัน

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า รัฐบาลเปิดกว้าง และวิงวอนให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน รัฐบาลจะเป็นผู้นำในการที่จะดึงความสมานฉันท์ กลับเข้าสู่สังคมไทยอีกครั้ง อย่าลืมว่าประเทศเราจะมารบลากันเอง เพราะประเทศต้องมีการแข่งขัน เมื่อเช้าอ่านหนังสือพิมพ์มีข่าวว่า ประเทศมาเลเซีย ประกาศว่า ปี 2020 มาเลเซียจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยจัดสรรงบประมาณ 59 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่จะพัฒนาประเทศของเขา เหมือนกับสิ่งที่เราพูดแต่เราทำไม่ได้ อันนี้เป็นสิ่งที่เราควรเดินหน้าต่อไป ไม่เช่นนั้นประเทศจะล้าหลัง ปัญหาก็คือ ลูกหลานเราที่เติบโตขึ้นมาต่อไปจะลำบาก เพราะว่าเรากำลังเข้าใจผิดต่อโลกของการแข่งขัน เราอย่าไปคิดว่า เราอยู่คนเดียวได้โดยลำพัง ไม่ต้องมีใครมาแข่งขันกับเรา เราไม่แข่งขันกับใคร อันนั้นมันอันตราย กำลังซื้อของคนก็จะอ่อนแอ ถ้าเราไม่สามารถแข่งขันได้ ค่าเงินบาทก็จะอ่อนตัว เราต้องถูกลดค่าเงินบาทครั้งแล้วครั้งเล่า เราต้องสร้างเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง สร้างงาน พัฒนาประเทศแก้ปัญหาความยากจน ไปพร้อมๆ กัน

"ถ้าเราเข้าใจผิด เราก็เลี้ยวประเทศไปในที่ผิด เพราะถ้าเราเข้าใจถูก ก็จะเลี้ยวประเทศไปในทางที่ถูก จุดนี้เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ จึงอยากเรียกร้องทุกฝ่าย ให้หันหน้าเข้าหากัน มีอะไรก็ติกัน ฟังกัน แต่ติเพื่อสร้างสรรค์ ติเพื่อก่อ แล้วสังคมไทยก็จะพัฒนาแข็งแรง" หัวหน้าพรรคไทยรักไทยกล่าว

และยังกล่าวด้วยว่า ปีนี้ยังเป็นปีพิเศษเป็นปีมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี เพราะฉะนั้นเลือกตั้งเสร็จแล้วทุกฝ่าย ต้องหันหน้าเข้าหากัน เพื่อจะทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สบายพระทัย

"ผมคิดว่า หลังเลือกตั้ง จะเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญของประเทศ ผมอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ผมจะรับทุกเงื่อนไขไว้พิจารณา เงื่อนไขที่เรียกร้องปัจจุบัน ผมจะรับไว้พิจารณา อะไรทำให้ได้ ก็จะทำ" พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุ