นางราตรี เปิดเผยต่อไปว่า การแจ้งความให้ดำเนินคดีนี้ เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ธรณีพิบัติ ช่วงปลายปี 2547 ต่อต้นปี 2548 เริ่มจากมีอาสาสมัครที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย เข้าไปซ่อมแซมถนนเข้าชุมชนแหลมป้อม ซึ่งเป็นถนนที่สำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทก่อสร้างมากว่า 20 ปี แต่ถูกบริษัทฟาร์อีส เทรดดิ้ง แอนด์ คอนดรักชั่น จำกัด อ้างสิทธิในที่ดิน แจ้งความดำเนินคดีจับตนกับพวก 10 คน ในข้อหาบุกรุกทำให้เสียทรัพย์ แต่พนักงานสอบสวนไม่สามารถรวบรวมหลักฐานได้สมบูรณ์เพียงพอ พนักงานอัยการจึงมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องดังกล่าว

นางราตรี เปิดเผยด้วยว่า ก่อนหน้านี้ มีตัวแทนบริษัทฟาร์อีส เทรดดิ้ง แอนด์ คอนดรักชั่น จำกัด ได้เข้ามาเจรจากับชาวบ้าน ขอให้ชาวบ้านที่อยู่ในที่ดินแปลง 920 ย้ายไปอยู่ในที่ดินแปลง 921 เพื่อเปิดโอกาสให้บริษัทฯ ได้เข้าไปครอบครองในที่ดินแปลง 920 แทน โดยตัวแทนบริษัทฯ ยังคงปักหลักเจรจากับชาวบ้านเหมือนเดิม โดยนัดเจรจากับตนเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2549 แต่ตนขอเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 31 มีนาคม 2549 โดยตนและชาวบ้านยืนยันว่า ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการพิจารณาของศาล สำหรับบริษัทฟาร์อีส เทรดดิ้ง แอนด์ คอนดรักชั่น จำกัด มีความเกี่ยวข้องกับนายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคไทยรักไทย

นางราตรี เปิดเผยอีกว่า เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2549 นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ อธิบดีกรมที่ดิน นัดประชุมแกนนำชาวบ้านแหลมป้อม บ้านทับตะวัน และบ้านในไร่ ที่กองทุนสงเคราะห์สวนยางท้ายเหมือง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา โดยนายพีรพลได้พูดเชิงขอร้องให้ชาวบ้านยอมถอยให้นายทุน เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ตนและแกนนำยืนยันว่า จะไม่ถอยและให้เป็นไปตามกระบวนการของศาล ทั้งยังขอให้นายพีรพลกลับไปตรวจสอบเอกสารสิทธิ และทบทวนผลการพิสูจน์สิทธิของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินชุดพลเอกสุรินทร์ พิกุลทอง เป็นประธาน ที่เคยพิสูจน์มาแล้วก่อนหน้านี้ จากนั้น ค่อยกลับมาคุยกันใหม่ สำหรับกรณีพิพาทที่ดินบ้านในไร่ ที่ประชุมในวันดังกล่าว มอบหมายให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน เข้าไปเก็บข้อมูลใหม่อีกรอบ เนื่องจากข้อมูลบางประเด็นยังไม่มีความชัดเจน