ประชาไท - 3 เม.ย.49 นาย
โดยนายสุริยะใส ระบุเหตุผลว่า เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการเลือกตั้งที่มีเล่ห์เหลี่ยมกลโมงมากที่สุด เรียกได้ว่า เป็นต้มยำรวมมิตรกลโกงการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการเปลี่ยนรูปแบบคูหาการเลือกตั้งโดยหันคูหาลงคะแนนเลือกตั้งเข้าหาผนัง หันหลังให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ทำให้บุคคลภายนอกสามารมองเห็นการลงคะแนนของผู้ลงคะแนนได้ ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 104 ที่ระบุให้การเลือกตั้งโดยตรงและเป็นความลับ ความผิดครั้งนี้ของ กกต.ทั้ง 4 คนอาจถึงขั้นมีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่
นอกเหนือจากนี้ จะมีการจัดกิจกรรมสมัชชาผู้รักประชาธิปไตย ในวันที่ 4 เม.ย.นี้ ที่ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เพื่อรับลงทะเบียนองค์กรแนวร่วมเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจากทุกจังหวัด และทุกสาขาอาชีพ โดยรูปแบบจะเป็นทั้งการเปิดรับสมัครสมาชิกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในจังหวัดต่างๆ และอีกรูปแบบหนึ่งจะเป็นการเปิดเวทีให้การต่อสาธารณะโดยตัวแทนองค์กรต่างๆ เพื่อรายงานผลการตรวจสอบการทุจริตการเลือกตั้ง และการเสนอแนะต่อแนวทางการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยจะมีแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คนมาร่วมรับฟังตั้งแต่เวลา 09.30-15.00 น.จึงขอประกาศเชิญชวนทุกฝ่ายเข้าร่วมในวันเวลาดังกล่าว
ด้านนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวต่อไปของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า ในวันที่ 5 เม.ย.จะมีการเดินรณรงค์ครั้งใหญ่ ที่จังหวัดนครราชสีมา พร้อมทั้งเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ของนักวิชาการ และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสวนรักษ์ ข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(ย่าโม) อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยในช่วงวันที่ 5-6 เม.ย.จะร่วมกันวิเคราะห์ประเมินผลการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้ทั้งหมด ในขณะเดียวกัน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้นัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 7-8 เม.ย. ที่กรุงเทพฯ และเดินขบวนครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในวันที่ 8 เม.ย. นี้พร้อมขยายการรณรงค์ไปยัง 76 จังหวัดทั่วประเทศ
"การชุมนุมที่จะเกิดขึ้นนี้เป็นการแสดงสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ พลังประชาชนจะเป็นผู้ชี้ขาดและพลังความถูกต้องจะสามารถเอาชนะพลังแห่งความไม่ถูกต้องได้ในที่สุด" นายสมเกียรติ กล่าว
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)