Skip to main content
sharethis

ประชาไท—13 เม.ย. 2549 วันที่ 12 เม.ย. ศ.(พิเศษ) ดร.ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.)ได้เปิดแถลงข่าวแทน สทศ. โดยเชิญตัวแทนผู้ปกครองและนักเรียน 200 คนเข้าร่วม เพื่อกล่าวชี้แจงกรณีผลคะแนนโอเน็ต และเอเน็ตมีปัญหา โดยเฉพาะกรณีที่มีนักเรียนอีกประมาณ 1500 คนมีคะแนนเป็น 0 ว่า จากนี้ สกอ.จะปรับปฎิทินการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาใหม่อีกครั้งโดยจะขยายออกไปจากวันที่ 24 พฤษภาคมแต่ยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อการเปิดภาคเรียนที่ 1/2549


 


โดยส่วนที่ผู้ปกครองเรียกร้องให้ยกเลิกการประกาศผลสอบโอเน็ตและเอเน็ตครั้งนี้นั้น ไม่มีเหตุผลที่จะยกเลิก เพราะการประกาศส่วนใหญ่ถูกต้อง มีเพียงส่วนน้อยที่มีปัญหาซึ่งจะมีการแก้ไขเป็นรายกรณีไป เพราะหากต้องตรวจสอบใหม่ทั้งหมดนั้นจะใช้เวลานานกว่า 1 เดือน อีกทั้งคะแนนของคนส่วนใหญ่ก็ถูกต้อง มีที่ผิดบ้างก็กรณีที่เจ้าหน้าที่โง่ๆ บางคนบ้องตื้นไปแก้คะแนนให้กลางอากาศ


ถ้าจะตรวจสอบความถูกต้องจริง ก็เสนอให้มีการสุ่มตรวจ


 


อย่าไรก็ตามผู้ปกครองไม่ยอมรับ จนเกิดการโต้เถียงกัน กระทั่ง ศ.ดร.ภาวิช ตัดสินใจวอค์เอาท์ออกมาห้องประชุมในเวลา 15.20 น. หลังจากนั้นนักเรียนก็โห่ไล่และตะโกนด่าว่าหนีปัญหา ไม่ยอมรับฟัง น่าเกลียด ไม่ยอมรับผิดชอบ


 


ต่อมา ศ.ดร.ภาวิช ได้กลับเข้ามาอีกครั้งในเวลา 16.00 น. และแจ้งกับผู้ปกครองและนักเรียนว่า ด้โทรศัพท์รายงานสถานการณ์ให้นายจาตุรนต์ รับทราบพร้อมเสนอว่า ควรต้องตรวจข้อสอบใหม่อีกครั้ง โดย สกอ.จะเสริมทีม สทศ. เข้าไป จะทำให้ย่นเวลาในการตรวจข้อสอบเหลือแค่ 10 วันและ สกอ.จะประสานมหาวิทยาลัยให้เลื่อนเปิดภาคเรียนไปอีก 1-2 สัปดาห์ ซึ่งผู้ปกครองและนักเรียนปรบมือพอใจ


 


ศ.ดร.ภาวิช เปิดเผยเพิ่มเติมว่า นายจาตุรนต์ให้มีการตรวจกระดาษคำตอบใหม่ทั้งหมด และเพื่อให้งานทำได้อย่างรวดเร็ว จะนำกระดาษคำตอบแสกนลงในเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นฐานข้อมูลไว้หมดไว้ และจะใช้ทั้งคอมพิวเตอร์และคนช่วยกันตรวจสอบ โดย สกอ.จะนำทีมที่เคยผ่านการตรวจข้อสอบเอ็นทรานซ์มา 30-40 ปี เข้าไปช่วย ซึ่งขณะนี้ได้ระดมเจ้าหน้าที่แล้ว


 


สำหรับข้อสอบอัตนัยคงไม่สามารถตรวจข้อสอบใหม่ได้ แต่สามารถเฉลยคำตอบได้ เนื่องจากการตรวจคำตอบแบบอัตนัยจะต้องระดมอาจารย์จากทั่วประเทศกว่า 500 คน ส่วนเวลาที่จะใช้ในการตรวจข้อสอบนั้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะใช้เวลานานเพียงใด ต้องขอดูปริมาณงานก่อน ที่ผ่านมากระดาษคำตอบมีทั้งหมด 4.6 ล้านฉบับ ต้องใช้เวลาตรวจ 1 เดือนกว่า ส่วนคนที่ได้คะแนน 0 และได้ยื่นคำร้องไว้ ในการตรวจรอบใหม่จะดึงข้อมูลที่ร้องเรียนไว้ตรวจสอบพร้อมกันไป ส่วนที่จะให้ผู้ปกครองไปตรวจสอบผลสอบได้ที่ศูนย์ต่างๆ ทั่วประเทศแล้ว ขณะนี้ไม่จำเป็นแล้ว เพราะไม่มีประโยชน์ อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นต้องขออภัยแทน สทศ.ด้วย


 


นายภาวิช กล่าวอีกว่า สำหรับคณะแพทย์และกำหนดปฏิทินรับสมัครแอดมิชชั่นที่จะมีการปรับจะมีการเชิญประชุมอธิการบดีในวันที่ 14 เม.ย. เวลา 13.00 น. ที่ สกอ. โดยแนวโน้มขณะนี้คงต้องมีการปรับปฏิทินรับสมัครแอดมิชชั่นแน่นอน แต่คงไม่กระทบกับวันเปิดภาคเรียน เพราะตารางเวลาได้เผื่อไว้แล้ว จากเดิมที่กำหนดการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 24 พ.ค. หากต้องมีการเลื่อนออกไปคาดว่าจะไม่เกินวันที่ 31 พ.ค. ซึ่งคงไม่กระทบกับวันเปิดภาคเรียน


 


วันเดียวกันมีผู้ปกครองและนักเรียนจำนวนมากเดินทางไปที่สถาบันทดสอบการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ชั้น 35 อาคารพญาไท พลาซ่า เพื่อตรวจสอบ และให้ สทศ. แก้ปัญหาผลคะแนนโอเน็ต เอเน็ต ในรอบ 2 อย่างต่อเนื่อง โดยมีข้อเสนอให้ สทศ. แก้ปัญหาคะแนนที่เป็น 0 ขอให้ตรวจคะแนนใหม่ภายใน 3 วัน และกรณีที่ใครได้ 0 ต้องไม่ได้รับผลกระทบ โดยมหาวิทยาลัยต้องเอาผลไปตรวจใหม่ และขอให้ไปติดประกาศผลใหม่ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งมีสถานที่กว้างขวาง และถ้าผลยังไม่ถูกต้องจะมากดดันต่อไป


 


กรณีดังกล่าว รศ.ประทีป จันทร์คง ผู้อำนวยการ สทศ.ได้ออกมาชี้แจงว่า ขอให้เด็กลงชื่อและยื่นคำร้องเพื่อขอตรวจสอบผลคะแนนโอเน็ต-เอเน็ต ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของสทศ.ประจำเคาน์เตอร์รอรับข้อมูลอยู่ตลอดเวลา


 


หลังจากรศ.ประทีปชี้แจง ปรากฏว่าเด็กได้ทยอยรับบัตรคิว เข้าไปตรวจสอบผลสอบโอเน็ต-เอเน็ตครั้งละ 5 คน ส่วนเด็กที่เหลือก็ยืนรอคิวกันแน่นขนัดกับผู้ปกครองกว่า 800 คน รออยู่ชั้นล่างของอาคารพญาไทพลาซ่และเนื่องจากมีเจ้าหน้าที่สทศ. มีเพียง 10 คนที่คอยดูแลให้คำแนะนำ อีกทั้งมีคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ไม่เกิน 10 เครื่อง ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของเด็กที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก สร้างความไม่พอกับผู้ปกครองจนกระทั่งเกิดการปะทะคารมกันจนเจ้าหน้าที่ของสทศ. ต้องใช้โทรโข่งประกาศให้ผู้ปกครองและเด็กรอรับบัตรคิว และยื่นคิวร้องก่อนถึงจะตรวจผลบสอบโอเน็ต เอเน็ตได้


 


ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อกรณีปัญหาในการประกาศผลสอบโอเน็ต และเอเน็ต ในความผิดพลาดบกพร่องที่เกิดขึ้น และขออภัยขอโทษแก่ผู้ที่ต้องเกี่ยวข้องโดยเฉพาะนักเรียน ผู้ปกครอง ที่ต้องได้รับผลกระทบในครั้งนี้ แม้ว่าผลกระทบจะมีอยู่กับคนส่วนน้อย แต่ก็ทำให้ภาพรวมทั้งระบบได้รับผลกระทบด้วย


 


ส่วน แนวทางแก้ไขคือถ้าไม่สามารถพึ่งเครื่องมือได้ และเหลือกรณีปัญหาน้อยรายแล้วก็จะให้ใช้คนตรวจสอบข้อสอบให้เด็กแต่ละคนเป็นราย ๆ ไป และได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาแห่งชาติ (สกอ.) ช่วยหาผู้เชี่ยวชาญด้านการวัดผลข้อสอบและผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีเข้าไปช่วยเหลือให้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันได้ว่าไม่มีเรื่องทุจริตใด ๆ เป็นเรื่องปัญหาทางเทคนิค 100 เปอร์เซ็นต์


 


นายจาตุรนต์กล่าวอีกว่า ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจาการกรอกเลขประจำตัวผิด และความผิดพลาดอื่น ๆ จากรายชื่อผู้เข้าสอบที่ไม่ตรงกัน ได้รับแจ้งว่า ขณะนี้เด็กที่พบปัญหามีอยู่ประมาณ 1,500 คน ซึ่งต้องจัดการเคลียร์กลุ่มนี้ก่อนให้เกิดความชัดเจน และมีคะแนนไปใช้ได้ ถ้าจำเป็นต้องรอนานหรือไม่ทันตามที่สถาบันการศึกษากำหนด ผู้รับผิดชอบจะดูในรายละเอียดและตัดสินใจต่อไปได้


 


ส่วนปีต่อไปหวังว่าการพัฒนาทางเทคนิคและประสบการณ์จะมีมากขึ้นก็จะไม่เกิดปัญหา นอกจากนี้ จะมีการหารือกับสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) และ สกอ. รวมทั้งกรรมการที่เกี่ยวข้องเรื่องการรับนักศึกษาเข้ามหาวิทยาลัยที่เปลี่ยนระบบ เพราะยังมีปัญหาที่มีการสอบหลายแบบ หลายครั้งซ้ำซ้อน และระบบการรับไม่ตรงกับเจตนารมณ์ดั้งเดิม ยังต้องไปกวดวิชานอกหลักสูตรกันอยู่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net