ภาพจาก AP

ชาวเนปาลหลายพันคนสไตรค์ไม่ยอมทำงาน และออกมาร่วมชุมนุมกันตามท้องถนนในกรุงกาฐมัณฑุเป็นเวลา นานกว่า 12 วันแล้ว เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลภายใต้การนำของกษัตริย์กิเนนดราคืนอำนาจการปกครองที่แท้จริงให้แก่ประชาชน

การชุมนุมดังกล่าวดำเนินมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2549 และเพิ่มความกดดันให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลมากยิ่งขึ้น ทำให้มีการปราบปรามผู้เข้าร่วมชุมนุมด้วยการใช้กระบองไล่ทุบตี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ถึง 4 ราย

ขณะเดียวกัน ประชาชนในกาฐมัณฑุเริ่มขาดแคลนอาหารและไม่มีเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ ใช้ เนื่องจากเส้นทางการคมนาคมถูกปิดกั้น รถบรรทุกทั้งหลายถูกจอดทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก การขนส่งและลำเลียงสินค้าประสบภาวะชะงักงัน พืชผลทางการเกษตรขาดตลาด พรรคฝ่ายค้านของเนปาลจึงประกาศตัวเป็นแนวร่วมกับการชุมนุมดังกล่าวด้วย

ในระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา ประเทศเนปาลตกอยู่ภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่พระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ สลับกับการปกครองแบบราชาธิปไตยซึ่งพระมหากษัตริย์มีอำนาจสูงสุด เช่นเดียวกับที่กองกำลังผู้นิยมลัทธิเหมาได้เคลื่อนไหวเพื่อก่อความไม่สงบภายในประเทศอยู่เป็นระยะๆ

เชอร์ บาฮาดูร์ ดูบา อดีตนายกรัฐมนตรีเนปาลซึ่งถูกกษัตริย์กิเนนดราปลดออกจากตำแหน่งเมื่อปี พ.ศ. 2545 เป็นแกนนำต่อต้านรัฐบาลเพื่อล้มล้างระบอบการปกครองแบบราชาธิปไตย และดูเหมือนว่าชาวเนปาลจำนวนมากจะเห็นด้วยกับกลุ่มผู้ต่อต้านมากขึ้น เนื่องจากกษัตริย์กิเนนดราใช้กำลังปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงด้วยความรุนแรง ทำให้หลายฝ่ายเริ่มหวั่นวิตกว่าราชวงศ์เนปาลอาจถึงคราวสิ้นสุดลง

ทั้งนี้ อดีตนายกฯดูบา ถูกยึดอำนาจเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2548 ด้วยข้อหาว่าบกพร่องต่อหน้าที่ เนื่องจากดูบาไม่สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลและกองกำลังผู้นิยมลัทธิเหมาได้ แต่ภายหลังจากที่กษัตริย์กิเนนดราเข้ามามีบทบาทในรัฐบาลเต็มตัว ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาล ประชาชน และกองกำลังผู้นิยมลัทธิเหมาในประเทศเนปาลกลับยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

การชุมนุมประท้วงกษัตริย์กิเนนดราเกิดขึ้นหลายครั้งหลายหนในช่วงระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา และรัฐบาลเลือกที่จะปราบปรามผู้ชุมนุมโดยใช้กำลังความรุนแรงมากกว่าจะใช้สันติวิธี ทำให้สถานการณ์ในเนปาลย่ำแย่ลง และถึงแม้ว่าชาวเนปาลจะนับถือกษัตริย์บนพื้นฐานความเชื่อว่ากษัตริย์คือพระวิษณุที่กลับชาติมาเกิดใหม่ แต่การยึดอำนาจของกษัตริย์กิเนนดราก็ทำให้ความเคารพนับถือของประชาชนที่มีต่อพระองค์ลดลง

ขณะนี้ การชุมนุมซึ่งยืดเยื้อยาวนานมาได้ 12 วัน เริ่มเข้าสู่ภาวะคลี่คลายลงบ้างแล้ว เนื่องจากผู้ชุมนุมบางส่วนยอมเลิกชุมนุมชั่วคราว เพื่อกลับไปเตรียมเสบียงอาหาร น้ำมัน และแก๊สหุงต้มมาใช้ในชีวิตประจำวันต่อไป

อย่างไรก็ตาม พรรคการเมืองฝ่ายค้านของเนปาลซึ่งต่อต้านการปกครองของกษัตริย์กิเนนดราได้เรียกร้องให้ประเทศพันธมิตร สถาบันการเงิน และองค์กรการกุศลต่างๆ ยุติการให้บริจาคหรือมอบความช่วยเหลือใดๆ แก่รัฐบาลที่ปกครองโดยกษัตริย์กิเนนดรา และกดดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อที่ประชาชนชาวเนปาลจะได้มีสิทธิและเสรีภาพทางการเมืองที่ดีกว่าภาวะที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ทางด้านกษัตริย์กิเนนดราทรงให้สัญญาว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งขึ้นใหม่ เพื่อยุติความขัดแย้งภายในประเทศ แต่กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคฝ่ายค้านจำนวนมากยังยืนกรานที่จะชุมนุมประท้วงต่อไป

นอกจากนี้ พรรคฝ่ายค้านยังได้เรียกร้องให้แรงงานชาวเนปาลซึ่งไปขายแรงงานในต่างประเทศหยุดการส่งเงินรายได้กลับประเทศชั่วคราว รวมถึงต่อต้านสินค้าที่ผลิตจากเครือข่ายราชวงศ์เนปาลจนกว่าการรวบอำนาจโดยกษัตริย์กิเนนดราจะสิ้นสุดลง และผู้สื่อข่าวอีกประมาณ 200 คนได้ร่วมกดดันให้มีการปล่อยตัวผู้สื่อข่าวจำนวนสิบรายซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวไปด้วย