ภาพจาก http://www.earthtimes.org/articles/show/6316.html
วารสารชั้นนำในแวดวงการแพทย์อย่าง "เดอะแลนเซท" (The Lancet) เปิดเผยข้อมูลซึ่งปรากฏในรายงานขององค์กรสาธารณสุขระหว่างประเทศ โดยระบุว่า World Bank หรือ ธนาคารโลก มีส่วนพัวพันกับการบิดเบือนสถิติผู้ป่วยโรคมาลาเรียซึ่งเข้าร่วมโครงการรักษามาลาเรียในทวีปแอฟริกาและอินเดีย รวมถึงการนำเงินกองทุนรักษาโรคมาลาเรียไปใช้อย่างสูญเปล่าด้วย
อาเมียร์ อัตตาราน ผู้รับผิดชอบการทำรายงานดังกล่าวได้เสนอข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างสถิติผู้ป่วยด้วยโรคมาลาเรียในอินเดีย ระหว่างปี 2543-2548 ที่ธนาคารโลกรวบรวมไว้ กับสถิติผู้ป่วยด้วยโรคมาลาเรียที่หน่วยงานของรัฐบาลอินเดียเป็นผู้รวบรวม พบว่าสถิติผู้ป่วยในแคว้นกุจารัช มหารัชตะ และราชาสถานซึ่งธนาคารโลกรวบรวมไว้มีจำนวนลดลง ในขณะที่สถิติผู้ป่วยด้วยโรคมาลาเรียทั้งสามแคว้นซึ่งอยู่ในรายงานของรัฐบาลอินเดียมีจำนวนมากกว่าที่ธนาคารโลกระบุไว้
การนำเสนอสถิติผู้ป่วยที่น้อยกว่าความเป็นจริงของธนาคารโลก เป็นเหตุให้คณะผู้ทำรายงานขององค์กรสาธารณสุขฯ ตั้งข้อสังเกตว่าธนาคารโลกอาจมีเจตนาตกแต่งให้ข้อมูลการทำงานของตนดูดีเกินจริงและแสดงให้เห็นว่าการดำเนินโครงการรักษามาลาเรียประสบความสำเร็จ ทั้งที่ความเป็นจริงมิได้เป็นเช่นนั้น
ในกรณีโครงการรักษามาลาเรียในทวีปแอฟริกาของธนาคารโลก องค์กรสาธารณสุขระหว่างประเทศแจงให้เห็นว่าธนาคารโลกเพิกเฉยที่จะต่อสู้กับโรคมาลาเรียในแอฟริกาอย่างจริงจัง อีกทั้งยังมีการแจ้งยอดค่าใช้จ่ายที่ใช้ไปกับโครงการมากเกินความเป็นจริง และธนาคารโลกได้กลับคำพูดด้วยการเตะถ่วงที่จะอนุมัติเงินในกองทุนให้กับโครงการรักษาโรคมาลาเรีย เพราะแทนที่จะมีการมอบเงินให้กับแอฟริกาเป็นจำนวน 500 - 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (19,000 ล้านบาท) ตามที่สัญญาไว้ กลับมีการมอบเงินให้แก่โครงการเพียง 100 - 150 ล้านเหรียญฯ (5,700 ล้านบาท) เท่านั้น
นอกจากนี้ รายงานของอาเมียร์ อัตตาราน ยังมีเนื้อหาพาพิงถึงการใช้ยา "คลอโรควิน" ที่ธนาคารโลกนำไปรักษาผู้ป่วยในบางแคว้นของอินเดียว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะนอกจากองค์การอนามัยโลกจะไม่แนะนำให้ใช้คลอโรควินแล้ว การให้ตัวยาดังกล่าวยังถือเป็นวิธีการรักษาที่ล้าสมัย ไม่คุ้มค่ากับเงิน 1.8 ล้านเหรียญฯ (684 ล้านบาท) ที่เสียไป
ตัวแทนของธนาคารโลกได้ออกมาแก้ต่างในกรณีดังกล่าวโดยระบุว่าสถิติผู้ป่วยโรคมาลาเรียของอินเดียที่ปรากฏในรายงานขององค์กรสาธารณสุขเป็นเพียงสถิติส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่สถิติที่ธนาคารโลกนำมาเสนอคือสถิติรวมที่แท้จริง และยาคลอโรควินถูกนำไปใช้กับผู้ป่วยในบางพื้นที่ของอินเดีย เนื่องจากยาดังกล่าวสามารถใช้การได้ดีกับผู้ป่วยในแถบนั้น
ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าธนาคารโลกเตะถ่วงการอนุมัติเงินช่วยเหลือแก่ทวีปแอฟริกา ได้รับการอธิบายว่าเงินจำนวนที่เหลือจะถูกนำไปใช้สำหรับโครงการในวาระต่อไป ซึ่งจะดำเนินการในปี 2549 - 2551 และการระบุยอดค่าใช้จ่ายก็เป็นไปอย่างโปร่งใส แต่ธนาคารโลกยอมรับว่าการแจกแจงอย่างละเอียดละออว่าเงินของกองทุนซึ่งได้รับบริจาคมาถูกนำไปใช้ในเรื่องใดบ้าง เป็นสิ่งที่ "ทำได้ยาก" เพราะโครงการนี้เป็นโครงการที่ใหญ่เกินกว่าจะนำเสนอข้อมูลปลีกย่อยได้ครบถ้วน
ทางด้านบทบรรณาธิการของวารสารแลนเซทระบุว่ารายงานขององค์กรสาธารณสุขระหว่างประเทศถือเป็นข้อมูลที่น่าสนใจ และเป็นประเด็นที่ธนาคารโลกต้องแสดงหลักฐานประกอบที่ชัดเจนและโปร่งใสมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะค่าใช้จ่ายที่สูญเสียไปในแต่ละปีเพื่อต่อสู้กับโรคมาลาเรียในทวีปแอฟริกามีจำนวนสูงมาก และถ้าหากธนาคารโลกจริงจังกับการต่อสู้กับโรคมาลาเรีย ก็ควรจะทำให้ผู้ป่วยด้วยโรคมาลาเรียหมดไปจากแอฟริกาภายในปี 2553 ให้ได้