เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 26 เมษายน 2549 ที่สภาอาจารย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ แกนนำพันธมิตรกู้ชาติกู้ประชาธิปไตยสงขลา ประกอบด้วย แพทย์หญิงรัชนี บุญโสภณ นายแพทย์เกรียงศักดิ์ หลิวจันทร์พัฒนา และนายพิชัย ศรีใส แถลงข่าวน้อมรับกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

แพทย์หญิงรัชนี แถลงว่า พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ต่อตุลาการศาลปกครองสูงสุด และคณะผู้พิพากษาศาลฎีกา เมื่อวันที่ 25เมษายน 2549 ซึ่งมีสาระสำคัญ ประกอบด้วย 1.การเลือกตั้งที่มีพรรคเดียว เบอร์เดียว ไม่ใช่ประชาธิปไตย การยุบสภาโดยจัดการเลือกตั้งภายใน 30 วัน ถูกต้องหรือไม่ 2. สำหรับศาลปกครองสูงสุด ต้องทำทุกอย่างเพื่อการปกครองแบบประชาธิปไตย การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ ศาลปกครองมีสิทธิที่จะบอกว่า อะไรควรหรือไม่ควร และต้องปรึกษาหารือกับศาลฏีกา 3. การขอพระราชทานนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 7 ไม่ได้หมายถึงมอบให้พระมหากษัตริย์มีอำนาจทำอะไรตามใจชอบ ทำเกินหน้าที่ไม่ได้ ต้องมีผู้สนองพระบรมราชโองการ

แพทย์หญิงรัชนี แถลงต่อไปว่า ในฐานะพสกนิกรพันธมิตรกู้ชาติกู้ประชาธิปไตยสงขลา รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่พระราชกระแสรับสั่งชี้ช่องทางให้เห็นผู้ที่สามารถมีหน้าที่รับผิดชอบ ต่อสถานการณ์ที่วิกฤติหาทางออกมิได้ของสังคมไทย  ให้ได้ทำงานแก้ไขวิกฤติของชาติให้ลุล่วงไปได้ พันธมิตรกู้ชาติ กู้ประชาธิปไตยสงขลา ขอน้อมรับพระราชดำรัสเหนือเกล้าเหนือกระหม่อม

นางแพทย์เกรียงศักดิ์ แถลงด้วยว่า ถ้าศาลฎีกามีคำวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2549 เป็นโมฆะ ทางพันธมิตรกู้ชาติกู้ประชาธิปไตยสงขลา อาจจะหยุดกิจกรรมชั่วคราว แต่หากมีคำวินิจฉัยว่าไม่เป็นโมฆะ ก็จะเคลื่อนไหวต่อไป เพราะเห็นว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบธรรม

"สำหรับการเลือกตั้งครั้งที่ 3 ในเขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดสงขลา วันที่ 29 เมษายน 2549 ทางพันธมิตรกู้ชาติกู้ประชาธิปไตยสงขลา จะจัดกิจกรรมสนองพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้เข้มข้นมากขึ้น ส่วนผมจะยังฉีกบัตรเลือกตั้ง เพื่อยืนยันเจตนารมณ์โค่นระบอบทักษิณเหมือนเดิม" นายแพทย์เกรียงศักดิ์ กล่าว

นายพิชัย แถลงว่า พันธมิตรกู้ชาติ กู้ประชาธิปไตยสงขลา ยังจะจัดชุมนุมที่หน้าสถานีรถไฟต่อไป โดยจะเน้นหนักเรื่องการปฏิรูปการเมืองมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้เห็นว่า ไม่เพียงแต่นายโภคิน พลกุล อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น ที่มีความสามารถปฏิรูปการเมืองได้ แต่ยังมีคนอื่นอีกหลายคนที่มีความสามารถเช่นกัน

จากนั้น มีการประชุมพันธมิตรกู้ชาติกู้ประชาธิปไตยสงขลา เพื่อกำหนดกิจกรรมในการเคลื่อนไหว โดยได้ข้อสรุปว่า เวลา 09.00 น. วันที่ 29 เมษายน 2549 จะร่วมเดินรณรงค์เพื่อเรียกร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และให้คณะกรรมการการเลือกตั้งลาออก พร้อมแสดงจุดยืนว่า การฉีกบัตรเลือกตั้งไม่ใช่การทำลายประชาธิปไตย แต่เป็นการทำลายระบอบทักษิณ โดยจะเดินรณรงค์ภายในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่

นายสุนทร รักษ์รงค์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคใต้ เปิดเผยว่า เปิดเผยว่า ในช่วงนี้จะยังไม่ทำกิจกรรมใดๆ ยกเว้นการเปิดเวทีการเรียนรู้เรื่องการปฏิรูปการเมืองของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในแต่จังหวัด เพราะต้องรอฟังคำวินิจฉัยของศาลฎีกาเรื่องการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน 2549 ว่าเป็นโมฆะหรือไม่ก่อน ส่วนการชุมนุมใหญ่ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่สนามหลวง ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2549 พันธมิตรในภาคใต้แต่ละจังหวัด จะส่งคนเข้าร่วมชุมนุมเช่นเดิม

นายสุนทร เปิดเผยอีกว่า นอกจากนี้ในวันที่ 29 -30 เมษายน 2549 เครือข่ายปฏิรูปการเมืองภาคใต้ ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคใต้ จัดเวทีสัมมนาเรื่องการปฏิรูปการเมืองภาคประชาชนภาคใต้ ที่ห้องประชุมซูซูกิ สถาบันทักษิณคดีศึกษา ตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยจะมีแกนนำภาคประชาชนเข้าร่วมประมาณ 200 คน