เรียกร้องเอดีบีหยุดสนับสนุนเงินกู้โครงการไฟฟ้า

เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกับกลุ่มแม่โขงวอทช์ เครือข่ายคนไม่เอาถ่านหิน และตัวแทนชุมชนจากมาบตาพุดและแก่งคอย เข้าพบนายฌอง ปิแอร์ แวคบิเอสท์ ผู้อำนวยการธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ประจำประเทศไทย เพื่อเรียกร้องให้ยุติการให้ทุนสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

 

ธารา บัวคำศรี ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและพลังงาน กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า นโยบายของเอดีบีที่ต้องการแก้ปัญหาความยากจนเป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม เพราะโครงการพัฒนาพลังงานในไทยที่เอดีบีให้การสนับสนุน เช่น โรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของคนในชุมชน ทำให้คนยากจนลงเพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล

 

สำหรับข้อเรียกร้องที่ยื่นแก่นายฌอง ปิแอร์ แวคบิเอสท์ ประกอบด้วยการขอให้เอดีบียุติการให้เงินสนับสนุนการขยายโรงไฟฟ้าถ่านหินและเหมืองแร่ลิกไนต์ที่แม่เมาะ นำเอาข้อเรียกร้องของชุมชนที่ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพไปดำเนินการ หยุดการให้เงินกู้ในโครงการพัฒนาที่ส่งผลกระทบต่อคนในชุมชนมาบตาพุด

 

เปิดเผยผลการศึกษาผลกระทบของสำนักงานนโยบายและแผน และสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างบีแอลซีพีกับกฟฝ. และระหว่างบีแอลซีพีกับบริษัท ริโอปินโต ในประเทศออสเตรเลีย แก่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบและสาธารณะ

 

นฤดล สุชาติพงศ์ ที่ปรึกษาเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ กล่าวว่า รายงานต่างๆ ที่เอดีบีได้รับจากตัวแทนในพื้นที่ที่ระบุว่าไม่มีผลกระทบในการสร้างโรงไฟฟ้านั้นไม่เป็นจริง เพราะเวลาตัวแทนลงไปพื้นที่ก็มีการสร้างภาพเอาไว้แล้ว อยากให้พิจารณาเรื่องนี้และต้องมีคำตอบ

 

ด้านมะลิวัลย์ นาควิโรจน์ เลขานุการเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ กล่าวว่า ไม่ได้ปฏิเสธความช่วยเหลือจากเอดีบี แต่ต้องการให้เอดีบีให้เงินสนับสนุนพลังงานสะอาด เอดีบีจะอ้างว่า พลังงานถ่านหินต้นทุนถูกกว่าไม่ได้ เพราะยังไม่ได้บวกต้นทุนด้านสุขภาพที่ต้องสูญเสียไป

 

"ผู้อำนวยการเอดีบีประจำประเทศไทยบอกว่าอาทิตย์หน้าจะไปลำปาง ในนามผู้ได้รับผลกระทบเราจึงเชิญเขาไปดูว่าที่แม่เมาะเป็นอย่างไร นอกจากนี้อีกส่วนหนึ่งจะเดินทางไปเข้าร่วมในการประชุมสามัญประจำปีของผู้ว่าการเอดีบีที่เมืองไฮเดอราบัด ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 3-6 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าด้วย"

 

สุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานโครงการเมืองน่าอยู่จังหวัดระยอง กล่าวว่า จากการพูดคุยกับตัวแทนของเอดีบี เขาบอกว่าเทคโนโลยีของโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ จังหวัดลำปาง เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ทันสมัย แต่ที่

โรงไฟฟ้าถ่านหินบีแอลซีพีที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง ใช้เทคโนโลยีสะอาด ไม่สร้างปัญหาฝุ่นละออง แต่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นเรื่องไกลตัวเกินกว่าที่ชุมชนจะเข้าใจได้ ดังนั้น ชาวบ้านจึงไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ ซึ่งในความเป็นจริง ไม่ใช่ เพราะภาวะโลกร้อนทำให้ไม่มีฝน เกิดความแห้งแล้ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย

 

อยากให้เอดีบีเปิดเผยข้อมูลว่าสัญญากับบีแอลซีพีว่าอย่างไรบ้าง รายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอที่เอดีบีบอกว่าไม่มีปัญหาก็อยากให้เปิดเผยออกมา รวมถึงรายงานของซีคอทที่ศึกษาแล้วพบว่ามาบตาพุดไม่สามารถรองรับบรรยากาศเสียได้อีก ถ้าเดินเครื่องความหนาแน่นจะมากขึ้น เกิดภาวะฝุ่น แต่ก็ไม่มีการประกาศออกมา โดยอ้างว่าจะทำให้สูญเสียการลงทุน

 

เอดีบีควรปฏิรูปตัวเอง เป็นพ่อพระในใจเราบ้าง ไม่ใช่เป็นพ่อพระของนายทุน ตอนนี้เหมือนเอดีบีเป็นแหล่งซื้อปืนให้มาฆ่าคน ต่อไปจะมีการขยายเครือข่ายของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการให้เงินกู้แก่โครงการพัฒนาต่างๆ โดยจะจับตาดูแหล่งเงินกู้ เช่น เอดีบี ธนาคารแห่งญี่ปุ่นเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ หรือ เจบิก และธนาคารโลก และกดดันอย่างต่อเนื่อง

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท