รายละเอียดมูลฟ้อง

ตามที่ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งรับคำฟ้องคดีหมายเลขดำที่ ๖๑๗/๒๕๔๙ และ ๖๒๐/๒๕๔๙ และศาลได้รวมพิจารณาคดีทั้งสองสำนวนเข้าด้วยกัน

 

โดยคดีหมายเลขดำที่ ๖๑๗/๒๕๔๙ นายโพธิพงศ์ บรรลือวงศ์ ฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้งและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้ถูกฟ้องคดี

 

ส่วนคดีหมายเลขดำที่ ๖๒๐/๒๕๔๙ นายแพทย์ประมวล วีรุตมเสน กับพวกรวมสิบคน ฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้ถูกฟ้องคดี

 

คดีทั้งสองสำนวนผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง จัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๔๙ โดยไม่สุจริต และ ไม่เป็นธรรม เนื่องจากมาตรา ๑๐๔ วรรคสาม ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ บัญญัติให้การเลือกตั้งให้ใช้วิธีออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ

 

แต่ผู้ถูกฟ้องคดีจัดคูหาเลือกตั้งโดยให้ผู้ลงคะแนนเสียงหันหลังให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ในลักษณะที่บุคคลภายนอกสามารถสังเกตเห็นได้ว่าผู้เลือกตั้งใช้สิทธิเลือกตั้งหมายเลขใด

 

ผู้ฟ้องคดีจึงมีคำขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาหรือคำสั่งยกเลิกเพิกถอนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๔๙ นั้น

 

บัดนี้ ศาลปกครองกลางได้พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า มาตรา ๖๖ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ บัญญัติว่า ในกรณีที่ศาลปกครองเห็นสมควรกำหนดมาตรการหรือวิธีการใดๆ เพื่อบรรเทาทุกข์ให้แก่คู่กรณีที่เกี่ยวข้องเป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษาคดี

 

ไม่ว่าจะมีคำร้องขอจากบุคคลดังกล่าวหรือไม่ ให้ศาลปกครองมีอำนาจกำหนดมาตรการหรือวิธีการชั่วคราว และออกคำสั่งไปยังหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด

 

โดยระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ประกอบกับหมวด ๕ วิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๓ และมาตรา ๒๕๕ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

 

ศาลปกครองจึงมีอำนาจกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองอย่างใดๆ ให้แก่ผู้ฟ้องคดีเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษา และ ออกคำสั่งไปยังหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติได้

 

ทั้งนี้โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐและปัญหาอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นแก่การบริหารงานของรัฐประกอบด้วย

 

คดีนี้ผู้ฟ้องคดีทั้งสิบเอ็ดมีคำขอให้ศาลยกเลิกเพิกถอนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๔๙ ซึ่งศาลเห็นว่าคำฟ้องมีมูล

 

และโดยที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้มีประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ใหม่ ลงวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๔๙ ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในจังหวัดชุมพร จังหวัดตรัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดปัตตานี จังหวัดพังงา จังหวัดพัทลุง จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสงขลา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

 

และมีประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จังหวัดนครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ ๒ ใหม่ ลงวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๔๙ ให้มีการเลือกตั้งในจังหวัดนครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ ๒ รวม ๙ จังหวัด ๑๔ เขตเลือกตั้งใหม่

 

โดยให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งในวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๔๙ ซึ่งหากให้มีการเลือกตั้งตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งทั้ง ๒ ฉบับดังกล่าว

 

และ ต่อมาศาลเห็นว่าการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๔๙ เป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็จะมีผลกระทบถึงการเลือกตั้งตามประกาศดังกล่าว

 

ซึ่งเป็นการเลือกตั้งที่สืบเนื่องจากการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๔๙ ด้วย อันจะทำให้เกิดความเสียหายแก่งบประมาณแผ่นดิน ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ประชาชนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งและประเทศชาติโดยส่วนรวม

 

ดังนั้น จึงมีเหตุจำเป็นเพียงพอและสมควรที่จะกำหนดมาตรการเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนพิพากษาจึงมีคำสั่งให้ระงับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในจังหวัดชุมพร จังหวัดตรัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดปัตตานี จังหวัดพังงา จังหวัดพัทลุง จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสงขลา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวม ๙ จังหวัด ๑๔ เขตเลือกตั้ง ในวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๔๙ ตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง

 

เรื่อง ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ใหม่ ลงวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๔๙ และประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง

 

เรื่อง ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จังหวัดนครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ ๒ ใหม่  ลงวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๔๙ ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท