บรรเจิดชี้ได้เวลาล้างไพ่ กกต.

นายบรรเจิด สิงคเนติ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความเห็นว่า หากศาลมีคำสั่งให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน กกต.ต้องแสดงความรับผิดชอบ 2 ประการคือ ความรับผิดชอบทางการเมือง และความรับผิดกรณีที่ทำผิดกฎหมาย เช่น มีมติให้ผู้สมัคร ส.ส. ลงแข่งขันแบบเวียนเทียน สวนทางกับคำพิพากษาศาลฎีกา หรือการหันคูหาเลือกตั้ง ซึ่งขัดหลักการลงคะแนนโดยลับ

ส่วนที่ภายหลังศาลปกครองสั่งระงับการเลือกตั้งรอบ 3 แล้ว ปรากฎว่า กกต. โต้แย้งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ว่ามีอำนาจในการจัดการเลือกตั้งนั้น นายบรรเจิด กล่าวว่า กกต.โต้แย้งเหมือนที่ทำมาแล้วหลายครั้ง แต่ที่ผ่านมาประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญรับรองอำนาจให้ กกต. คือการวินิจฉัยข้อเท็จจริง เป็นเรื่องๆ ไป เช่น การซื้อเสียงของผู้สมัครรายหนึ่ง

แต่ปัญหาของ กกต.ขณะนี้ คือการออกมติ และกฎระเบียบที่ไม่ชอบธรรม ไม่เกี่ยวกับอำนาจการวินิจฉัยข้อเท็จจริง แต่ต้องยอมรับว่า ในอดีตศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเป็นคุณแก่ กกต. แต่ขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยน ต้องดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเปลี่ยนหรือไม่

"ประเด็นอยู่ที่ว่า มติของที่ประชุม 3 ศาล บอกว่าหลังจากนี้ ทุกศาลจะต้องวินิจฉัยให้สอดคล้องกันทั้ง 3 ศาล ถ้าศาลปกครองมีมติออกมาอย่างนี้ แล้วเกิด กกต.ไม่เห็นด้วย ศาลรัฐธรรมนูญจะกล้าแหกโผหรือไม่"นักวิชาการ มธ.กล่าว

นายบรรเจิด กล่าวว่า หากในที่สุดแล้วศาลสั่งให้การเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้เป็นโมฆะ ก็ควรที่จะมีการล้างไพ่ใหม่ กกต.ควรจะลาออก เพราะถ้ายังเป็น กกต.ชุดนี้จัดการเลือกตั้ง ก็ไม่มีอะไรใหม่ ทุกอย่างจะเข้าสู่ปรากฏการณ์เดิม

ทั้งนี้ ไม่ต้องห่วงว่า หากไม่มี กกต.ชุดนี้แล้วจะไม่มีใครมาจัดการเลือกตั้ง เพราะขณะนี้ศาลปกครองสูงสุด ได้ส่งตัวตุลาการให้เป็นหนึ่งในองค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแล้ว จึงทำให้ศาลรัฐธรรมนูญ เลือกประธานศาลรัฐธรรมนูญเข้าไปร่วมสรรหา กกต.ชุดใหม่ได้ ที่ผ่านมาที่ไม่สามารถสรรหา กกต.ได้ ก็เพราะไม่มีประธานศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งการสรรหา กกต.ชุดใหม่นั้น คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 45 วันจึงจะแล้วเสร็จ

"วันนี้เราอย่ากังวลเรื่องระยะเวลา ว่าเราจะไม่มี กกต.อีกนานเท่าไหร่ แต่ต้องคิดว่าถ้ายังเป็น กกต.ชุดนี้จัดการเลือกตั้ง จะมีความเที่ยงธรรมหรือไม่ ดังนั้น ไม่ต้องกลัวว่า ถ้า กกต.ออกทั้งหมด จะไม่มีใครจัดเลือกตั้ง เพราะถ้าไม่มี กกต.จริงๆ ก็เริ่มกระบวนการสรรหาใหม่ได้เลยทันที เราจำเป็นต้องมี กกต.ที่มีความอิสระ และเที่ยงธรรมมากกว่าที่เป็นอยู่ ถึงเวลาต้องล้างไพ่ใหม่ได้แล้ว"นักวิชาการ มธ. กล่าว

พันธมิตรฯ จี้กกต.ลาออกยกชุด

ส่วนที่ จ.นครราชสีมา บ้านพัก พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ซอยสามยอด ต.สุรนารี อ.เมือง นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รักษาการ ส.ว.นครราชสีมา, นายการุณ ใสงาม รักษาการ ส.ว.บุรีรัมย์, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย, นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตหัวหน้าพรรคพลังธรรม นายสมบูรณ์ ทองบุราณ รักษาการ ส.ว.ยโสธร และนายวิญญู อุราฬกุล รักษาการ ส.ว.สกลนคร ได้ประชุมวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองและกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

นายไกรศักดิ์ กล่าวว่า หากตุลาการทั้งสามศาลชี้ขาดให้การเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นโมฆะจริงซึ่งจะต้องมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ ในขณะที่ผ่านมา กกต.ทำผิดซ้ำซาก ทั้งในส่วนการกระทำผิดของพรรคไทยรักไทย ซึ่งชัดว่า มีสมาชิกพรรคไทยรักไทย 2 คน ระบุชื่อคือ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา และ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริยเดช มีส่วนในการให้เงินกับพรรคฝ่ายค้านพรรคหนึ่งมาลงแข่งกับพรรคไทยรักไทย รวมถึงการซื้อเสียงที่มีขึ้นอย่างชัดเจนทั่วประเทศ ตลอดจนการแทรกแซงการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกของพรรคการเมืองที่ยังไม่มีใครพูดถึงเลย

ดังนั้น หากมีการเลือกตั้ง ส.ส.ใหม่จริงถ้า กกต.ชุดนี้ยังคงเป็นผู้จัดการเลือกตั้งเหมือนเดิมก็จะทำให้เกิดปัญหาตามมาแน่ และผลการเลือกตั้งก็จะไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน อีกทั้งพรรคประชาธิปัตย์ก็จะไม่ส่งผู้สมัครลงแข่งอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น กกต.ชุดนี้จะต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเลือก กกต.ชุดใหม่มาทำหน้าที่แทน ซึ่งศาลน่าจะนำเรื่องนี้ไว้พิจาณาด้วย

ด้านนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า หากศาลสั่งให้การเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 2 เม.ย.เป็นโมฆะจริง กกต.ทั้ง 5 คน จะต้องถูกดำเนินคดีทางแพ่งเรียกเงินค่าจัดการเลือกตั้งคืน เพราะเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงและจัดการเลือกตั้งโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ถ้าศาลมีการเพิกถอนพระราชกฤษฎีกายุบสภาบุคคลที่ต้องรับผิดชอบเต็มๆ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้รับสนองพระราชโองการและคณะรัฐมนตรีที่มีมติเห็นชอบให้ยุบสภาโดยไร้เหตุผล

เพราะฉะนั้นในสถานการณ์เช่นนี้ กกต.จะต้องพ้นจากตำแหน่งและให้มีการเลือก กกต.ชุดใหม่มาจัดการเลือกตั้งแทน โดยวุฒิสภารักษาการต้องเป็นสภาที่สรรหา กกต.ชุดใหม่ตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ตามรัฐธรรมนูญ เพราะ กกต.ชุดนี้เป็นองค์กรที่ไม่พึงปรารถนาของประชาชน และเป็นองค์กรที่เพิ่มวิกฤติของชาติ เป็นองค์กรที่ล้มละลายทางความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนในขณะนี้ ดังนั้นหาก กกต.เห็นแก่ประเทศชาติก็ควรลาออกทั้งชุดโดยเร็วที่สุด เพื่อรับสนองพระราชดำรัสในหลวง ยุติวิกฤติของประเทศ

ที่สำคัญในช่วงรัฐบาลเฉพาะกาลนี้ พ.ต.ท.ทักษิณและระบอบทักษิณ ไม่ควรเข้ามาเป็นแกนนำในการปฏิรูปการเมือง เพราะตัวเขาเองควรถูกปฏิรูปโดยพลังประชาชนและพลังของรัฐสภาที่เข้ามา แม้จะมีพรรคไทยรักไทยเข้ามามากกว่าก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ควรมีคนที่ทำลายระบอบประชาธิปไตยและคนที่ประชาชนเห็นว่าไร้จริยธรรมเข้ามาเป็นแกนนำในการปฏิรูปการเมือง แต่หากมีรัฐธรรมนูญใหม่แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาลงเลือกตั้งใหม่ ก็จะไม่ต้านเลย

น.พ.เกรียงศักดิ์ หลิวจันทร์พัฒนา กรรมการสภาอาจารย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) และแกนนำพันธมิตรฯสงขลา เปิดเผยว่า หากศาลวินิจฉัยให้การเลือกตั้ง 2 เมษายน เป็นโมฆะจริง จะพิจารณาหลังวันที่ 2 พฤษภาคม นี้ จะปลุกพลังประชาชนชนเช็คบิล กดดันให้ กกต.ชุดนี้ลาออกให้หมด เพราะการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นภายใต้การทำงานของ กกต.ชุดนี้มีสัญญาณบ่งชัดแล้วว่าไม่โปร่งใส เอื้อต่อพรรคการเมือง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ มีหลักฐานยืนยันชัดเจน

..................................

เรียบเรียงจาก : เวบไซต์แนวหน้าและคมชัดลึก