Skip to main content
sharethis

สำนักข่าว INN รายงานว่า ประชาชนชาวกะเหรี่ยงและนักการเมืองฝ่ายค้านพม่า เริ่มหนีภัยการสู้รบหลังถูกกองกำลังทหารของรับบาลเข้ากวาดล้างเข้าฝั่งไทยจำนวนหนึ่งแล้ว แหล่งข่าวชายแดนไทยพม่าตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก แจ้งว่า จากสถานการณ์การสู้รบคือทหารพม่าส่งกำลังเข้าปราบปรามชนกลุ่มน้อยและกดดันกลุ่มนักการเมืองที่เป็น สส. ฝ่ายค้าน จนทำให้ผู้อพยพชาวกระเหรี่ยงเริ่มหนีมาอยู่ฝั่งไทย


 


ในส่วน สส. พรรคการเมืองฝ่ายค้านค่ายประชาธิปไตย ทั้งกลุ่มของ นางอองซาน ซูจีหัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ NLD และพรรคพันธมิตรได้เริ่มหนีมาที่ชายแดนฝั่งไทยเช่นกัน โดยมีอดีตและนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยจำนวนกว่า 10 คน ได้หนีจากเมืองหลวงมาอยู่กับชนกลุ่มน้อยกระเหรี่ยงอิสระ KNU และกระเหรี่ยงพระยาตลอดจนกลุ่มไทยใหญ่


 


ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย ได้เห็นว่าหากอยู่ในพม่าต่อไปก็จะต้องถูกจำคุกหรือกักขังตลอดชีวิต และรัฐบาลพม่าเริ่มจะกำจัดนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยรุ่นเก่าที่ถูกมองว่าเป็นกลุ่มหัวโบราณ ที่ยึดมั่นและต้องการประชาธิปไตยโดยกำลังมองนักการเมืองใหม่เพื่อเข้ามาทดแทน


 


ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้น สำนักข่าว S.H.A.N (Shan Herald Agency for News) รายงานว่า ได้รับรายงานจากสำนักข่าว Mizzima ว่า เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา พันตรี อ่องยานทุน ผู้บัญชาการกองพันทหารราบเบาที่ 168 ของพม่าได้กล่าวกับชาวบ้านในหมู่บ้านเยโล หมู่บ้านท่าปาคี และหมู่บ้านโพลบอเดอ ในเมืองตองอู รัฐกะเหรี่ยงว่า หากไม่ย้ายออกจากหมู่บ้านไปอยู่ที่หมู่บ้านเพลสะโลตามคำสั่ง ทางกองทัพจะไม่รับรองความปลอดภัย โดยตลอดช่วงสามเดือนที่ผ่านมามีชาวกะเหรี่ยงกว่า 11,000 คนได้พากันอพยพมายังชายแดนไทย เนื่องจากถูกทหารพม่าบังคับย้ายถิ่นฐาน ทำลายบ้านเรือน ปล้นสะดม และสังหารอย่างเหี้ยมโหด


 


แหล่งข่าวจากกลุ่มฟรีเบอร์มาแรงเจอร์เปิดเผยอีกว่า เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา ทหารพม่าจากกองพันทหารราบเบาที่ 366 ในเมืองมู่ตรอ ได้ยิงนายซอแฮสแรแซ อายุ 17 ปี เสียชีวิตขณะทำไร่อยู่ใกล้กับหมู่บ้านพอมูเดอ และนายซอเกนูวา เพื่อนของนายซอแฮสแรแซถูกยิงได้รับบาดเจ็บ


 


คำแถลงการณ์ของผู้นำทีมบรรเทาทุกข์ฟรีเบอร์มาแรงเจอร์ ระบุว่า ทหารพม่าได้บังคับชาวบ้านโยกย้ายถิ่นฐานเพื่อต้องการยึดเป็นตั้งฐานของกองทัพ ซึ่งทำให้ชาวบ้านต้องประสบกับความยากลำบากในการดำรงชีวิตอย่างมาก เนื่องจากถูกยึดทรัพย์สินและบ้านเรือนของพวกเขาถูกเผาทำลาย ซึ่งขณะนี้พวกเขากำลังหลบซ่อนอยู่ตามป่าและพยายามหาทางข้ามเข้ามายังศูนย์อพยพในฝั่งไทย ขณะที่บางส่วนเลือกที่จะอยู่ในป่า เนื่องจากไม่อยากจะละทิ้งบ้านเรือนของตัวเอง


 


ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กองทัพสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทหารพม่ามักจะกวาดล้างกองกำลังกลุ่มชาติพันธ์ในช่วงฤดูแล้งเป็นส่วนใหญ่ แต่ในช่วงฤดูฝนปีนี้มีแนวโน้มว่า KNU อาจถูกทหารพม่าโจมตีเช่นเดียวกัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net