ทรท. โวยกระบวนการสอบสวนคดีช่วยพรรคเล็ก-ปชป. เรียกร้อง กกต. เอาผิดทักษิณ

ประชาไท—13 พ.ค 2549 พรรคการเมืองเคลื่อนไหวคึกคักหลังเอกสารการสอบสวนของคณะอนุกรรมการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถูกเผยแพร่ไปยังสื่อต่าง ๆ โดยมีเนื้อหาชัดเจนว่าพรรคไทยรักไทยมีความผิดกรณีจ้างพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านมา

 

โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้อ้างเอกสารดังกล่าวเรียกร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สอบสวนและเอาผิดต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทย

 

ขณะที่พรรคไทยรักไทยดาหน้าออกมาโต้แย้งกระบวนการสอบสวนของคณะอนุกรรมการฯ รวมทั้งตั้งคำถามต่อเอกสารสรุปผลการสอบสวนฯ ว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่

 

นอกจากนี้ ทั้ง 2 พรรคการเมืองใหญ่ต่างโต้ตอบและกล่าวหาซึ่งกันและกันว่ามีส่วนเกี่ยวพันกับการส่งพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง

 

ไทยรักไทยโต้ประชาธิปัตย์ เอี่ยวส่งพรรคการเมืองเล็กเหมือนกัน

วันที่ 12 พ.ค.เวลา11.20น.ที่พรรคไทยรักไทย ทีมคณะทำงานติดตามสถานการณ์การเมืองของพรรคไทยรักไทย นำโดย น.ต.ศิธา ทิวารี โฆษกพรรคไทยรักไทย ได้แถลงตอบโต้ผลการสอบสวนของคณะอนุกรรมการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ที่สรุปมีการว่าจ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้งว่า อนุกรรมการ กกต.ไม่ได้พิจารณาหลักฐานอื่นๆ ที่พรรคไทยรักไทยได้เคยส่งไปให้อาทิ วีซีดีของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่กล่าวกับ น.ส.ฐิติมา ภาวะสี ซึ่งนายสุเทพเคยนำมาเป็นพยานในตอนแรก

 

น.ต.ศิธากล่าวว่า สิ่งที่น่าสังเกตว่า ผลสรุปของอนุกรรมการ กกต.กลับมาโผล่อยู่ในเว็บไซต์ของผู้จัดการ ทั้งฉบับซึ่งกระบวนการตรวจสอบของอนุกรรมการ กกต.ไม่ใช่การตรวจสอบในเชิงลึก เป็นเพียงการฟังคำพยานแวดล้อมเท่านั้น ซึ่งพรรคไทยรักไทยจะส่งเอกสารวีซีดีพร้อมคำถอดเทประหว่างนายไทยกร พลสุวรรณ ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์กับนายวรรณวริทธิ์ ตันติภิรมย์ หัวหน้าพรรคชีวิตที่ดีกว่าซึ่งมีการเจรจากันที่ ร.ร.เดอะแกรนด์ ถนนรัชดาภิเษก เพื่อให้คณะอนุกรรมการของ กกต.พิจารณาอีกครั้ง

 

 "เนื่องจากขบวนการดังกล่าวเป็นการกระทำของพรรคการเมืองเก่าแก่ที่จ้างพรรคเล็ก เพื่อเป็นนกต่อกับพรรคไทยรักไทย แล้วให้พรรคเล็กไปทำความผิดต่างๆเช่นการแก้ไขข้อมูลของ กกต.แล้วพยายามโยงล่อให้คนทำผิดหานกต่อทางการเมือง ให้มีคนทำผิด โดยทำทีว่ามากินข้าวที่บริเวณหน้าพรรคไทยรักไทยแล้วได้รับเงินจากพรรคไทยรักไทย ทั้งที่ไม่รู้ว่าความจริงนั้นพรรคเล็กดังกล่าวได้รับเงินจากเลขาธิการพรรคการเมืองหนึ่งที่มีชื่อย่อ"ส"หรือไม่ "โฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าว

 

น.ต.ศิธากล่าวอีกว่า ทางพรรคได้มีวีซีดีพร้อมคำถอดเทปของนายไทยกรซึ่งเคยเป็นสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์แล้วลาออกมาตั้งพรรคเล็กเพื่อกล่าวหาพรรคไทยรักไทย โดยนายไทกรได้รวบรวมคนของพรรคเล็กมากล่าวหาพรรคไทยรักไทยเมื่อกระทำการเสร็จแล้วก็กลับไปเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง โดยบุคคลดังกล่าวมีโอกาสจะลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ด้วยเพราะสมัครเป็นสมาชิกมา 2 เดือนแล้ว โดยในวีซีดีระบุชัดว่าถ้าคนของพรรคเล็กไปติดต่อกับคนในระดับต่างๆ ของพรรคไทยรักไทยจะได้รับเงินตอบแทนตามลำดับความสำคัญของบุคคล

 

ต่อคำถามว่าที่ระบุว่าที่พรรคไทยรักไทยติดกับดักแสดงว่าคนของพรรคไทยรักไทยได้กระทำผิดจริงใช่หรือไม่ น.ต.ศิธากล่าวว่า ไม่ใช่เพียงแต่อนุกรรมการของ กกต.พิจารณาจากพยานแวดล้อมคือแม่ค้าที่อยู่หน้าพรรคไทยรักไทยเท่านั้นแล้วนำข้อมูลไปเชื่อมโยงเป็นตุเป็นตะ

 

เมื่อถามว่าสังคมเชื่อผลสรุปของคณะอนุกรรมการ กกต.ไปแล้วเป็นห่วงว่าจะกระทบฐานเสียงของพรรคไทยรักไทยหรือไม น.ต.ศิธา กล่าวว่าขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้อในการพิจารณาของ กกต.กรุณานำเข้ามูลที่ให้ใหม่ไปพิจารณาด้วย จากหลักฐานเลขาธิการพรรคการเมืองเก่าแก่พร้อมจะให้เงินกับผู้สมัครพรรคเล็กที่มาหลอกล่อพรรคไทยรักไทย 4-5 แสนบาทเท่ากับว่าเป็นการขัดกับคำพูดของเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ที่ระบุว่าไม่มีเงิน

 

โฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวอีกว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ยอมส่งตัวแทนไปหารือกับ กกต.เพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง แสดงให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ดำเนินการตามแนวทางสมานฉันท์ ทำให้พรรคไทยรักไทยไม่แน่ใจว่าการเลือกตั้งครั้ง ใหม่ พรรคไทยรักไทยจะเป็นพรรคเดียวที่ส่งผู้สมัครอีก หรือไม่และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ต้องการเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่ต้องเลือกตั้งใช่หรือไม่

 

ด้านนายจตุพร พรหมพันธ์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวเสริมว่า ที่ตนไม่ได้นำวีซีดีออกมาเปิดเผยแก่สื่อมวลชนเพราะต้องการดูปฏิริยาของนายสุเทพและนายไทยกร ซึ่งเป็นไปตามคาดที่ต่างคนต่างปัดป้องต่างปฏิเสธว่าไม่รู้จักกัน โดยเฉพาะนายสุเทพ บอกว่านายไทยกรเพิ่งมาสมัคร เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่ได้ดูแลนายไทยกร ทั้งที่นายไทยกร เป็นตัวละครที่นายสุเทพนำมาแสดงตั้งแต่ต้น

 

 "ขอถามว่า หากนายสุเทพยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับนายไทยกรเหตุใด จึงไม่แจ้งความดำเนินคดีกับนายไทยกร ผมขอท้าให้มีการตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ของนายสุเทพกับนายไทยกรระหว่างเกิดเรื่องจะเห็นว่ามันเป็นกระบวนการทำลายที่ต้องการล้มการเลือกตั้งและวันนี้จุดประสงค์คือต้องการยุบพรรคไทยรักไทย"

 

นายจตุพร ย้ำ พร้อมขอเรียกร้องให้ กกต.หาคนทำผิดว่าใครเป็นคนนำเอกสารของอนุกรรมการมาเผยแพร่เพราะเอกสารดังกล่าวเหมือนเป็นการเปลี่ยนหลักฐานร้องเรียนของพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นขอสรุปโดยขอให้กกต.เข้ามาคลี่คลายและทำข้อเท็จจริงเรื่องนี้ให้เกิดความชัดเจนโดยเร็ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ตนมีรายชื่อของบุคคลทีแอบนำเอกสารการสอบสวนมาเปิดเผยโดยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ3นาย ยศพันตำรววจเอก,พันตำรวจโท และร้อยตำรวจเอกที่อยู่ในคณะอนุกรรมการชุดนี้ ซึ่งขณะนี้ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดแต่จะรอให้เขาออกมาแสดงตัว โดยจะขอให้เวลาอีก 2-3วัน

 

ทีมกฎหมาย ทรท. โต้ อนุกรรมการฯ ดำเนินการสอบสวนเข้าข่ายไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ที่พรรคไทยรักไทย นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล คณะทำงานด้านการเมืองและกฎหมาย แถลงภายหลังการประชุมว่า ได้มีการพิจารณาเรื่องรายงานของอนุกรรมการสอบสวนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง( กกต.)ที่เผยแพร่ทางสื่อโดยได้พิจารณาแล้ว มีความสงสัยว่า เป็นเอกสารของอนุกรรมการ กกต.ที่แท้จริงหรือไม่ และหากเอกสารนั้นเป็นเอกสารจริง แต่รูปแบบดำเนินการค่อนข้างไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะกระบวนการสืบสวนและสอบสวนของ กกต.ตั้งขึ้นเพื่อสอบสวนคำร้องใดที่เกี่ยวข้องนั้น พ.ร.บ.คณะกรรมการเลือกตั้งมาตรา19,40-44จะต้องให้โอกาสผู้ร้องและผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจง เพื่อแก้ข้อกล่าวหา เป็นหนังสือและชี้แจงเป็นถ้อยคำ

 

นายวิชิต กล่าวว่า โดยเฉพาะพรรคไทยรักไทยได้รับความเสียหาย จากการที่รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทยทั้ง พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ,นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ถูกพาดพิงว่ามีการจ่ายเงินพรรคเล็ก ซึ่งกำลังเตรียมข้อมูลเอกสารไปชี้แจงข้อกล่าวหาตรงนี้ โดยแกนนำพรรคที่ถูกกล่าวหาภายในสัปดาห์หน้าจะออกมาชี้แจงในประเด็นต่างๆ

 

 "วันที่ 15 พ.ค.นี้ฝ่ายกฎหมายของพรรคฯ จะทำหนังสือไปถึง กกต.เพื่อขอให้ทำหนังสือยืนยันว่าเอกสารที่เผยแพร่ทางสื่อ เป็นเอกสารของอนุกรรมการจริงหรือไม่ หากเป็นจริง ก็ขอให้ กกต.พิจารณาวินิจฉัยให้ความเป็นธรรมว่ามีการสืบสวนสอบสวนถูกต้องตามกฎหมาย กกต.หรือไม่และขอให้ตรวจสอบเอกสารในการรายงานที่เป็นความลับออกมาสู่สาธารณชนได้อย่างไร "นายวิชิต กล่าว

 

นายวิชิต กล่าวด้วยว่า พรรคไทยรักไทยก็พร้อมที่จะไปหารือกับพรรคอื่น 30กว่าพรรค และพรรคใดจะเสนออยู่ในกรอบ 60 วัน เราก็ยินดีและตนยังมองว่ายังไม่สายที่พรรคฝ่ายค้านจะเปลี่ยนใจไปร่วมหารือกับ กกต.เพื่อให้ประชาธิปไตยเดินต่อไปได้เพราะหากไม่ไปก็เป็นเรื่องไม่สมควร

 

ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง คณะทำงานด้านการเมืองฯ กล่าวเสริมว่า จากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญทุกคนอ่านก็เข้าใจโดยเฉพาะที่ระบุถึงการเลือกตั้งให้องค์กรที่เกี่ยวการกำหนดวันเลือกตั้งไปดำเนินการปรึกษาหารือเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งภายใน 60วันนั้น ทุกพรรคการเมืองได้พูดว่าจะเคารพจะปฎิบัติตาม แต่ล่าสุด 3 พรรคการเมืองใหญ่ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยและพรรคมหาชน จะไม่ปฎิบัติตาม เมื่อกกต.เป็นคนเชิญให้ปรึกษาหารือในการกำหนดวันเลือกตั้งในวัน15 พ.ค.นี้

 

 "เมื่อพรรคการเมืองไม่ปฎิบัติตาม ถือว่าส่อไม่ปฎิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลหรือไม่ เพราะกรณียุบสภาหรือครบวาระ ต้องการให้มีสภาโดยเร็ว เพราะขณะนี้พรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาลรักษาการ หากอยู่นานก็จะมีผลเสีย แต่พรรคการเมืองยังเล่นเกมดึงดัน ซึ่งหากยื้อเวลาเพื่อปลดล็อค 90วัน ถือเป็นวีธีการของศรีธนญชัย หากดื้อดึงต่อไปจะทำให้ประเทศชาติเสียหาย ซึ่งหากหวังอย่างนั้น ก็บอกเลยว่าให้แห้งตายกันไปเถอะโดยเฉพาะลูกพรรคประชาราช คนใกล้ชิดนายเสนาะ เทียนทองก็ไปเดินตามหลังนายกฯ อยู่ไม่มีใครจะย้ายพรรคไปอยู่กับนายเสนาะแล้ว และเรียกร้องให้ทุกพรรคเข้าสู่วิถีทางแห่งกฎหมาย เพื่อให้มีการปฎิรูป เพื่อผ่าทางตัน เพราะทุกพรรคไม่มีอภิสิทธิ์ ตนเชื่อว่าพรรคไทยรักไทยพร้อมในการเลือกตั้งและเชื่อว่าไม่มีใครย้ายออกจากพรรค "ร.ท.กุเทพ กล่าว ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ประมุขของ 3 ศาล แนะนำให้ กตต.ลาออกนั้น ตนมองว่าความเห็นดังกล่าวไม่อยู่ในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่เป็นความเห็นของตัวบุคคลเท่านั้น แต่ในกรณีเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญไม่ไปร่วมหารือการกำหนดวันเลือกตั้งกับ กกต.นั้น ท่านก็มีเหตุผลที่ชัดเจน เราก็ไม่ได้ว่าอะไร

 

ปชป.จี้ กกต.ตั้งข้อหาหัวหน้าพรรคทรท.

นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ขณะนี้ กกต.กำลังละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากคณะอนุกรรมการสอบสวนเรื่องการว่าจ้างพรรคเล็ก ส่งผลสรุปไปแล้วถึง 2 ครั้ง แต่กกต.กลับนิ่งเฉยไม่ยอมดำเนินการ จึงเรียกร้องให้ กกต.เร่งตั้งข้อหาหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และพลเอก ธ. และพลเอกหรือพลโท ซึ่งเป็นข้าราชการประจำโดยเร็ว เพราะข้อกล่าวหาดังกล่าว มีโทษถึงการยุบพรรค ที่จะเป็นผลดีต่อการเลือกตั้งครั้งหน้านี้

 

ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่ กกต. ยืนยันที่จะเดินหน้าจัดการเลือกตั้งว่า กกต.หมดคุณสมบัติในการปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว เพราะถูกฟ้องหลายคดี จึงควรทบทวนและแสดงความรับผิดชอบ ตั้งแต่วันนี้ ดีกว่าที่ศาลปกครอง หรือศาลฎีกา จะตัดสินเป็นคดีอาญา

 

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงตอบโต้พรรคไทยรักไทยว่า โฆษกพรรคไทยรักไทยนั้นกระทำไม่สมควรที่ออกมาแสดงบทบาทปกป้อง กกต. มากกว่าการทำหน้าที่ของโฆษกพรรค และนายเทพไท ยังชี้แจงถึงที่มาของทุนหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ที่ยื่นกับ กกต. ในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ว่า ทุกขั้นตอนของพรรคต้องรายงานกับ กกต. อยู่แล้ว ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ และ นายทุนของพรรคประชาธิปัตย์ในการจัดกิจกรรมทางการเมืองนั้นมีหลายคน ไม่ใช่ได้มาจากการหลีกเลี่ยงภาษี หรือการทุจริตซีทีเอ็กซ์ ทุจริตลำไย หรือการทุจริตจัดซื้อรถพยาบาล

 

โฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ ยังตั้งข้อสังเกตที่มีข่าวลือว่ามีการล๊อกผลวันเลือกตั้งในวันที่ 9 หรือ 16 กรกฎาคมนี้ และพรรคไทยรักไทยได้บอกให้ลูกพรรค เริ่มต้นหาเสียงแล้ว ว่า ที่ออกมาเปิดเผยนั้นเพราะอยากให้สังคมรับทราบ และอยากให้ประชาชนจับตาการกำหนดวันเลือกตั้งของ กกต. ที่จะประกาศในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ด้วย

 

ที่มา: เว็บไซต์คมชัดลึกและเว็บไซต์แนวหน้า

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท