เนื่องจากระบอบ ปตท. เป็นการจัดวางโครงสร้างนโยบาย กฎหมาย กฎ กติกา รวมทั้งบุคคลทั้งในแวดวงธุรกิจ การเมือง ข้าราชการ เข้าไปคุมธุรกิจพลังงานที่มีสถานะ กึ่งรัฐกึ่งเอกชน เพื่อการได้รับประโยชน์จากทั้ง 2 สถานะนั้น และหาช่องว่างหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและถ่วงดุลทั้ง 2 สถานะนั้นได้ด้วย
โดยประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องของระบอบ ปตท. ซึ่งเป็นรูปธรรมด้านเศรษฐกิจของระบอบทักษิณ คือ 1.การที่ ปตท. มีธุรกิจหลัก 3 ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของประชาชน คือ ก๊าซ ไฟฟ้า และน้ำมัน 2.การใช้กลไกกฎหมาย คือ พรบ. ทุนรัฐวิสาหกิจ เป็นใบเบิกทางหรือเช็คเปล่าที่ให้รัฐบาลสามารถแปรรูปรัฐวิสาหกิจโดยไม่ต้องผ่านกลไกการตรวจสอบ เช่น ไม่ต้องผ่านกระบวนการทางรัฐสภา
3.การใช้กลไกตลาดหุ้น เป็นห้องมืดในการทำปฏิกิริยาใหม่ เพื่อเกิดผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม และผลักภาระความเสี่ยงมาให้ประชาชน และเป็นกลไกที่ทำให้เกิดสิ่งล่อใจต่อข้าราชการ และข้าราชการการเมือง ไม่ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของรัฐอย่างเพียงพอ เพราะอีกด้านหนึ่งได้รับผลตอบแทนในทั้งในรูปของค่าตอบแทน และการเป็นเจ้าของหุ้น ขององค์กรที่แปรรูปในตลาดหุ้น และ 4.การออกแบบโครงสร้างให้องค์กรเป็นกึ่งรัฐกึ่งเอกชน จนกลายเป็นการสร้างเครือข่ายประสานงานกันระหว่างนักธุรกิจ นักการเมือง และข้าราชการ
ทั้งนี้ เวทีดังกล่าว จะเริ่มในวันที่ 16 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ และจัดต่อเนื่องในวันที่ 21, 28 พฤษภาคม และ 4 มิถุนายน 2549 ที่คณะเศรษฐศาสตร์และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีวิทยากร เช่น นาย
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)