Skip to main content
sharethis

ประชาไท—18 พ.ค. 2549 วันที่ 17 พ.ค. พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง  (กกต.)  เปิดเผยผลการประชุม กกต.ว่าได้นำรายงานผลการสืบสวนสอบสวนของคณะอนุกรรมการกรณีพรรคใหญ่จ้างพรรคการเมืองเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง ที่มีนายนาม ยิ้มแย้ม เป็นประธาน เข้าพิจารณา โดยที่ประชุมได้พิจารณาแล้วเห็นว่าในภาพรวมของการสืบสวนสอบสวนยังไม่สมบูรณ์ ยังไม่ได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องจนครบทุกปาก และมีบางประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน จึงให้อนุกรรมการไปดำเนินการสอบสวนเพิ่มให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน


      


ส่วนกรณีที่ กกต.สอบปากคำพรรคเล็กและได้ข้อมูลว่าพรรคประชาธิปัตย์จ้างพรรคเล็กเพื่อล้มการเลือกตั้ง รวมทั้งมีการร้องเรียนจากพรรคไทยรักไทยให้ กกต.ดำเนินการเอาผิดพรรคประชาธิปัตย์นั้น พล.ต.อ.วาสนา กล่าวว่า ได้มอบให้เลขาธิการ กกต.ไปดำเนินการ ว่าจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนหรือดำเนินการอย่างใดหรือไม่


 


ส่วนกระแสกดดันต่างๆให้ลาออกขณะนี้นั้น ความจริงก็เบื่อหลายๆ อย่า ทั้งปัจจัยภายในและภายนอก แต่ที่ยังไม่ลาออกขณะนี้ก็เพราะยังติดเรื่องของการจัดทำคำวินิจฉัยเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นและการเลือกตั้ง ส.ส.ใหม่ แม้ศาลจะสั่งให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ แต่ กกต.ได้ประกาศรับรองไปแล้ว และก่อนการประกาศรับรองก็ได้พิจารณาคำร้องต่างๆ  ซึ่งต้องเขียนคำวินิจฉัย โดยทั้งหมดค้างอยู่ประมาณ 500 เรื่อง ซึ่งคาดจะแล้วเสร็จไม่เกิน 1 เดือน


      


นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวกรณีมีข่าวว่ารัฐบาลขอเลื่อนการกำหนดวันเลือกตั้งที่เดิมกำหนดไว้ในวันที่ 22 ต.ค.ว่า ไม่ใช่ว่ารัฐบาลขอไป เรื่องนี้เป็นอำนาจของ กกต.ที่พูดในช่วงเช้าว่าหากกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 22 ต.ค.อาจมีปัญหาได้ เพราะตรงกับวันถือบวชของชาวมุสลิม หากมีการจัดเลี้ยงงานถือบวช ก็จะขัดกฎหมายเลือกตั้งได้ และในวันเลือกตั้งต้องใช้มัสยิดเป็นหน่วยเลือกตั้งด้วย และขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการอะไรเกี่ยวกับการออกพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดวันเลือกตั้งทั้งสิ้น


 


ด้านวุฒิสภา หลังจากที่คณะที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของนายสุชน ชาลีเครือ ประธานวุฒิสภา ได้มีข้อสรุปกันว่าจะทำการยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่าวุฒิสภาจะสามารถดำเนินการสรรหา กกต. ที่ว่างลง 2 ตำแหน่งตามแนวทางของรัฐธรรมนูญมาตรา 138 (3) ที่เปิดช่องให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาสรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง กกต.ได้หรือไม่  และนายสุชนได้ประสานไปยังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ปรากฎว่าทางตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่เห็นด้วย


   


โดยระบุว่าหากส่งเรื่องมาศาลรัฐธรรมนูญมีแนวโน้มที่จะไม่รับสูง เนื่องจากไม่เข้าองค์ประกอบเป็นความขัดแย้งระหว่างองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ประกอบกับท่าทีของที่ประชุมประธาน 3 ศาลที่เห็นตรงกันว่าไม่ยอมรับบทบาทของ กกต.ที่เหลืออีก 3 คน จึงไม่ต้องการส่งคนเข้าไปเพิ่มให้ครบ 5 คน แต่ต้องการให้ กกต. 3 คนออกจากตำแหน่งไปก่อน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net