Skip to main content
sharethis





พ่อแม่"ครูจูหลง ปงกันมูล" หรือ "ครูจุ้ย"


 


ห้องไอซียู โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้มีโอกาสต้อนรับเหยื่อแห่งความรุนแรงในเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกครั้ง ไม่กี่ชั่วโมงถัดมา พ่อ แม่ และญาติอีก 1 คน ของครูสาวก็เดินทางจากจังหวัดเชียงรายบ้านเกิดของครูสาวก็มาถึง


 


 


 


ห้องไอซียู โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้มีโอกาสต้อนรับเหยื่อแห่งความรุนแรงในเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกครั้ง


 


คราวนี้เป็นวาระของครูแห่งโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ หมู่ 4 ตำบลเฉลิม อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ที่ถูกชาวบ้านในส่วนของสตรีและเด็กกว่า 100 คน บุกโรงเรียนจับเป็นตัวประกัน เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2549


 


เป็นการบุกจับครูชาวไทยพุทธ ที่สอนอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ 2 คน โดยมีเป้าหมายชัดเจน เพื่อต่อรองแลกกับ 2 ผู้ต้องหาคดีฆ่านาวิกโยธิน ที่สถานีรถไฟบ้านลาโล๊ะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2549


 


1 ใน 2 ครูสาวที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ถูกทุบตีได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านท้องที่เกิดเหตุ บุกเข้าไปนำตัวออกมา นั่นคือ "ครูจูหลง ปงกันมูล"


 


เป็นครู "ครูจูหลง ปงกันมูล" หรือ "ครูจุ้ย" ของลูกศิษย์ ที่ถูกโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ส่งตัวฝ่าความมืดในยามดึกดื่น มาถึงโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เวลา 03.00 น. ของวันที่ 20 พฤษภาคม 2549


 


ไม่กี่ชั่วโมงถัดมา พ่อ แม่ และญาติอีก 1 คน ของครูสาวก็เดินทางจากจังหวัดเชียงรายบ้านเกิดของครูสาว ก็มาถึงโรงพยาบาลสงขลานครินทร์


 


"คุณแม่คำมี ปงกันมูล" ในวัย 59 ปี


 


"พ่อสน ปงกันมูล" ในวัย 61 ปี บอกว่า


 


"ทีแรกไม่นึกว่าอาการจะหนักมาก แต่พอดูผลเอกซเรย์ จึงได้รู้ว่ากะโหลกแตก มีเลือดคั่งในสมอง สมองบวม แขนหัก ม้ามแตก" เป็นคำบอกเล่าจากปากของ "พ่อสน ปงกันมูล" ผู้เป็นพ่อวัย 61 ปีของครูสาว


 


ขณะที่ "แม่คำมี ปงกันมูล" หญิงชราวัย 59 ปี พูดด้วยเสียงสั่นเครือว่า ได้แต่ภาวนาว่าอย่าเป็นอะไรมาก


 


"หวังว่าเขาจะหายเจ็บ ถ้าหายเจ็บเมื่อไหร่ จะให้เขากลับไปอยู่บ้าน" เป็นความตั้งใจของผู้เป็นพ่อ ที่กังวลใจมาตลอด นับตั้งแต่ลูกสาวมาเป็นครูอยู่ในพื้นที่ที่กำลังลุกเป็นไฟ


 


"ครูจุ้ย" เรียนจบคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง เมื่อปี 2545 หลังจากเรียนจบเข้ามาทำงานวาดภาพการ์ตูน ที่กรุงเทพมหานคร จากนั้นรวมกลุ่มกับเพื่อนอีก 3 คน เดินทางสู่ภาคใต้ ทำงานรับเหมาวาดรูปตามวัด ตามโรงเรียนต่างๆ แถวอำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา


 


เป็นคำบอกเล่าจาก "แม่คำมี ปงกันมูล"


 


"แม่บอกกับจุ้ยว่า งานรับเหมาวาดรูปแบบนั้นไม่มั่นคง พอปี 2548 มีการเปิดสมัครสอบบรรจุเป็นข้าราชการครูที่จังหวัดนราธิวาส จุ้ยกับเพื่อนเลยไปสมัคร ผลสอบออกมาจุ้ยได้ลำดับที่ 1 ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการครู ที่โรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2548….


 


"สอนแค่ 1 เทอมกับ 7 วัน ก็เกิดเรื่อง....."


 


เสียงบอกเล่าของ "แม่คำมี ปงกันมูล" สะดุดหายไปกับความหม่นเศร้าที่ปรากฏผ่านแววตาของหญิงชรา ผู้ให้กำเนิดครูสาว ก่อนจะเริ่มลำดับเหตุการณ์ย้อนรอยกลับไปยังอดีตเมื่อไม่นานอีกหน


 


"ตอนที่รู้ว่าเขาสอบบรรจุเป็นข้าราชการได้ ทางบ้านก็ดีใจ เพราะได้งานเป็นหลักแหล่งมั่นคง แต่แม่ก็อดถามไม่ได้ว่า ไปทำงานที่นั่นไม่กลัวบ้างหรือ จุ้ยก็บอกว่าไม่เป็นไร โรงเรียนที่จุ้ยสอนไม่ใช่พื้นที่อันตราย...


 


"อยู่ได้ซักพัก จุ้ยเล่าว่า ชาวบ้านที่นี่ใจดีมาก นิสัยดี เด็กๆ ก็รักจุ้ย จุ้ยก็รักเด็กๆ รักโรงเรียน โรงเรียนนี้อยู่ห่างจากที่พักของจุ้ย 12 กิโลเมตร แม่เลยถามว่าไม่อยากย้ายมาสสอนใกล้ๆ ที่พักบ้างหรือ จุ้ยบอกว่าถ้าจะย้ายต้องสอนไปก่อน 2 ปี ตอนนี้จุ้ยไม่อยากย้ายไปไหนหรอก เพราะกำลังวาดรูปที่รั้วโรงเรียน จุ้ยกะว่าจะวาดให้รอบโรงเรียนเก็บไว้เป็นผลงาน..."


 


ก่อนเกิดเหตุ "แม่คำมี ปงกันมูล" ลงไปเยี่ยมลูกสาวคนนี้ และมีโอกาสอยู่ด้วยกัน 20 วัน หลังจากกลับไปเชียงรายได้ 7 วัน ก็เกิดเหตุร้ายกับลูกสาว


 


ลูกคนเดียวที่พ่อ - แม่ วาดหวังจะฝากผีฝากไข้ ลูกสาวคนเดียวที่ผู้เป็นพ่อต้องจากบ้านไปเป็นยามที่กรุงเทพมหานคร เพื่อหาเงินมาส่งให้เรียนจนจบปริญญาตรี


 


ลูกสาวคนนี้นี่แหละ ที่เพิ่งกู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครู 60,000 บาท มาจ่ายหนี้ให้กับทางบ้าน


 


เสียงบอกเล่าปนสะอื้นของ "แม่คำมี ปงกันมูล" และเกร็ดน้ำตาคลอหน่วยของ "พ่อสน ปงกันมูล" บ่งบอกความรักความหวังที่ พ่อ - แม่ คู่นี้ มีต่อลูกสาว "ครูจูหลง ปงกันมูล"


 


ผู้ตกเป็นอีกหนึ่งเหยื่อของความรุนแรง ณ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่บัดนี้ทอดร่างไร้สติอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลสงขลานครินทร์


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net