วันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม 2006 22:03น.
ปกรณ์ พึ่งเนตร, ศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
"ผศ.ชิดชนก ราฮิมมูลา" นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (มอ.ปัตตานี) มองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ท้าทายยุทธศาสตร์ของภาครัฐ เพราะเป็นเรื่องของพลังความเชื่อที่มีมากกว่าพลังของข้อเท็จจริงในพื้นที่
"ดิฉันไม่ได้มองว่า เรื่องนี้เป็นความล้มเหลวของภาครัฐ เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร หรือฝ่ายปกครอง ก็ได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว ทั้งในด้านการข่าวและงานมวลชน ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นคิดว่าคงคุมไม่อยู่จริงๆ โดยมีมูลเหตุมาจากเงื่อนไขที่รัฐสร้างไว้ในอดีต ทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจเจ้าหน้าที่และฝังใจมาอย่างยาวนาน เมื่อสิ่งเหล่านี้ถูกปลุกขึ้นในสถานการณ์ปัจจุบัน ส่งผลให้พลังของความเชื่อมีมากกว่าข้อเท็จจริง"
ผศ.
"บางครั้งตำรวจ ทหารก็ไปจับผู้ต้องหาตัวจริง ซึ่งมีหลักฐานว่ากระทำความผิดจริงๆ แต่เมื่อมีกลุ่มคนเข้าไปยุยงว่าไม่ใช่ ก็จะกลายเป็นเรื่องขึ้นมาทุกครั้ง เพราะความเชื่อมีพลังมากกว่าความจริง"
"เหมือนกับข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ ที่มีคนเก็บวัตถุประหลาดจากฟากฟ้า" ผศ.ชิดชนกยก ตัวอย่าง และว่า "ทั้งที่จริงๆ แล้วมันคือเจลลดไข้ที่ใช้กับเด็ก แต่คนเราถ้าเชื่อแล้ว การจะไปลบล้างความเชื่อนั้นมันยาก เช่นเดียวกับในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ความเชื่อมันมีพลังมากกว่าความจริง ฉะนั้นวิธีแก้ตรงนี้จะอาศัยการทำความเข้าใจอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ"
ผศ.
"ปัจจุบันภาครัฐเน้นทำความเข้าใจผ่านการพัฒนาในรูปแบบต่างๆ ซึ่งมันฉาบฉวยมาก และใช้เวลานาน จริงๆ แล้วการร่วมพัฒนากับชาวบ้านมันก็ดี แต่ต้องมีวิธีที่รุกไปกว่านั้น ที่สำคัญเมื่อมีเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่รัฐทำดีและประสบความสำเร็จในหลายพื้นที่ จุดนี้ต้องนำมาขยายผลให้ปรากฏชัดเจน เพื่อให้ข้อเท็จจริงกับความเชื่อได้ดุล" ผศ.
อย่างไรก็ดี มุมมองของ ผศ.ชิดชนก ดูจะให้คะแนนกับภาครัฐไม่น้อย ขณะที่มุมของผู้นำศาสนาในพื้นที่เห็นว่า รัฐอาจต้องทำงานมวลชนมากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของรัฐต่อประชาชน
"อับดุลเราะห์มาน อับดุลสมัด" ประธานศูนย์ประสานงานคณะกรรมการอิสลาม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และอดีตประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเมื่อได้ทราบข่าวชาวบ้านหลายร้อยคนในพื้นที่ตำบลเฉลิม อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส จับครู 2 คนเป็นตัวประกัน เพื่อต่อรองให้เจ้าหน้าที่รัฐปล่อยตัว 2 ผู้ต้องหาซึ่งถูกทางการนำกำลังเข้าจับกุมจากตำบลเฉลิมในวันเดียวกัน
"ผมคิดไม่ออกเหมือนกันว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ มันแปลกมากเลย เพราะสมัย 20 ปีที่แล้ว คนที่จะทำแบบนี้คือคนร้าย เขาจะจับชาวบ้านไปเป็นตัวประกัน แล้วเรียกเงิน เรียกค่าไถ่ แต่ครั้งนี้ฝ่ายที่ทำกลับเป็นชาวบ้านเอง"
อับดุลเราะห์มาน ตั้งข้อสังเกตว่า มูลเหตุของเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้น น่าจะมาจากนโยบายของภาครัฐบางประการที่ทำให้ชาวบ้านไม่เชื่อถือ และรู้สึกขาดที่พึ่ง
"อาจจะเป็นการใช้ พ.ร.ก.(พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548) หรือเปล่า เพราะเมื่อชาวบ้านไม่เชื่อถือการกระทำของเจ้าหน้าที่ และรู้สึกไม่มีที่พึ่งเสียแล้ว ชาวบ้านก็จะเครียด และไม่มีทางออกอื่น นอกจากจับเอาประชาชนด้วยกันเป็นตัวประกันบ้าง เพื่อเป็นเงื่อนไขให้ภาครัฐปล่อยตัวคนที่เขาคิดว่าไม่ผิด"
อับดุลเราะห์มาน ชี้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงประสิทธิผลการทำงานด้านมวลชนของฝ่ายรัฐ ซึ่งแม้จะยอมรับว่า หลายเรื่องทำได้อย่างดี แต่อีกหลายเรื่องก็ยังไม่ได้ผลเช่นกัน
"ผมว่างานมวลชนน่าจะต้องหาแนวทางใหม่ๆ บ้าง ต้องพูดคุยกับผู้นำต่างๆ พูดคุยกับชาวบ้านและผู้นำท้องถิ่น เพื่อหาแนวทางร่วมกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป จะป้องกันอย่างไรไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ผมคิดว่านโยบายป้องกันสำคัญกว่า และดีกว่าจะไปแก้ไขปัญหากันทีหลัง" อดีตประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาสสรุป