"เกิดอะไรขึ้นที่บ้านกูจิงลือปะ หมู่ที่ 4 ตำบลเฉลิม อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2549"

 

เป็นคำถามจากผู้สนใจติดตามสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้

 

เป็นคำถามที่สืบเนื่องจากความรุนแรง ผ่านภาพการทำร้าย 2 ครูสาว แห่งโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ อันที่มีสาเหตุมาจากการจับกุม 2 ผู้ต้องหา ในคดีฆ่า 2 นาวิกโยธิน ที่สถานีรถไฟบ้านลาโล๊ะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2549

 

ด้วยเพราะการจับกุมผู้ต้องหาในคดีความมั่นคง ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง น้อยครั้งที่จะเกิดการตอบโต้รุนแรง และทุกครั้งที่ชาวบ้านใช้ความรุนแรงตอบโต้ มักจะมีเหตุไม่ปกติเกิดขึ้นก่อนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการกราดยิงร้านน้ำชา ที่นำมาสู่การฆ่า 2 นาวิกโยธิน ที่ตันหยงลิมอ หรือการทำร้ายตำรวจ 2 นายเสียชีวิต เพราะคิดว่าเป็น "โจรนินจา" เมื่อหลายปีก่อน

 

ขณะที่สภาพการจับกุม 2 ผู้ต้องหา "นายอับดุลการีม มาแต" อายุ 24 ปี กับ "นายมูหามะสะแปอิง มีลี" อายุ 32 ปี ที่บ้านเลขที่ 47 บ้านกูจิงลือปะ ในช่วงเช้าวันที่ 19 พฤษภาคม 2549 ยังไม่พบความผิดปกติ หรือปฏิบัติการที่ไม่เหมาะสมของฝ่ายเจ้าหน้าที่

 

หรือนี่เป็นปรากฏการณ์ความรุนแรงที่ยกระดับขึ้นมาอีกขั้น เป็นขั้นที่ชาวบ้านในพื้นที่สีแดง พร้อมแล้วที่จะลุกขึ้นมาปฏิบัติการตอบโต้เจ้าหน้าที่ในทุกการจับกุม

 

เปิดโฉม 8 สมาชิกก่อความไม่สงบ

ถ้าหากโฟกัสเฉพาะ "บ้านกูจิงลือปะ" เพื่อค้นหาคำตอบ จะพบว่าข้อมูลของฝ่ายข่าวราชการยืนยันว่า บ้านกูจิงลือปะ เป็นพื้นที่การเคลื่อนไหวของผู้ก่อความไม่สงบ "กลุ่มเมอร์เดกา" หรือกลุ่มเอกราช

 

สมาชิกของกลุ่มเมอร์เดก้า ในหมู่บ้านแห่งนี้มี 8 คน ในจำนวนนี้ 2 คน รับหน้าที่เป็นมือปืน อีก 1 คน เป็นมือวางระเบิด

 

2 คน ที่ถูกจับกุม คือ "นายอับดุลการีม มาแต" กับ "นายมูหามะสะแปอิง มีลี" เป็นคนนอกหมู่บ้าน ที่เข้ามาอยู่ภายใต้การดูแลของคนในพื้นที่ โดย "นายมูหามะสะแปอิง มีลี" มาได้ภรรยาเป็นคนบ้านกูจิงลือปะ นาม "นางสาวการีมะ มะสาและ"

 

รับสัญญาณอันตราย

อันที่จริงมีสัญญาณอันตรายมาก่อนหน้านี้แล้ว "เพื่อนครู" รายหนึ่งเล่าว่า "นางสาวจูหลิง ปงกันมูล" หรือ "ครูจุ้ย" เคยถูกคุกคามมาแล้วอย่างน้อย 1 ครั้ง จากฝีมือวัยรุ่นคนหนึ่ง

 

วัยรุ่นคนนั้น เข้าไปทุบรถจักรยานยนต์ของ "นางสาวจูหลิง ปงกันมูล" แต่มีครูโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ เข้าไปรับสมอ้างว่า เป็นรถของตัวเอง ไม่ใช่รถของ "นางสาวจูหลิง ปงกันมูล" มีผลรถจักรยานยนต์คันนั้น ได้รับความเสียหายแค่เพียงเล็กน้อย

 

จากเหตุการณ์นั้น ส่งผลให้ "นางสาวจูหลิง ปงกันมูล" คิดจะขึ้นรถรับเหมาไป - กลับโรงเรียนเช่นเดียวกับครูคนอื่นๆ โดยจะเริ่มนั่งรถรับเหมา ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม 2549

 

"ปกติครูจูหลิงจะขับรถจักรยานยนต์คนเดียวไป - กลับโรงเรียนทุกวัน เวลากลับก็ประมาณ 17.00 น. ขณะที่คนอื่นจะกลับบ้าน ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เศษ เหตุที่ครูจูหลิงกลับบ้านช้า ทั้งที่บ้านอยู่ห่างจากโรงเรียนถึง 12 กิโลเมตร ก็เพราะต้องวาดรูปตรงบริเวณบันไดอาคารเรียน ทุกเย็นหลังเลิกเรียน" เพื่อนครูรายหนึ่งบอก

 

ทว่า นั่นก็ไม่ใช่สัญญาณเตือน "นางสาวจูหลิง ปงกันมูล" เป็นสัญญาณแรก

 

ด้วยเพราะสัญญาณเตือนภัยครูสาวหน้าใหม่ที่ชื่อ "นางสาวจูหลิง ปงกันมูล" เป็นสัญญาณแรก น่าจะเป็นเสียงของ "นายสุรัตน์ เอกธนานนท์" อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ

 

ผู้อำนวยการฯ ยังหนี

ขณะที่ "นางสาวจูหลิง ปงกันมูล" ที่ได้รับบรรจุเป็นข้าราชครู เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2548 เข้าไปรายงานตัวกับ "ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ" นาม "นายสุรัตน์ เอกธนานนท์"

 

คำถามแรกที่ถูกยิงออกมาจากปากของผู้บังคับบัญชา ก็คือ...

 

"มาสอนที่นี่ไม่กลัวอะไรบ้างหรือ"

 

เพื่อนครูรายหนึ่งเล่าว่า…

 

"ท่านผู้อำนวยการฯ บอกกับพวกเราว่า จะไม่เข้าไปที่โรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ กับโรงเรียนใกล้เคียง เพราะน่ากลัว แล้วท่านก็ทิ้งครู 11 คน ไว้สอนนักเรียนที่นี่ตามลำพัง จนกระทั่งได้ย้ายออกนอกพื้นที่" เป็นคำบอกเล่าของเพื่อนครูรายนั้น

 

หากพิจารณาจากสัญญาณการทักทายของอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ และสัญญาณอื่นๆ ที่ส่งมาเป็นระยะ เมื่อนำมาผนวกกับข้อมูลฝ่ายข่าวของรัฐ ที่ระบุว่ามีสมาชิกกลุ่มก่อการร้าย 8 คน อยู่ในหมู่บ้าน ย่อมไม่แปลกอันใด ที่เกิดเหตุรุนแรงขึ้น เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2549

 

เปิดนาทีจับครู

เมื่อย้อนรอยถอยกลับไปดูรายละเอียดของเหตุการณ์ จับ 2 ครูสาว ไปกักขังทุบตีจน 1 ในเหยื่อ 2 คน อยู่ในอาการโคม่า ก็จะพบว่า ช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 12.00 น. เศษ ขณะที่ครูในโรงเรียน กำลังรับประทานอาหารเที่ยง มีผู้หญิงประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงของมัสยิด เรียกชาวบ้านเข้าไปรวมตัวกันที่โรงเรียน แต่ไม่มีใครออกมา

 

จนเวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที จึงได้ยินเสียงผู้หญิงคนเดิมประกาศเป็นครั้งที่ 2 ว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่รัฐมารังแกชาวบ้าน ขอให้พวกผู้หญิงออกมามากๆ

 

"เขาจับพวกเราไป 2 คน เราก็ต้องเอามันมา 2 คนด้วย เราอยู่บนโลกนี้ตายแค่ครั้งเดียว ไม่ออกมาต่อสู้ครั้งนี้แล้วจะออกมาตอนไหน เราต้องสู้เพื่อศาสนา"

 

สิ้นเสียงประกาศของผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่อยู่ในบ้านประมาณ 50 คน ก็วิ่งตรงไปรวมตัวกันที่โรงเรียน

 

เวลาประมาณ 12.20 น. ผู้หญิงคนเดิมประกาศอีกว่า ทำไมมากันน้อยนัก คราวนี้ให้เอาเด็กออกมาด้วย จากนั้น ก็มีผู้หญิงอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมกับเด็กๆ วิ่งตรงมายังโรงเรียนเพิ่มเติม ขณะที่ชาวบ้านเพศชาย ทยอยมายังมัสยิดเตรียมละหมาดวันศุกร์

 

เวลา 12.40 กลุ่มผู้หญิงทั้งหมดก็เข้ามาถามว่า ครูไทย 2 คนอยู่ที่ไหน จากนั้นก็จับ "ครูจูหลิง ปงกันมูล" ที่พยายามขัดขืน จนถูกตบหน้าตรงหน้าบันไดทางขึ้นอาคารเรียน ก่อนจะถูกดึงผมลากให้เดินตามออกไป

 

ขณะเดียวกัน มีกลุ่มผู้หญิงและเด็กบางส่วนเข้าไปจับ "ครูศิรินาถ ถาวรสุข" ที่ร้านก๊วยเตี๋ยวข้างมัสยิด

 

จากนั้น เดินอ้อมไปทางด้านหลังมัสยิด นำ 2 ครูสาว ไปที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ขังไว้ในห้องแล้วล็อคกุญแจ ขณะที่ชาวบ้านผู้ชายกำลังละหมาดวันศุกร์อยู่ในมัสยิด

 

ครูสตรีมุสลิม 8 คน ตามไปขอร้องให้ปล่อยตัว เพราะเกรง 2 ครูสาว จะถูกทำร้าย ขณะที่ครูคนหนึ่งพยายามจะเอาน้ำดื่มไปให้ครูทั้ง 2 ในห้อง แต่ก็ถูกขัดขวาง

 

เวลาประมาณ 13.10 น. ครูสตรีมุสลิมทั้ง 8 ตัดสินใจไปบ้านโต๊ะอิหม่ามขอใช้โทรศัพท์ เพื่อติดต่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รัฐ

 

ประมาณบ่ายโมงครึ่ง กลุ่มผู้ชายละหมาดวันศุกร์เสร็จ ส่วนใหญ่ต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน

 

คงเหลือเพียง "นายอารง ยูโซะ" ผู้ใหญ่บ้านกูจิงลือปะ พร้อมลูกบ้านอีกไม่กี่คน ที่ละหมาดวันศุกร์เพิ่งเสร็จ เข้าไปให้กลุ่มสตรีปล่อยตัวครูทั้ง 2 คน แต่ถูกปฏิเสธ

 

ระหว่างเจรจากันอยู่ มีคนพูดขึ้นว่า ตอนนี้ทหารล้อมหมู่บ้านไว้หมดแล้ว ส่งผลให้กลุ่มผู้หญิงและเด็กแตกตื่นวิ่งหนีเข้าบ้านกันจ้าละหวั่น

 

3 บุรุษมือพิฆาต

พลันก็มีผู้ชาย 3 คน ใช้ผ้าขาวม้าปิดหน้าจนเหลือแต่ตา บุกเข้าไปในห้องที่ขังครูสาวทั้ง 2 คน แล้วใช้ไม้หน้าสาม ตรงเข้าไปทุบตี "ครูศิรินาถ ถาวรสุข" ที่พยายามหลบเข้าไปอยู่ใต้โต๊ะภายในห้อง

 

ทันทีที่ "ครูจูหลิง ปงกันมูล" เข้าไปห้าม ชายทั้ง 3 ก็ใช้ไม้ตีศีรษะชนิดไม่ยั้งมือ

 

"นายอารง ยูโซะ" วิ่งเข้าไปห้าม แต่ก็ไม่เป็นผล จนต้องตะโกนเรียกให้มาตีตัวเองแทน ชายทั้ง 3 คนจึงหยุด แล้วเดินออกไป

 

เวลาประมาณ 14.15 น. "นายอารง ยูโซะ" ให้ลูกบ้านนำรถยนต์เข้ามารับคนเจ็บส่งโรงพยาบาล จนเวลาประมาณ 14.40 น. จึงนำตัวคนเจ็บทั้ง 2 ออกจากที่เกิดเหตุ ก่อนจะออกมาสวนทางกับทหาร ตำรวจ ตรงปากทางเข้าหมู่บ้าน ห่างจากโรงเรียนประมาณ 3 กิโลเมตร

 

กระทั่ง เวลาประมาณ 15.30 น. จึงนำครูที่เหลือทั้งหมด ออกมาจากพื้นที่ได้

 

จากนั้น จึงถึงเวลาที่ตำรวจ ทหาร เข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ

 

จับคนบงการ

สายข่าวของทางราชการระบุว่า ตลอดเวลาที่เกิดเหตุมีสมาชิกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในหมู่บ้านบางคน จากจำนวน 8 คน ขับรถจักรยานยนต์คอยดูสถานการณ์ และประสานงานกับส่วนต่างๆ อยู่ตลอด

 

กระทั่ง วันที่ 20 พฤษภาคม 2549 จึงมีการจับกุม "นางสาวการีมะ มะสาและ" ภรรยาของ "นายมูหามะสะแปอิง มีลี" ผู้ต้องหาคดีฆ่า 2 นาวิกโยธิน ที่ถูกจับกุมเมื่อตอนเช้าวันที่ 19 พฤษภาคม 2549 จนเป็นเหตุให้เกิดการจับตัว 2 ครูสาวไปทำร้าย ในตอนเที่ยงวันเดียวกัน

 

เป็นการจับกุม ในข้อหา "นางสาวการีมะ มะสาและ" ใช้เครื่องกระจายเสียงของมัสยิด ประกาศยุยงให้ชาวบ้านมาล้อมจับ 2 ครูสาวชาวไทยพุทธ