Skip to main content
sharethis

รายงานโดยศูนย์ข่าวประชาคม อุบลฯ


 


 


เครือข่ายเรียกร้องสิทธิโฉนดที่ดินฯ จาก 13 ชุมชน บุกศาลากลางจังหวัดอุบลฯ ทวงสัญญารัฐจัดประชุม กบร.จว.สางปัญหาที่ดิน เผยถูกขมขู่หลายครั้ง ขณะที่รัฐแจงเหตุไม่ได้ประชุม เพราะมัวยุ่งเลือกตั้ง ยื้อวันประชุมต่อไปอีก

เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันที่ 23 พฤษภาคม 2549 ที่ผ่านมา ณ ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ตัวแทนชาวบ้านซึ่งเรียกตนเองว่าเป็นเครือข่ายเรียกร้องสิทธิโฉนดที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน จาก 13 ชุมชน เกือบร้อยคน เข้าร้องเรียนกับทางจังหวัดอุบลฯ เนื่องจากปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งนี้ทางจังหวัดยังไม่ได้จัดให้มีการประชุม นับตั้งแต่การประชุมครั้งล่าสุดเมือเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยปัญหาดังกล่าวได้ยืดเยื้อมาหลายปี ในขณะที่ภาครัฐได้รับปากกับชาวบ้านไว้ว่าจะจัดให้มีการประชุมทุกเดือนนั้น
นายศักดิ์สิทธิ์ บุญญะบาล ตัวแทนเครือข่ายฯรายหนึ่ง กล่าวว่า จากการที่เครือข่ายฯ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้ กบร.จว.นำปัญหาเข้าที่ประชุมแก้ไข ซึ่งได้ผลดำเนินการแล้ว 8 ชุมชน ประกอบด้วย วังสว่าง,กุดคุณ,กุดแสนตอ,กุดปลาข่อ,โพธิ์ทอง,ปากมูลน้อย,สะพานใหม่,หาดวัดใต้ ถูกคัดค้านรังวัด 2 ชุมชน ประกอบด้วย สะพานใหม่,หาดวัดใต้, แต่ยังมีชุมชนที่ยังไม่ได้เข้าที่ประชุม 4 ชุมชน ประกอบด้วย กุดลาด,ท่าวังหิน,ววังทอง,ศรีประดู่ และมีหนังสือบันทึกลงนามโดยนายอรรณพ อู่นอก กองเลขาฯ กบร.จว.ว่าจะนำ 4 ชุมชนที่ตกหล่น เข้าที่ประชุมในเดือนมีนาคมนั้น แต่วันนี้ (23 พ.ค.49) ยังไม่มีความคืบหน้าแต่ประการใด


ทำให้ชุมชนสี่แยกบายพาสกุดลาด ยังมีการถูกข่มขู่จากเจ้าหน้าที่ อบต. กุดลาด โดยการให้ระงับการกระทำอันเป็นการบุกรุกที่สาธารณะ ก่อนแจ้งความดำเนินคดีและนำบุคคลซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งไม่แสดงตนและไม่แต่งเครื่องแบบ ไม่มีหมายแจ้งความ ออกมาข่มขู่ชาวบ้าน พร้อมแจ้งข้อหาบุกรุก ซึ่งชาวบ้านรู้สึกเคลือบแคลงสงสัยในพฤติกรรมต่างๆ ที่ทางเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำ ทั้งนี้ชาวบ้านมีความเดือดร้อนมากจึงอยากให้ทางราชการกำหนดวันประชุมเพื่อแก้ไขปัญหา ภายใน 15 วัน พร้อมทั้งให้ตัวแทนชุมชนเข้าร่วมรับฟังด้วย ซึ่งถ้าหากยังนิ่งเฉย ชาวบ้านจะออกมาเรียกร้องจำนวนมากและยืดเยื้อต่อไป


"ไม่ใช่เราอยากมาสร้างความวุ่นวายให้กับราชการ แต่เราเดือดร้อนจริง บางคนไปทำนา ก็ต้องวางไถไว้ก่อนเพื่อมาเรียกร้องสิทธิของตน เพราะปัญหาที่ดินทำกินเป็นปัญหาหนึ่งที่ระบุในทะเบียนคนจนที่ไม่มีความคืบหน้า ซึ่งราชการมักจะเอากฎหมายมาอ้าง ทั้งที่กฎหมายกำหนดขึ้นทีหลังจากที่ชาวบ้านอยู่มาก่อน"


ด้านนายสวัสดิ์ ผ่องแผ้ว ประธานชุมชนสี่แยกบายพาสกุดลาด เปิดเผยว่า ได้พบเห็นการสำรวจ ซึ่งเป็นการถ่ายภาพด้านทิศเหนือของชุมชนบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นบริเวณที่พักอาศัยและที่ทำกินชาวบ้านมานับร้อยปี ตนจึงอยากทราบแผนพัฒนาและโครงการที่จะสร้างบริเวณดังกล่าว ซึ่งถ้ามีโครงการใดๆ เกิดขึ้นขอให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อทำประชาพิจารณ์ก่อน ทั้งนี้ตนขอคัดค้านโครงการต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยและที่ทำกินของชาวบ้าน


ในขณะที่นายธรธรรม์ ชินโกมุท ป้องกันจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผู้รับเรื่องดังกล่าวจากชาวบ้านกล่าวว่า ตนมีความเข้าใจต่อความยากลำบากของชาวบ้านดี แต่การแก้ปัญหาต้องเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ทั้งนี้ในส่วนที่มีปัญหาการครอบครองสิทธิของประชาชนจากเดิมราชการระบุเป็นที่สาธารณะนั้นก็ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ทั้งหมด นั่นคือการยกเลิกสภาพว่าไม่ใช่ที่สาธารณะ โดยตนรับปากว่าจะประสานผู้ที่เกี่ยวข้องให้เร่งแก้ไข ส่วนการประชุมในครั้งต่อไปจะเร็วหรือช้านั้น ที่ผ่านมาหน่วยงานราชการมีภารกิจมาก รวมทั้งครั้งล่าสุดคือการเลือกตั้ง ทำให้ไม่มีเวลาเพียงพอ ประกอบจะกำหนดเป็นเมื่อไหร่นั้น ถ้าหากกำหนดแล้วทำไม่ได้ ชาวบ้านจะเสียความรู้สึก ดังนั้นต้องขอเวลากับภาครัฐในการเตรียมงานกับผู้ที่รับผิดชอบโดยตรง ซึ่งการประชุมครั้งต่อไปจะให้ผู้ที่ทราบเรื่องเข้าประชุมกันทุกฝ่าย


หลังจากที่ชาวบ้านได้รับฟังการชี้แจงจากหน่วยงานราชการจึงมีความพอใจต่อแนวทางแก้ปัญหาเบื้องต้น จากนั้นจึงได้แยกย้ายกันกลับบ้านและจะพยายามกดดันให้ทางจังหวัดกำหนดวันประชุมในเร็วที่สุด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net