ภาพจาก www.komotv.com

ประชาไท—31 พ.ค. 2549 เมลินดา เกตส์ ในฐานะผู้บริหารมูลนิธิบิลล์ และเมลินดา เกตส์ ซึ่งสนับสนุนเงินทุนในการทำงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก เริ่มต้นบทความของเธอที่มีชื่อว่า "What Women Really Need" หรือ สิ่งที่ผู้หญิงต้องการอย่างแท้จริง โดยเล่าถึงชีวิตหญิงในสลัมของเคนยาที่ติดเอชไอวีจากสามี ทั้งๆ ที่หญิงเหล่านั้นไม่ได้เป็นชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ผู้ให้บริการทางเพศ หรือผู้ใช้ยาเสพติดชนิดฉีด และไม่ได้เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมเสี่ยงใดๆ เว้นแต่การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันกับสามีของตัวเอง

เมลินดาระบุว่า ร้อยละ 80 ของหญิงติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลก ได้รับเชื้อจากคู่สมรสทั้งๆ ที่ตัวผู้หญิงเองก็เป็นคน 'ผัวเดียวเมียเดียว' เป็นการทำลายมายาคติเดิมๆ ที่เคยบอกว่าการแต่งงานจะช่วยป้องกันเอดส์ และยังสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวในการทำงานด้านเอดส์กับผู้หญิงในประเทศกำลังพัฒนามากว่า 20 ปี

เมลินดาอธิบายในบทความของเธอถึงเหตุที่ผู้หญิงติดเชื้อได้ง่ายว่า เพราะสรีระร่างกายทำให้ผู้หญิงสามารถรับเชื้อเอชไอวีได้มากกว่าผู้ชายถึง 2 เท่า อีกทั้งความไม่เท่าเทียมทางเพศทำให้ผู้หญิงเลือกไม่ได้ว่าจะมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้ถุงยางหรือไม่

ภรรยาบิลล์ เกตส์ ให้ความเห็นว่า การรณรงค์ให้คนละเว้นการมีเพศสัมพันธ์ ซื่อสัตย์ต่อคู่ และใช้ถุงยางอนามัย ที่ใช้ตัวย่อว่า ABC (Abstain, be faithful, use condoms) ถือว่าเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของผู้ชาย สำหรับหญิงแต่งงานแล้วนับล้านคน การให้ละเว้นการมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง การให้ซื่อสัตย์เป็นวิธีที่ยังไม่เพียงพอ และการใช้ถุงยางอนามัยก็ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของผู้หญิง

เมลินดาเล่าว่า มูลนิธิของเธอและสามีกำลังพัฒนาเครื่องมือที่มีพลังและสามารถป้องกันเอดส์ได้โดยผู้หญิง นั่นคือไมโครบิไซด์ สารป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอดนี้เป็นเจลที่ไม่มีสี และกลิ่น ผู้หญิงสามารถทาที่ช่องคลอดได้โดยที่คู่ของเธอไม่มีโอกาสรู้ ซึ่งมันจะช่วยป้องกันเชื้อเอชไอวี โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และช่วยคุมกำเนิดได้อีกด้วย

ตอนนี้ไมโครบิไซด์อยู่ระหว่างการทดลองในผู้หญิงหลายๆ ประเทศที่ประสบปัญหาในเรื่องเอชไอวี ประกอบไปด้วยแอฟริกาใต้ อูกันดา และอินเดีย นอกจากนี้ในบอสวานา กาน่า และประเทศอื่นๆ กำลังศึกษาว่ายาต้านเชื้อเอชไอวีจะมีฤทธิ์ป้องกันการติดเชื้อได้ด้วยหรือไม่

เธอเห็นว่า โลกมีความเชื่องช้ามากในการลงทุนด้านการป้องกันเอชไอวีให้แก่ผู้หญิง ทั้งๆ ที่เรารู้แล้วว่าทำไมผู้หญิงจึงติดเชื้อและจะหยุดปัญหาได้อย่างไร เมลินดาเสนอให้ทั่วโลกต้องลงทุนกันมากกว่านี้เพื่อศึกษาค้นคว้าอุปกรณ์ที่ป้องกันเชื้อไอวีในผู้หญิง ต้องมีการพัฒนาระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวิจัยทดลอง และพัฒนาระบบในการเข้าถึงเครื่องมือป้องกันเอดส์ ทั้งนี้เพราะมีผู้หญิงในโลกเพียงร้อยละ 20 เท่านั้นที่เข้าถึงเครื่องมือป้องกันเอชไอวี ซึ่งได้แก่ถุงยางอนามัย การศึกษา และอุปกรณ์ในการตรวจการติดเชื้อ

ที่มา: จดหมายข่าว สื่อสังวาส/ แปลและเรียบเรียงจาก What Women Really Need เขียนโดย Melinda French Gates