กรณีศึกษา: การแปรรูปน้ำในแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

ภัควดี  วีระภาสพงษ์
เรียบเรียงจาก
No silver bullet
Water privatization in Atlanta, Georgia - a cautionary tale
Frank Koller, CBC Radio | Feb. 5, 2003

เมืองแอตแลนตา  รัฐจอร์เจีย  เป็นเมืองใหญ่ที่สุดเมืองหนึ่งในสหรัฐอเมริกา   เมื่อเทศบาลเมืองแอตแลนตาแปรรูปการบริหารจัดการระบบน้ำประปาให้อยู่ในมือของบริษัทเอกชนยูไนเต็ดวอเตอร์   หลายคนมองว่านี่คือจุดเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่   ฝ่ายสนับสนุนเชื่อว่า  แอตแลนตาจะเป็นเมืองนำร่องให้เกิดการแปรรูปน้ำประปามากขึ้นในสหรัฐอเมริกา

แต่ตอนนี้หลายคนต้องคิดใหม่   ถ้าไม่ถึงขั้นเลิกเชื่อไปเลย

บริษัทยูไนเต็ดวอเตอร์  ซึ่งเป็นบริษัทสาขาของบรรษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจน้ำสัญชาติฝรั่งเศส  ซูเอซ  (Suez)   ต้องลาโรงไปจากเมืองแอตแลนตาแล้ว   และการแปรรูปน้ำเหลือทิ้งไว้แต่รสชาติขมฝาดแก่ชาวเมืองจำนวนมาก

ในปี พ.ศ. 2542    เทศบาลเมืองแอตแลนตาแปรรูปการบริหารจัดการระบบน้ำประปาแก่บริษัทยูไนเต็ดวอเตอร์   สัญญาระยะเวลา 20 ปี มีมูลค่าถึง 420 ล้านดอลลาร์สหรัฐ   แต่เพียงสี่ปีให้หลัง  เมื่อปลายเดือนมกราคม  พ.ศ. 2546  นายกเทศมนตรีเมืองแอตแลนตา  นางเชอร์ลี  แฟรงคลิน  แถลงข่าวแก่สื่อมวลชนว่า   สัญญาทั้งหมดถูกยกเลิก

"ฉันยืนอยู่ที่นี่ในวันนี้  พร้อมกับ มร.ไมเคิล  เชสเซอร์  ประธานและซีอีโอของบริษัทยูไนเต็ดวอเตอร์เซอร์วิส  เพื่อประกาศว่า  เทศบาลเมืองแอตแลนตาและบริษัทยูไนเต็ดวอเตอร์ได้ตกลงร่วมกันยกเลิกข้อสัญญาที่ให้บริษัทยูไนเต็ดวอเตอร์บริหารจัดการระบบน้ำประปาของเมือง..."

นายกเทศมนตรีกล่าวว่า  แอตแลนตาจะบริหารจัดการระบบน้ำประปาเองอีกครั้ง

"ฉันขอรับประกันแก่ชาวแอตแลนตาทุกคนว่า  ระบบน้ำประปาของคุณอยู่ในมือที่ไว้ใจได้"

ตอนที่บริษัทยูไนเต็ดวอเตอร์ชนะการประมูลสัญญาบริหารจัดการน้ำประปา   หลายคนเชื่อว่า  ระบบน้ำประปาตกอยู่ในมือที่ไว้ใจได้   สมาชิกสภาเทศบาลเมืองแอตแลนตาคนหนึ่งกล่าวว่า

"โดยส่วนตัวแล้ว   ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับแนวคิดในการแปรรูป  เพราะการประปาเป็นลูกหัวแก้วหัวแหวนของรัฐที่นิสัยเสียไร้ประสิทธิภาพ   เป็นหน่วยงานที่นักการเมืองชอบใช้เส้นสายเอาเพื่อนหรือญาติมาฝากเข้าทำงาน   มันเป็นหน่วยงานที่มีระบบจัดการไม่ได้เรื่องและใช้งบประมาณมากเกินความจำเป็น"

แต่พอผ่านไปสี่ปี  สมาชิกสภาเทศบาลคนเดียวกันนี้ถึงกับส่ายหน้าและบอกว่า   "มันเป็นกรณีตัวอย่างที่คุณภาพถูกทำลายลงโดยสิ้นเชิง   เฉพาะในเขตของผม   มีหลายสิบครั้งที่เกิดปัญหาน้ำประปาขุ่นคลั่กและมีคำเตือนให้ต้มก่อนดื่ม   ในเมืองใหญ่ระดับเวิลด์คลาสอย่างแอตแลนตา   เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น   มันน่าจะเกิดในประเทศโลกที่สามมากกว่า   แต่ไม่ควรมาเกิดขึ้นในแอตแลนตา"

ลามาร์  มิลเลอร์  เป็นคุณแม่ลูกสามที่ต้องพึ่งพาเครื่องซักผ้าเสมอ   บ้านของนางมิลเลอร์ตั้งอยู่ในย่านชนชั้นกลางมีอันจะกินและอยู่อาศัยที่นั่นมาหลายสิบปีแล้ว

ตลอดเวลาที่ผ่านมา   เธอมีปัญหาเรื่องน้ำเป็นครั้งคราว   แต่ไม่เคยเลวร้ายเท่าฤดูร้อนปีสุดท้ายของการบริหารจัดการน้ำด้วยบริษัทเอกชน

"เวลาคุณเปิดก๊อกน้ำ   คุณก็หวังว่าน้ำจะไหล"   เธอบ่น  "แต่ฤดูร้อนปีนี้มีไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่พอคุณเปิดก๊อก   กลับไม่มีน้ำไหลสักหยด   บางทีก็เป็นชั่วโมง   บางทีตั้งสองสามวัน   แล้วพอน้ำไหล   มันขุ่นยังกับน้ำในคู   มันทำให้เสื้อผ้าสีเปลี่ยนไปหมด   บริษัทก็ไม่รู้จักเตือนล่วงหน้าว่าจะย้อมสีเสื้อผ้าให้เรา"

วันหนึ่ง  นางมิลเลอร์บรรจุเสื้อเชิ้ตสีขาวของสามีหลายตัวเข้าไปในเครื่องซักผ้า   สามสิบนาทีให้หลัง   เสื้อสีขาวกลายเป็นเสื้อสีตุ่น

"ในช่วงฤดูร้อนเมื่อแรงดันน้ำต่ำ   น้ำจะแดงจนเห็นได้ชัด"   เธอเล่าต่อ   "ถ้าคุณสระผม   ผมคุณจะเหมือนโกรกด้วยไฮไลท์สีแดงอมส้ม   พอจะหยอกกับใครต่อใครว่าคุณมีเชื้อสายไอริชได้ทีเดียว"

ในฤดูร้อนปีนั้น   ภาวะขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรงทำให้ชาวแอตแลนตาต้องปฏิบัติตามระเบียบการปันส่วนใช้น้ำอย่างเคร่งครัด   แต่เมื่อท่อหัวฉีดดับเพลิงบนถนนหน้าบ้านของนางวอลดา  ลาฟรอฟแตกและพ่นน้ำนองถนน   นางลาฟรอฟบอกว่า  เธอต้องโทรศัพท์แจ้งย้ำซ้ำซากถึง 10 วัน  กว่าบริษัทยูไนเต็ดวอเตอร์จะมาจัดการซ่อมให้เรียบร้อย   ข้อดีที่พอจะมีอย่างเดียวก็คือ   ฟุตบาธแถวนั้นถูกน้ำล้างจนสะอาดเอี่ยม

นอกจากนั้น  ยังมีหลายคราวที่นางลาฟรอฟได้รับแจ้งจากบริษัทให้ต้มน้ำดื่ม   เธอบอกว่าไม่เคยประสบปัญหาแบบนี้มาก่อนในสมัยที่เทศบาลเป็นคนบริหารระบบน้ำประปา   มิหนำซ้ำ   ในย่านที่เธออยู่อาศัยยังมักได้รับแจ้งให้ต้มน้ำดื่มล่าช้าไปวันสองวันเสมอ   เธอบ่นว่า   "นี่เป็นเรื่องซีเรียสนะ   เพราะถ้าน้ำไม่ปลอดภัยพอที่จะชงนมให้เด็กอ่อนหรือให้ผู้ป่วยผู้สูงอายุดื่ม   เราก็ควรได้รับแจ้งทันที   ไม่ใช่อีกวันสองวันให้หลัง"

เมื่อถูกบอกเลิกสัญญา   ทางบริษัทยูไนเต็ดวอเตอร์แถลงข่าวแก้ตัวว่า   เทศบาลเมืองแอตแลนตาไม่บอกความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับสภาพความสมบูรณ์ของท่อน้ำประปาแก่บริษัทที่มาร่วมประมูลสัญญา   บริษัทอ้างว่าหลังชนะการประมูล   ถึงเพิ่งรู้ว่าสภาพของระบบน้ำประปาที่เป็นอยู่ย่ำแย่ขนาดไหน

แต่เทศบาลเมืองแอตแลนตาก็ผิดหวังกับบริษัทยูไนเต็ดวอเตอร์เช่นกัน   เพราะบริษัทไม่สามารถทำตามที่สัญญาไว้ว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณให้เทศบาล   เมื่อนายกเทศมนตรีสั่งตรวจสอบบัญชี   ก็พบว่าบริษัทไม่ได้จัดเก็บค่าน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ   เรียกร้องเงินเพิ่มจากเทศบาลและล่าช้าในการซ่อมแซม

เทศบาลเคยคิดว่า  ปัญหาความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการจะหมดไปเมื่อให้บริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการแทน   เจ้าหน้าที่เทศบาลคนหนึ่งกล่าวว่า  "ตอนนั้นเราเชื่อกันว่าเราจะประหยัดได้สัก 20 ล้านดอลลาร์ต่อปีเป็นเวลา 20 ปี   แต่ตอนนี้  แม้แต่คนที่เคยเชื่อหัวปักหัวปำในเรื่องการแปรรูปยังโทรศัพท์มาบ่นกับฉันว่า   ต่อให้เทศบาลประหยัดงบประมาณสัก 20 ล้าน  ก็คงไม่จัดการแย่ขนาดนี้   และพวกเขาก็พูดถูก   เพราะสี่ปีมานี้เราประหยัดได้แค่ 8 ล้านเอง"

ตอนที่เมืองแอตแลนตาตัดสินใจแปรรูประบบน้ำประปา   บรรษัทยักษ์ใหญ่ด้านการจัดการน้ำแห่กันมาที่รัฐจอร์เจีย   นี่เป็นดีลการแปรรูปน้ำที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำมาในสหรัฐอเมริกา   การชนะประมูลที่นี่จึงน่าจะเป็นการตอกหมุดบุกเบิกตลาดขนาดใหญ่ที่ยังไม่ไขก๊อก   การแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือด

ห้าบรรษัทยักษ์ใหญ่ที่เข้าร่วมการประมูลใช้เงินไปหลายล้านดอลลาร์ในแคมเปญโฆษณาประชาสัมพันธ์   ฝูงนักล้อบบี้และทนายความรุมตอมนักการเมืองในเทศบาลกันหึ่ง   ท้ายที่สุด  บริษัทยูไนเต็ดวอเตอร์   สาขาของบรรษัทซูเอซ ณ ปารีส ก็ชนะประมูลด้วยราคาต่ำสุด

สมาชิกสภาเทศบาลคนเดิมเล่าให้ฟังว่า  บรรษัทยักษ์ใหญ่พวกนี้บอกกับพวกเขาว่า   ดีลนี้สำคัญใหญ่หลวงนัก   เพราะมันจะเป็นหลักหมายที่แรก   กำไรไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด   ต่อให้ไม่ได้กำไรก็ไม่เป็นไร   ขอให้ลงจอดได้ก่อนก็พอ   เพื่อจะได้มีที่หยั่งเท้าสำหรับการรุกคืบในอนาคต   เทศบาลแอตแลนตาจึงวางใจว่า  การเสนอราคาต่ำสุดไม่น่าเป็นปัญหาต่อคุณภาพในการจัดการน้ำประปาแต่อย่างใด

แอตแลนตามักจะถูกเรียกว่า   เมืองใหญ่ที่โตเร็วที่สุดในสหรัฐอเมริกา   แต่มันก็เป็นเมืองที่เก่าแก่มาก   ระบบท่อประปาจึงเก่าและรั่วไม่น้อย

ฮาโรลด์  คันลิฟฟ์  นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในแอตแลนตาเชื่อว่า  ไม่ควรกล่าวโทษบริษัทยูไนเต็ดวอเตอร์เสียทั้งหมดต่อปัญหาที่เกิดขึ้น   เขาบอกว่าเทศบาลเองก็ทำให้บริษัทบริหารจัดการได้ยาก   เช่น  ต้องจ้างพนักงานคนเก่าของเทศบาลเอาไว้  เป็นต้น   มันจึงไม่ใช่การแปรรูปอย่างสมบูรณ์แบบ   เทศบาลน่าจะยกให้บริษัทยูไนเต็ดวอเตอร์มีอิสระเสรีในการดำเนินงานอย่างเต็มที่  แทนที่จะยกเลิกสัญญากลางคัน   ต่อคำถามว่า  น้ำเป็นปัจจัยที่สำคัญเกินกว่าจะตกอยู่ในเงื้อมมือบริษัทเอกชนหรือเปล่า   เขาให้เหตุผลว่า

"มีปัจจัยอีกตั้งเยอะแยะที่สำคัญกว่าน้ำ  เช่น  อาหารและที่อยู่อาศัย   แล้วเราก็แปรรูปปัจจัยจำเป็นต่อชีวิตเหล่านี้ให้อยู่ในมือเอกชนมาตั้งนานแล้ว   มันก็ดำเนินไปได้ดีในระบบผู้ประกอบการเสรีนี่"  

ตอนแรกมีความหวั่นเกรงว่า   การยกเลิกสัญญาจะทำให้เกิดการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์ตามมา   แต่ในท้ายที่สุด   เทศบาลและบริษัทยูไนเต็ดวอเตอร์ก็สามารถแยกจากกันด้วยดี   ไมเคิล  เชสเซอร์  ซีอีโอของบริษัทบอกว่า  เขาผิดหวังมาก

"ผมเชื่อว่า  ถ้าเราได้เริ่มต้นใหม่ในวันนี้  ด้วยสปิริตของความเป็นหุ้นส่วน  จากสิ่งที่เรามีอยู่และสิ่งที่เราได้เรียนรู้   เราน่าจะร่วมกันสร้างกระบวนการที่ประสบความสำเร็จได้   ตอนนี้เราได้แต่ขออวยพรให้เทศบาลโชคดี"

สิ่งหนึ่งที่เหลืออยู่แน่ จากการทดลองแปรรูปน้ำในเมืองแอตแลนตาก็คือ   ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างกล่าวว่า  พวกเขาเจอบทเรียนกันชนิดเต็มกลืน   สมาชิกสภาเทศบาลอีกคนกล่าวว่า

"จิตใจแบบอนุรักษ์นิยม  (คำนี้ในสหรัฐอเมริกาหมายถึงเสรีนิยมใหม่—ผู้แปล) ของผมเลิกเซ่นไหว้ที่แท่นบูชาการแปรรูปเหมือนเมื่อก่อนแล้ว  บางครั้ง  การแปรรูปอาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุดก็จริง   แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า   มันไม่ใช่คำตอบหนึ่งเดียวเสมอไป   และเราต้องระมัดระวังให้มากในเรื่องนี้"

ส่วนเจ้าหน้าที่เทศบาลอีกคนบอกว่า  "น้ำเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับทุกคน   ฉันคิดว่า   ตลอดสี่ปีที่ผ่านมา  พวกเราพากันหลงเคลิ้มมากไปหน่อยกับการโหมโฆษณาชวนเชื่อว่า  การแปรรูปคือแก้วสารพัดนึกที่จะแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง   เราจึงเดินหลงไปกับหนทางที่ผิด"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท