Skip to main content
sharethis


 


 


  


เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 18 มิถุนายน 2549 ที่ห้องประชุมคณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดบรรยายทางวิชาการเรื่อง "วิพากษ์นโยบายพลังงานหลังการแปรรูป ปตท." โดยนายโสภณ สุภาพงษ์ รักษาการสมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร มีนักศึกษาและอาจารย์ เข้าร่วมฟังประมาณ 200 คน


 


นายโสภณ บรรยายว่า ในสมัยพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ตนดูแลนโยบายด้านพลังงาน ขณะนั้นเกิดวิกฤตราคาน้ำมันทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยได้รับผลกระทบด้วย พล.อ.เปรมและตน จึงเดินทางไปยังกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เพื่อเจรจาขอซื้อน้ำมัน ครั้งนั้นประเทศไทยได้รับความน่าเชื่อถือจากประเทศในตะวันออกกลางมาก เนื่องจากผู้นำมีจริยธรรม การเจรจาจึงสะดวก เพราะเชื่อในคุณธรรมจริยธรรมของผู้นำประเทศ


 


นายโสภณ บรรยายต่อไปว่า ปัจจุบันชาวตะวันออกกลางไม่ยอมรับประเทศไทย สืบเนื่องจากการส่งทหารเข้าร่วมสงครามอิรัก ซึ่งประเทศไทยได้รับประโยชน์จากการเข้าร่วมรบครั้งนี้ โดยทำสัญญาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กับสหรัฐ 2 เรื่อง หนึ่งในนั้นคือ ไทยจะได้รับประโยชน์ในการซื้อขายเทคโนโลยีดาวเทียม ทำให้หุ้นของดาวเทียมไอพีสตาร์พุ่งสูงขึ้น


 


นายโสภณ บรรยายด้วยว่า เมื่อปี 2545 หลังการแปรรูปการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) เป็นบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) มีกำไรสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ถึง 22,099 ล้านบาท ปี 2546 มีกำไร 56,686 ล้านบาท ในปี 2547 มีกำไร 120,989 ล้านบาท และในปี 2548 มีกำไร 195,853 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 40 เท่า เพราะฉะนั้น มูลค่าการใช้น้ำมันที่สูงถึง 800,000 ล้านบาทต่อปี ราคาต้นทุนจริงไม่ถึง 700,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นกำไรที่ดูดมาจากประชาชน โดยคณะกรรมการนโยบายพลังงานเป็นผู้กำหนดราคา คณะกรรมการฯ ชุดนี้ อยู่ภายใต้คณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ผู้ที่ได้ประโยชน์ คือผู้ถือหุ้น โดยเฉพาะสิงคโปร์ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่


 


นายโสภณ บรรยายอีกว่า สาเหตุราคาน้ำมันแพงมาจาก 3 ปัจจัย คือ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกแพงขึ้น เพราะบริษัทน้ำมันเอากำไรเพิ่มขึ้น ทั้งที่ต้นทุนเท่าเดิม ทำให้ทั่วโลกได้รับผลกระทบ แต่ประเทศไทยกระทบมากที่สุด ปัจจัยต่อมา เครื่องมือในการดูแลน้ำมัน คือบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ถูกแปรรูปเข้าตลาดหลักทรัพย์ให้เอกชนเข้ามาถือหุ้น เครื่องมือนี้จึงกลับมาเอากำไรจากการขายน้ำมัน เพื่อสนองความต้องการของผู้ถือหุ้น


 


"ที่ผ่านมารัฐบาลมีคำแก้ตัวมากมายในเรื่องนี้ อ้างว่าบริษัทค้าน้ำมันต่างประเทศก็เอากำไรมากๆ กันทั้งนั้น และรัฐบาลต้องนำเงินไปใช้หนี้สาธารณะ ซึ่งเป็นเรื่องของรัฐ เหตุใดจะต้องให้ชาวบ้านรับกรรมด้วย" นายโสภณ กล่าว


 


นายโสภณ  บรรยายต่อไปว่า เมื่อเป็นเช่นนั้น จึงมีการเสนอว่า ต้องลดราคาน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 3 บาท เพราะถึงจะลดลงมาขนาดนี้ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ก็ยังมีกำไรมหาศาล แต่ถ้าจะให้ได้กำไรเท่ากับเมื่อปี 2545 คือ ประมาณ 20,000 ล้านบาทต่อปี สามารถลดราคาน้ำมันดีเซลลงได้ถึงลิตรละ 9 บาท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net