Skip to main content
sharethis


 


 


ชุมชนขนาดใหญ่ที่อยู่ในย่านตลาดเก่าร้อยปีวิเศษชัยชาญ หรือ ชุมชนตลาดศาลเจ้าโรงทอง ถือเป็นพื้นที่ซึ่งมีความสำคัญต่อชาวอ่างทองอย่างยิ่ง ทั้งในด้านที่เป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมประเพณีอันเก่าแก่ และเป็นศูนย์รวมธุรกิจแบบพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันของชุมชน


 


เมื่อธุรกิจข้ามชาติเช่นห้างเทสโกโลตัสกำลังจะถูกสร้างในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ชาวบ้านที่อาศัยในชุมชนจึงจำเป็นต้องรวมตัวกันคัดค้านการก่อสร้าง เนื่องจากการปรากฏตัวของธุรกิจขนาดใหญ่จะส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่อวิถีชุมชนของย่านตลาดเก่าแห่งนี้ เพราะพื้นที่ของห้างค้าปลีกที่มีเงินทุนหนุนหลังหนาแน่นจะรุกคืบเข้าไปทำลายร้านค้าปลีกเล็กๆ จนไม่เหลือที่อยู่ที่ยืน


 


ในขณะที่กรมโยธาธิการและผังเมืองของประเทศไทย สั่งเปลี่ยนแปลงระเบียบผังเมืองเพื่อควบคุม (อันที่จริงควรเรียกว่าเป็นการปล่อยผี) ธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง จากเดิมที่กำหนดให้ตั้งห่างจากผังเมืองรวม 15 กิโลเมตร ปรับลดลงเหลือเพียง 2 กิโลเมตร ส่วนพื้นที่ค้าปลีกในเขตเมืองขยายพื้นที่ให้มากถึง 4,000 ตารางเมตร ท่ามกลางเสียงคัดค้านของหอการค้าจังหวัดและผู้ประกอบการค้าปลีกท้องถิ่นทั่วประเทศ


 


เรื่องราวการคัดค้านห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่เช่นนี้ ใช่จะมีแต่เพียงในเมืองไทยเท่านั้น การคัดค้านเกิดขึ้นแม้แต่ในดินแดนอันเป็นต้นกำเนิดของห้างค้าปลีกเหล่านี้เอง


 


ต้นกำเนิดแห่งความขัดแย้ง


เมืองนอร์ริช เป็นชุมชนเล็กๆทางตะวันออกของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผู้คนมีชีวิตที่เรียบง่าย ตึกรามบ้านช่องสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมสมัยวิคตอเรียซึ่งได้รับการบูรณะและบำรุงรักษาอย่างดี รอบเมืองยังเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์เพื่อรักษาสภาพธรรมชาติแวดล้อมเอาไว้ ทำให้นอร์ริชเป็นเมืองในฝันของใครหลายๆคน แต่แล้วชีวิตที่สงบเงียบของชาวนอร์ริชก็สั่นสะเทือน เมื่อ "เทสโก้" เครือข่ายห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่เสนอแผนต่อสภาเมืองนอร์ริชขอก่อสร้าง "เทสโก้ เอ็กเพรส" บนหัวมุมถนนอันแทงค์และทรินิตี้ ซึ่งเดิมเคยเป็นที่ตั้งของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง


 


เทสโก้ เป็นเครือข่ายห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่สัญชาติอังกฤษแท้ที่ขยายกิจการไปทั่วโลก พอๆ กับที่ วอล-มาร์ทของอเมริกัน และคาร์ฟูร์ของฝรั่งเศสสยายปีกกิจการของตัวเองออกไป ในประเทศไทย เทสโก้ร่วมทุนกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ในนาม เทสโก้-โลตัส ปักหลักทั้งใจกลางกรุงเทพฯ หลายสิบสาขา และตามหัวเมืองต่างๆ นอกจากนั้นยังซอกซอนไปตามถนนเล็กถนนน้อยด้วยรูปแบบของ "เทสโก้ เอ็กเพรส" ร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่ตามปั๊มน้ำมันต่างๆ


 


ทันทีที่ทราบว่า เทสโก้มุ่งมั่นที่จะส่ง "เทสโก้ เอ็กเพรส" เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอันเงียบสงบแห่งนี้ ในวันที่ 20 ตุลาคม 2547 เพียงเดือนเศษหลังจากที่เทสโก้เสนอแผนต่อสภาเมือง ชาวเมืองกว่าร้อยคนได้จัดประชุมสาธารณะครั้งแรกเพื่อหารือ และข้อสรุปที่ได้คือ ไม่เห็นด้วยกับการเข้ามาของเทสโก้ ตามมาด้วยการล่ารายชื่อคัดค้านซึ่งได้มากกว่า 3,500 คน ร้านค้าต่างๆในเมืองยังติดป้ายประท้วง No to Tesco ไว้หน้าร้านด้วย


 


หนึ่งเดือนหลังเผชิญเสียงต่อต้านจากชาวเมือง เทสโก้ขอถอนแผน "เทสโก้ เอ็กเพรส" บนหัวมุมถนนอันแทงค์และทรินิตี้ออกไป แม้ว่าสภายังไม่ได้พิจารณาข้อเสนออย่างเป็นทางการ แต่สมาชิกส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า แผนของเทสโก้ไม่น่าพอใจในหลายประการ


 


ต่อมาในเดือนมีนาคม 2548 สภาเมืองได้ประชุมพิจารณาประเด็นนี้อีกครั้ง แม้เทสโก้จะถอนแผนออกไป หลังการหารือกว่า 2 ชั่วโมง สภาเมืองนอร์ริชมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่ออกใบอนุญาตก่อสร้าง "เทสโก้ เอ็กเพรส" ด้วยเหตุผล 5 ประการ คือ หน้าตาของ "เทสโก้ เอ็กเพรส" ที่แปลกแยกจากชุมชนสไตล์วิคตอเรีย, พื้นที่จำกัดสำหรับรถส่งของ, "เทสโก้ เอ็กเพรส"ไม่ได้มีความสำคัญเพียงพอสำหรับชุมชน, ความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุในบริเวณดังกล่าวที่มีสถิติอุบัติเหตุค่อนข้างสูงอยู่แล้ว และ ขาดความน่าพอใจ (เพราะพื้นที่ดังกล่าวมีข้อจำกัดมากทั้งที่จอดรถซึ่งมีแนวโน้มจะล้นจนสร้างความเดือดร้อนให้บริเวณใกล้เคียง) ขณะที่ตัวแทนเทสโก้พยายามแย้งว่า จะมีรถส่งของเพียงวันละ 2-3 คันเท่านั้น และ "เทสโก้ เอ็กเพรส" แห่งใหม่นี้จะพัฒนาความยั่งยืนให้เกิดขึ้นแก่ชุมชน


 


แม้ว่า สภาเมืองนอร์ริชมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่ออกใบอนุญาตก่อสร้าง "เทสโก้ เอ็กเพรส" ท่ามกลางความยินดีของชาวเมือง เทสโก้ก็ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ โดยล่าสุด เมื่อเดือน กรกฎาคมที่ผ่านมา เทสโก้ได้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว แน่นอนว่าสงครามย่อยๆในเมืองเล็กๆ นี้คงไม่ยุติง่ายๆ


 


ชาวเมืองได้ทำเว็บไซด์ http://www.stopunthanktesco.com เพื่อประมวลข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างๆ อธิบายเหตุผลว่าทำไมชาวเมืองจึงต้องคัดค้าน และเสนอแนะรูปแบบการคัดค้านต่างๆให้ไปใช้ปฏิบัติกัน


 


ข้อมูลจากเว็บไซด์ระบุว่า สาเหตุที่ชาวเมืองนอร์ริชต้องคัดค้านเทสโก้


-          ทำให้การจราจรติดขัด โดยเฉพาะจากผู้คนที่หลั่งไหลมาจากเมืองต่างๆ จนทำให้ลานจอดรถล้นมาสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้านใกล้เคียง


-          จราจรที่คับคั่งอย่างมากจะสร้างความเสี่ยงต่อผู้เดินถนนและผู้ใช้จักรยานซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของเมืองนี้


-          ประชาชนที่อาศัยอยู่รอบข้างจะได้รับความเดือดร้อนจากเสียง ขยะ และมลพิษต่างๆ โดยเฉพาะการที่ "เทสโก้ เอ็กเพรส" เปิดเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ตลอด 24 ชั่วโมง


-          สนับสนุนให้คนกักตุนเครื่องอุปโภคบริโภคจากห้างค้าปีกขนาดใหญ่ทั้งๆที่ไม่มีความจำเป็น ละเลยที่จะสนับสนุนร้านค้าในท้องถิ่น


-          "เทสโก้ เอ็กเพรส" จะเป็นทัศนะอุจาดสำหรับชุมชนเล็กๆที่มีความสวยงามด้วยตัวของเมืองเองอยู่แล้ว ขณะที่ร้านค้าที่มีอยู่เดิมมีสินค้าต่างๆมากมายไม่ต่างจากสิ่งที่ "เทสโก้ เอ็กเพรส" กำลังนำเสนอและเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนมาอย่างยาวนาน


-          "เทสโก้ เอ็กเพรส" จะทำลายร้านค้าท้องถิ่น


-          และที่สำคัญที่สุด ชาวเมืองมีเหตุผลมากมายที่จะเชื่อว่า เทสโก้จะมาลดคุณภาพชีวิตของพวกเขา


 


ข้อมูลจากเว็บไซด์  http://www.stopunthanktesco.com ระบุว่า ขณะนี้สามารถรวบรวมรายชื่อผู้คัดค้านเทสโก้ได้มากถึง 5,000 ราย มีจดหมายมากกว่า 500 ฉบับส่งถึงสภาเมืองเพื่อคัดค้านโครงการดังกล่าว และเมื่อเทสโก้พยายามที่จะขอความเห็นใจโดยการส่งโปสการ์ดไปตามบ้านเรือนเพื่อขอเสียงสนับสนุนโดยส่งไปที่สภาเมือง (เทสโก้ออกค่าไปรษณีย์ให้) ชาวเมืองส่วนใหญ่ส่งโปสการ์ดดังกล่าวไปที่สภาเมือง โดยระบุว่า NO


 


แม้ว่า สภาเมืองนอร์ริชมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่ออกใบอนุญาตก่อสร้าง "เทสโก้ เอ็กเพรส" ท่ามกลางความยินดีของชาวเมือง เทสโก้ก็ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ โดยล่าสุด เมื่อเดือน กรกฎาคมที่ผ่านมา เทสโก้ได้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว แน่นอนว่าสงครามย่อยๆในเมืองเล็กๆนี้คงไม่ยุติง่ายๆ การรณรงค์ Say No to Tesco ของชาวเมืองนอร์ริชกำลังเข้มข้นและเข้มแข็ง พอๆกับความพยายามดิ้นรนของเทสโก้เพื่อแทรกเข้าเมืองนอร์ ริชให้จงได้


 


แน่นอนว่า ชาวเมืองนอร์ริชคงจะสู้จนสุดชีวิตทีเดียว เพราะในช่วงระยะหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาเห็นชะตากรรมของชุมชนขนาดกลางในอังกฤษจำนวนมากถูกทำลายเพราะการเข้าไปของเทสโก้ พอๆกับที่ชุมชนในประเทศไทยถูกทำลายด้วยร้านสะดวกซื้อและห้างค้าปลีกข้ามชาติ


 


บริสตอล เป็นชุมชนขนาดกลางทางตะวันตกของกรุงลอนดอน เมื่อสิบเดือนที่แล้ว "เทสโก้ เอ็กเพรส" แทรกเข้ามาอยู่ใจกลางย่านธุรกิจของบริสตอลท่ามกลางร้านรวงท้องถิ่นซึ่งดำเนินการโดยครอบครัวต่างๆอย่างไม่ลำบากยากเย็นนัก สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เจ้าของร้านค้าจำนวนมาก ทั้งร้านขายขนมปัง, ขายผัก-ผลไม้, ขายเนื้อ และร้านกาแฟต่างเชื่อว่า การมี "เทสโก้ เอ็กเพรส" ร่วมถนนน่าจะยิ่งดึงลูกค้าให้เข้ามาแวะเวียนที่ร้านของพวกเขาด้วย มีคนไม่มากนักที่คัดค้าน หนึ่งในนั้นคือ จายันตี้ พาเทล เจ้าของร้านขายหนังสือ แพทส์นิวส์ "มันจะกระทบกับทุกคน ร้านขายหนังสือพิมพ์ ร้านขายผลไม้ ร้านเบเกอร์รี่ มันขึ้นอยู่กับว่า ประชาชนยังสนับสนุนเราต่อไปหรือไม่"


 


เพียง 8 เดือนที่ "เทสโก้ เอ็กเพรส" ดำเนินการ ฟิล ฟอร์ดแธม เจ้าของร้าน เบเกอร์ บาสเก็ตที่เปิดดำเนินการมากกว่า 20 ปีบอกกับบีบีซีว่า เขากำลังตัดสินใจปิดกิจการ เพราะไม่สามารถแข่งขันกับเทสโก้ได้ "การค้าเงียบกว่าเดิมมาก ไม่ค่อยมีลูกค้าเข้าร้าน คนเดินผ่านไปผ่านมามากกว่า แม้ลูกค้าประจำจะยังมาอุดหนุนอยู่บ้างก็ตาม แต่ยอดขาดลดลง 20-30% นับตั้งแต่ "เทสโก้ เอ็กเพรส" เปิดดำเนินการ"


 


แอนดรู ซิมส์ จากมูลนิธินิวอีโคโนมิค ให้ความเห็นว่า สถานการณ์เช่นนี้เป็นเรื่องปกติที่ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่จะลดความหลากหลายในท้องถิ่น ทำให้ร้านค้าท้องถิ่นอยู่ไม่ได้ และลดเงินหมุนเวียนในท้องถิ่น เพราะห้างค้าปลีกจะนำเงินออกจากชุมชน


 


ขณะที่ โฆษกของเทสโก้ กล่าวแย้งว่า "วัตถุประสงค์ของเทสโก้ เราต้องการเป็นส่วนหนึ่งของความเจริญรุ่งเรืองทางธุรกิจของชุมชน ด้วยการสร้างตัวเลือกที่เพิ่มขึ้นให้กับลูกค้า"


 


แม้ว่าจะยังมีร้านค้าท้องถิ่นบางส่วนยังไม่ได้รับผลกระทบกระเทือนจากการเข้ามาของ "เทสโก้ เอ็กเพรส" แต่พวกเขาจะหยัดยืนได้อีกนานเท่าไร ไม่มีใครทราบได้ และนี่คงเป็นเหตุผลบางส่วนที่ ชาวเมืองนอร์ริชที่ต้องการรักษาคุณภาพชีวิตของพวกเขาและชุมชนที่พวกเขารักเอาไว้ด้วยการ Say No to Tesco


 


ความเคลื่อนไหวของชุมชนตลาดศาลเจ้าโรงทอง


เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2549 นายพันธุ์เทพ สุลีสถิร สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อ่างทอง แกนนำกลุ่มผู้คัดค้านการก่อสร้างห้างเทสโก้โลตัสตรงสี่แยกไฟแดง อำเภอวิเศษชัยชาญ ร่วมกับชาวบ้านในชุมชนราว 100 คน ได้เข้ายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือในการคัดค้านห้างดังกล่าวต่อนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานรัฐสภา และ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีต ส.ว. จังหวัดกรุงเทพ


 


เนื้อหาในหนังสือระบุว่าการคัดค้านห้างเทสโก้โลตัสแห่งนี้มีเหตุผลประกอบ 3 ข้อใหญ่ๆ และเป็นเหตุผลที่รวบรวมจากชาวบ้านในชุมชนเกือบทั้งหมด ซึ่งเหตุผลที่ว่า ได้แก่


 


1.ห้างเทสโกโลตัส เป็นธุรกิจข้ามชาติขนาดใหญ่ สามารถใช้ความได้เปรียบทางด้านทุนการค้าเพื่อรุกเข้ามาทำลายระบบการค้าของคนไทยในชุมชน เพราะชาวบ้านเคยร่วมกันทำธุรกิจแบบช่วยเหลือเกื้อกูล ถ้อยทีถ้อยอาศัย มีการสร้างความรู้จักมักคุ้นจนก่อเกิดปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันตามพื้นฐานของคนไทย และถ้าเปรียบเทียบจากประสบการณ์จากจังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทยที่มีห้างโลตัสไปตั้งอยู่ พบว่า ผู้ประกอบการรายย่อยที่เป็นคนไทยต้องพบกับความล่มสลายในที่สุด ซึ่งข้อมูลข่าวสารตามสื่อกระแสหลักต่างๆ ก็มีการรายงานข่าวอยู่เนืองๆ ว่าประชาชนมักจะเดินขบวนต่อต้านประท้วงที่โลตัสรุกเข้าไปในทุกพื้นที่ และทำให้เกิดการทำลายสถานะของผู้ประกอบการรายย่อยอย่างไม่มีคุณธรรม


 


2.นอกจากนี้ การก่อตั้งของห้างเทสโกโลตัสยังเป็นการทำลายวัฒนธรรมประเพณีของชุมชน สร้างความเสียหายให้กับผู้ประกอบการรายย่อยที่เป็นคนไทย ซึ่งคนในชุมชนส่วนใญ่ได้รวมตัวกันค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าซึ่งกันและกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน จนได้รับการขนานนามว่า "ตลาดเก่าร้อยปี" และมีจุดแข็งด้านวัฒนธรรมประเพณีสืบทอดกันนานถึง 2-3 ชั่วอายุ แต่สิ่งเหล่านี้อาจจะล่มสลายเพราะถูกทุนนิยมข้ามชาติกลืนกินเอกลักษณ์ของชุมชนไปในระยะเวลาอันสั้น


 


3.ธุรกิจค้าปลีกข้ามชาติอาจส่งผลให้เกิดพฤติกรรมบริโภคนิยมและการสร้างค่านิยมแบบผิดๆ จนทำลายแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของในหลวง แต่คนไทยต้องตกเป็นเหยื่อการบริโภคแบบใหม่จากรู้ไม่เท่าทันธุรกิจข้ามชาติที่ใช้กลยุทธ์ทางการตลาดมาเป็นตัวกระตุ้นให้คนในชุมชนพากันหลงระเริงกับความสุขในการเดินชอบปิ้ง ทำให้เกิดการบริโภคแบบฟุ่มเฟือย และใช้จ่ายเกินความจำเป็น


 


แม้ขณะนี้เวลาจะผ่านไปได้เดือนเศษ นับจากวันที่มีการยื่นหนังสือคัดค้านห้างเทสโกโลตัส ชาวตลาดเก่าร้อยปีวิเศษชัยชาญยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ ที่จะช่วยเยียวยาให้พวกเขารู้สึกดีขึ้น ถึงขนาดที่หนึ่งในผู้ร่วมคัดค้านการสร้างห้างเทสโกโลตัสคนหนึ่งถึงกับกล่าวอย่างสิ้นหวังว่า


 


 "ตอนนี้เวลาของการใช้ดุลยพินิจของเทศบาลในการอนุญาตก่อสร้างก็เหลืออีกไม่นานนัก เท่ากับเป็นการชี้ชะตา ชี้เป็นชี้ตายของคนในชุมชนตลาดเก่าร้อยปี ซึ่งคืบคลานเข้ามาใกล้ทุกขณะแล้ว อย่าให้วันนั้นเป็นวันพิพากษาประหารชีวิตชาวชุมชนตลาดศาลเจ้าโรงทองเลย"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net