หลังมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 15 ตุลาคม สถานการณ์ทางการเมืองก็เริ่มคลายความร้อนลง ยิ่งปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือของ กกต.ชุดเดิม จบลงด้วยคำพิพากษาของศาล และการลาออกของอดีต กกต.ทั้ง 3 เกือบทุกอย่างก็เข้าร่องรอย จนออกจะง่ายเกินไป และไม่ควรจะง่ายอย่างนี้
คุณ
คุณอภิสิทธิ์อาจจะได้เห็นทางลมอะไรบางอย่างแล้ว และก็อาจจะประเมินว่า ถึงวันนี้คุณทักษิณหมดอำนาจในการผูกขาดแผ่อิทธิพลลงไปเยอะ พอที่จะต่อสู้ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ หรืออาจจะคิดว่า สู้ไปคนที่จะมีสิทธิเป็นนายกฯ อาจจะเป็นคนนอก ไม่ใช่คุณอภิสิทธิ์ ซึ่งนั่นก็คงจะเป็นประชาธิปไตยแบบแปลกๆ น่าดู
แต่จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ ผมเองยังคงเห็นว่าคุณทักษิณนั้นควรจะต้อง "เว้นวรรค" ไม่ใช่เพราะคุณทักษิณได้ประกาศ "เว้นวรรค" ในวันหลังมีผลการเลือกตั้งออกมาซึ่งเป็นโมฆะไปแล้ว ไม่ใช่เพราะแกจะมาสร้างปัญหา มีเหตุผลใหญ่ๆ เพียงเหตุผลเดียวที่คุณทักษิณควรจะเว้นวรรค นั่นก็คือ มัน "สร้างสรรค์" กว่า
ยังไงหรือครับ
ก็เพราะคุณทักษิณ ควรจะใช้เวลาที่เว้นวรรค และเวลาที่สังคมกำลังมีการปฏิรูปการเมือง ไม่ว่าจะมีความหมายอย่างไรนี้เพื่อ สรุปบทเรียน ว่าอะไร ทำไม ทำให้มีคนจำนวนหนึ่งไม่ชอบคุณทักษิณ จนต้องไล่กันขนาดนี้
นั่นอาจจะไม่เท่าไร ถ้าคุณทักษิณจะโทษว่าเพราะคนนั้นๆๆ แล้วก็นั้นๆๆ เสียประโยชน์
แต่อย่าลืมว่า มีคนอีกจำนวนหนึ่งที่ประกาศตัวเป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาตลอดชีวิต ถึงกับต้องยอมเสียหลักการและประวัติดีงามของตนเพื่อไล่คุณทักษิณ แล้วเอานายกฯมาจากผู้มีบารมีอื่นๆ ที่ "ไม่เป็นประชาธิปไตย" นี่สิที่น่าคิด
อย่าลืมด้วยว่า มีอาซิ้ม อาเจ๊ พนักงานออฟฟิศ ที่ตะโกนไล่คุณทักษิณ ในประเด็นที่ม็อบไล่คุณทักษิณไม่ได้พูด หรือไม่ได้ถูกใครสร้างกระแสปั่นให้ต้องมาตะโกนไล่กับเขาด้วย
คุณทักษิณน่าจะใช้เวลานี้ จูงมือหมอมิ้ง-พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช คุณอ้วน-ภูมิธรรม เวชยชัย คุณเกรียง-เกรียงกมล เลาหะไพโรจน์ คุณอ๋อย-จาตุรนต์ ฉายแสง คุณหญิงอ้อ-พจมาน ชินวัตร ไปเที่ยวที่ไหนสักที่ที่ไกลบ้านไกลเมือง จะเป็นฟินแลนด์ก็ได้ อย่าไปสนว่าใครจะมองอย่างไร แล้วใช้เวลาสักพัก หาเครื่องมือละลายพฤติกรรมที่เคยเป็นนาย-เป็นบ่าว ให้กลายเป็นเพื่อน บอกกับพวกเขาว่า เรามาคุยกันประสาเพื่อน เชิญด่า เชิญวิจารณ์ผมได้เลยว่า 6 ปีที่ผ่านมา ผมทำอะไรผิด
คุณ
ระหว่างนั้นจะให้ อ.ชัยวัฒน์ จัดคอร์สสั้นๆ เพื่อฟังความทุกข์ของคุณ
เพื่อการต่อเนื่อง คุณทักษิณน่าจะได้ลองไปขอความรู้จากกรรมการสิทธิมนุษยชนว่าเขาคิดอย่างไร กับการตายของคน 2,000 กว่าคน ในสงครามปราบปรามยาเสพติด ที่รัฐแทนที่จะป้องกันแต่กลับส่งสัญญาณไฟเขียว
หลังจากนั้น ผมเชื่อว่าคุณทักษิณคงต้องใช้เวลาสักพักสำหรับเยียวยาความเจ็บช้ำที่เกิดจากความละอายในสิ่งที่ได้กระทำไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีเพื่อจะได้เกิดความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาอย่างที่ถูกที่ควร
เมื่อคุณทักษิณตั้งหลักได้ คุณทักษิณควรจะต้องใช้เงินที่มีอยู่มากมายมหาศาล ตั้งทีมชาวบ้านร่วมกันนักวิชาการศึกษาวิจัยทุกด้านเกี่ยวกับปัญหา และสาเหตุรากเหง้าของปัญหา ทั้งเรื่อง ดิน น้ำ ป่า ทะเล ชายฝั่ง แล้วคงไม่ยากเกินไปที่คุณทักษิณจะใช้เวลาเพื่อศึกษา ถกเถียงร่วมกับชาวบ้านกลุ่มต่างๆ เพื่อจัดทำนโยบาย อย่างน้อยก็ให้เหมือนที่พรรคไทยรักไทยเคยทำก่อนที่จะตั้งพรรค แต่เพิ่มคุณภาพขึ้นโดยตั้งเป้าว่าจะไปให้พ้นจากระดับประชานิยม เพื่อสร้างความยั่งยืนในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ เป็นองค์รวม
ศึกษาให้เยอะๆ ติดดินเข้าไว้ อย่าต้องมีผู้ติดตามให้มากความ ระวังพวกสอพลอให้จงหนัก อย่าต้องมีสื่อเพื่อการสร้างภาพ เพื่อที่คุณทักษิณจะเอาความเข้าใจเหล่านั้นบ่มเป็นความกล้าเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ระหว่างนั้นควรจะให้คุณ
ฯลฯ
ทีนี้ ถ้ารัฐบาลที่ไม่มีคุณทักษิณอยู่ด้วย และรัฐสภาผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้ว คุณทักษิณก็พิจารณาเถิดครับว่า จะกลับมาเป็นนายกฯอีกดีไหม ถ้าคุณทักษิณเป็นคนใหม่ (ซึ่งถ้าใหม่ได้ก็แปลว่ายังหนุ่ม) คุณทักษิณย่อมต้องใช้เวลาอดทนพิสูจน์
แล้วถ้าสมควรจะต้องเป็นนายกฯ ต่อ เพราะสภาถูกยุบตามทำนองคลองธรรม หรือตามบทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญที่แก้ไข คุณทักษิณควรจะต้องให้สัจจะว่า จะไม่แทรกแซงองค์กรอิสระ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ จะโปร่งใสตรวจสอบได้ คุณทักษิณกับครอบครัวจะไม่ทำธุรกิจ จะตรงไปตรงมา และจะแก้ไขปัญหา 1
2
3
4 จะเคารพสิทธิมนุษยชนเหมือนเคารพศักดิ์ศรีความเป็นคนของตัวเอง และจะดำรงตำแหน่งสมัยเดียว สมัยสุดท้าย ก่อนจะเลิกเล่นการเมือง
แต่ถ้าจะให้ดี ให้ชัวร์ แสดงความบรรลุถึงแก่นแท้ คุณทักษิณจะตัดสินใจไม่เป็นนายกฯ อันนี้ผมเชื่อว่า คนก็คงจะโมทนาสาธุ
ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณทักษิณควรจะต้องคิดแล้วว่า ณ กาลเวลาอีกหลายชั่วคนนี้ คุณทักษิณ จะให้คนจดจำว่าอย่างไร
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)