Skip to main content
sharethis

ภาคใต้—1 ก.ค. 2549 คนของรัฐ ผวา "มะแซ อุเซ็ง" หาข่าวกันให้ควั่ก หลังมีข่าวหลบเข้าไทยวางแผนป่วนใต้อยู่เป็นระยะ ครูเจออีกลอบบึ้มเจ็บ 1 เปิดอบรมแพทย์ - พยาบาลชายแดนใต้ ตั้งเป้าช่วยคนบาดเจ็บไม่ให้เสียชีวิต - พิการ "ด่านเบตง" ตรวจเข้มคนเข้า - ออกพรมแดน สื่อมาเลย์พ่นพิษ ตีข่าวภาคใต้ไม่ปลอดภัย จำนวนนักท่องเที่ยววูบทันตา


 


ผวา "มะแซ อุเซ็ง" ป่วนใต้


รายงานข่าวจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แจ้งว่า ขณะนี้บรรดาหน่วยข่าวของรัฐ พยายามติดตามหาข่าวความเคลื่อนไหวของนายมะแซ อุเซ็ง อดีตครูโรงเรียนสัมพันธ์วิทยา อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ซึ่งมีหมายจับในข้อหาปล้นปืนกองพันพัฒนา อำเภอเจาะไอร้อง และเป็นหัวหน้าอุสตาซ ในขบวนการแบ่งแยกดินแดน บีอาร์เอ็น โคออดิเนต เนื่องจากมีข่าวออกมาเป็นระยะว่า นายมะแซซึ่งหลบหนีไปอยู่ที่มาเลเซีย ลักลอบกลับเข้ามาเคลื่อนไหวเตรียมการก่อความไม่สงบในจังหวัดนราธิวาส


 


ขณะเดียวกันบริเวณพรมแดนไทย - มาเลเซีย ด้านอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ได้เพิ่มมาตรการตรวจสอบบุคคลเข้าออกพรมแดน สถานที่ราชการ และยานพาหนะมากขึ้น เพราะเกรงกลุ่มก่อความไม่สงบจะใช้เส้นทางเข้าออกตามแนวพรมแดนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้ามาก่อความไม่สงบในพื้นที่ สำหรับอำเภอเบตงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาน้อยลง หลังจากหนังสือพิมพ์ในมาเลเซียลงข่าวเกี่ยวกับความไม่ปลอดภัยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้


 


ตำรวจเตือนอย่าเชื่อข่าวลือ


พล.ต.ต.ธานี ทวิชศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กล่าวว่า ขอให้ประชาชนอย่าสนใจข่าวลือ เพราะคนร้ายไม่ได้ออกมาบอกล่วงหน้าก่อนลงมือ แต่คงห้ามข่าวลือไม่ได้ ขณะนี้ทุกฝ่ายได้วางมาตรการป้องกันเต็มที่อยู่แล้ว จากการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ ทำให้หน่วยข่าวกรองปะติดปะต่อภาพเหตุการณ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ร่วมกันประมวลข้อมูลออกมา จนเห็นรูปแบบ วิธีการของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ แต่ยังเปิดเผยได้ สำหรับการแก้ปัญหาคงต้องใช้ความอดทนอย่างมาก


 


"อ๋อย" ลงใต้


เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2549 ที่โรงแรมเจบี. หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานปิดการสัมมนาอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หรืออ.ก.ค.ส. 14 จังหวัดภาคใต้ โดยนายจาตุรนต์ได้กำชับให้ดูแลและสร้างระบบให้เกิดความยุติธรรมกับครู 3 จังหวัดชายแดนใต้เป็นกรณีพิเศษ เพื่อประคับประคองให้ครูในพื้นที่ดังกล่าว ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ดีกว่าแก้ปัญหาด้วยการย้ายออกนอกพื้นที่


 


วางระเบิดครูเจ็บ1


เวลา 08.15 น.วันเดียวกัน เกิดเหตุระเบิดบนถนนสายตากใบ - สุไหงโก-ล ก บริเวณหน้าร้าน "บ้านใหญ่คาร์แคร์" บ้านใหญ่ หมู่ 3 ตำบลพร่อน อำภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากป้อมยามตำรวจบ้านปูยูประมาณ 100 เมตร สะเก็ดระเบิดถูกนางวิมลพร ชัยสิทธิ์ อายุ 22 ปี ครูอัตราจ้างโรงเรียนบ้านตะเลียง ตำบลเกาะสะท้อน อำเภอตากใบ ที่บริเวณตะโพกด้านขวาได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์


 


ในที่เกิดเหตุ มีรถยนต์ได้รับความเสียหาย 2 คัน คันปรกเป็นรถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กข - 6127 นราธิวาส ของนางกุณฑิกา ทวีลาศ ถูกสะเก็ดระเบิดกระจกด้านหน้าแตกละเอียดตัวถังมีรอยพรุน ส่วนคันที่ 2 เป็นรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บง-964 นราธิวาส ของน.ส.ศรัญญา หมวกสกุล อายุ 24 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณตัวถังด้านซ้ายหลายรู มี น.ส.ศรัญญา หมวกสกุล อายุ 24 ปี เจ้าของทั้ง 2 คน เป็นครูโรงเรียนบ้านตะเลียง ตำบลพร่อน


 


แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมกว้าง 1 เมตร ลึก 20 เซนติเมตร ภายในรัศมี 15 เมตร พบชิ้นส่วนประกอบวัตถุระเบิด เป็นปุ๋ยยูเรีย เหล็กหุนตัดยาว 1 นิ้ว เชื้อปะทุ เศษหม้ออะลูมิเนียม และซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ ตรวจสอบพบว่า เป็นระเบิดแสวงเครื่อง บรรจุในหม้ออะลูมิเนียม จุดด้วยชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ น้ำหนัก 5 กิโลกรัม


 


จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายสมโภชน์ ทองคุก ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตะเหลียง พร้อมด้วยครูโรงเรียนบ้านตะเหลียง และครูโรงเรียนบ้านเกาะสะท้อน อำเภอตากใบ 24 คน ได้นำรถยนต์ส่วนตัว และโดยสารรถยนต์มาจอดยังจุดนัดพบ ที่บริเวณหน้าร้าน "บ้านใหญคาร์แคร์" เพื่อรอชุดรักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็นกำลังผสมตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ที่จะนำคณะครูไปส่งโรงเรียน แต่เกิดเหตุระเบิดเสียก่อน หลังเกิดเหตุทางโรงเรียนบ้านตะเหลียงได้ประกาศปิดการเรียนการสอนชั่วคราว 1 วัน


 


หน่วยคอมมานโดซ้อมชิงตัวประกัน


เวลา 10.00 น. วันเดียวกัน ที่ลานฝึกศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จังหวัดยะลา พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า เป็นประธานการซ้อมแผนเผชิญเหตุคนร้ายจับตัวประกัน โดยชุดปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด หน่วยแพทย์ตำรวจ ตำรวจภูธรภาค 9 เข้าร่วมฝึกซ้อมกว่า 200 นาย


 


พล.ต.ท.อดุลย์ กล่าวว่า ขณะนี้การก่อความไม่สงบมีหลายรูปแบบ ทั้งการลอบวางระเบิด ซุ่มโจมตี โรยตะปูเรือใบ เผาสถานที่ราชการ จับตัวประกัน จำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อมให้กับหน่วยปฏิบัติ ทั้งด้านกำลังพลและยุทธวิธี เพื่อให้รับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วงปีที่ผ่านมาศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ได้ฝึกกำลังพลไปแล้วไม่น้อยกว่า 13,000 คน สำหรับการซ้อมครั้งนี้ เป็นการทดสอบระบบของแผนการรับมือเผชิญเหตุจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ


 


พล.ต.ท.อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบวางระเบิด และยิงถล่มชุดคุ้มครองครู เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2549 เป็นเหตุให้อาสาสมัครรักษาดินแดน 4 นาย และทหาร 1 นายเสียชีวิต ที่บ้านบูเกะบือราแง ตำบลอาซ่อง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา จากตรวจค้นในอำเภอรามันกว่า 20 จุด สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยได้ 8 คน ตอนนี้กำลังขยายผล พอจะทราบกลุ่มคนร้ายแล้ว มีส่วนเชื่อมโยงอยู่กับกลุ่มที่เคยก่อเหตุในพื้นที่มาหลายครั้ง ขณะนี้ยังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่


 


ทอ.อบรมแพทย์ใต้ลดการเสียชีวิตคนเจ็บ


วันเดียวกัน ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ จังหวัดนราธิวาส พล.อ.ต.อภิชาติ โกยสุขโข นายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นประธานในพิธีปิดการอบรมแพทย์และพยาบาลในโครงการทหารอากาศรวมใจแพทย์ไทยสู่ใต้ มีแพทย์ 25 คน พยาบาล 46 คน จากโรงพยาบาลในพื้นที่ เข้ารับการอบรมเป็นเวลา 2 วัน


 


พล.อ.ต.อภิชาติ กล่าวว่า โครงการฝึกอบรมการช่วยเหลือชีวิตผู้บาดเจ็บให้กับกลุ่มแพทย์และพยาบาล เกิดจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีแนวโน้มการเสียชีวิตและพิการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งกว่าร้อยละ 50 เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ร้อยละ 30 เสียชีวิตภายในชั่วโมงแรก หลังได้รับบาดเจ็บ และร้อยละ 20 เสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อน ในระยะ 1 วันถึง 1 สัปดาห์


 


พล.อ.ต.อภิชาติ กล่าวต่อไปว่า การจัดอบรมเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้บาดเจ็บในระยะแรก จึงเป็นความจำเป็น เพราะอาจจะลดอัตราการเสียชีวิตที่สูงถึงร้อยละ 30 ในระหว่างช่วงการขนย้าย หรือหลังจากได้รับบาดเจ็บ 1 ชั่วโมง ให้เหลือเพียงร้อยละ 15 ได้ จากเหตุผลดังกล่าวแพทย์และพยาบาล จึงจำเป็นต้องได้รับความรู้ ทักษะในการประเมินอาการผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างถูกต้อง รวดเร็ว สามารถกู้ชีวิต ให้การช่วยเหลือ เคลื่อนย้าย และส่งต่อผู้บาดเจ็บตามความเร่งด่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ


 


พล.อ.ต.อภิชาต กล่าวอีกว่า โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์มีความพร้อมด้านเครื่องมือมาก เชื่อว่าเมื่อได้รับการอบรมแล้ว จะทำให้แพทย์และพยาบาลสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตลงได้ ส่วนปัญหาโรงพยาบาลขาดแคลนบุคลากร หากมีการร้องขอก็จะดำเนินการช่วยเหลือทันที ขณะนี้ มีทีมแพทย์ทหารบกหมุนเวียนกันมาช่วยอยู่


 


ศ.ดร.สมจิต หนุเจริญกุล อุปนายกสภาการพยาบาล ในฐานะผู้ดูแลการจัดอบรม เปิดเผยว่า โครงการนี้จะมีการจัดทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เลือกจังหวัดนราธิวาสก่อน เพราะมีความพร้อมทั้งแพทย์ พยาบาลและเครื่องมือ ส่วนอีก 2 จังหวัด จะจัดในเดือนถัดไป สำหรับการอบรมในลักษณะนี้ มีความจำเป็นมาก เพราะทีมแพทย์และพยาบาลต้องช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ลดอัตราการเสียชีวิตและพิการให้ได้ ขณะเดียวกันต้องการให้แพทย์และพยาบาล มีขวัญและกำลังใจดีขึ้น มีความรู้ความสามารถมากขึ้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net